fbpx

ลูกเสียใจ เรียนสู้เพื่อนไม่ได้!! รับมือได้ด้วย 8 วิธีนี้

Writer : giftoun
: 17 กันยายน 2562

เมื่อลูกเข้าสู่วัยเข้าโรงเรียนแล้ว เริ่มมีกิจกรรมที่ต้องทำร่วมกับเพื่อนๆ มากมาย บางครั้งในการเรียนอาจมีการแข่งขันกันบ้าง จนลูกอาจมีความเสียใจหรือน้อยใจที่เก่งสู้เพื่อนไม่ได้ แล้วคุณพ่อคุณแม่จะมีวิธีรับมือกับความเสียใจของลูกและสามารถให้กำลังใจได้อย่างไรบ้าง มาดูกันเลยค่ะ

อยู่เคียงข้างลูกเสมอ

ไม่ว่าลูกจะเจอเรื่องที่ผิดหวังมากน้อยเพียงใด ขอให้คุณพ่อคุณแม่อยู่เคียงข้างลูกเสมอ เมื่อลูกรู้ว่ามีคนคอยเคียงข้างเขาก็จะทำให้ลูกนั้นคลายความเสียใจได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้นค่ะ

แสดงความรักให้กับลูก

การแสดงความรักต่อหน้าลูกถือเป็นการให้กำลังใจลูกได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว เมื่อคุณพ่อคุณแม่ได้ถ่ายทอดพลังเชิงบวกให้กับลูกไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ใด ลูกก็จะรู้สึกดีขึ้นได้แน่นอนค่ะ

พูดถึงข้อดีของลูก

เมื่อผลการเรียนไม่ได้เป็นไปอย่างที่ลูกหวังย่อมมีความเสียใจอยู่บ้าง ขอให้คุณพ่อคุณแม่ลองพูดถึงข้อดีของลูกในด้านอื่นๆ เช่น เล่นกีฬาเก่ง ช่วยงานบ้าน เก็บของเล่น เป็นต้น จะทำให้ลูกรู้สึกว่าอย่างน้อยตนเองก็มีข้อดีในด้านอื่นๆ บ้างเหมือนกัน ไม่จำเป็นจะต้องเรื่องเรียนเสมอไปค่ะ

เป็นกำลังใจให้กับลูก

กำลังใจจากคุณพ่อคุณแม่ที่เติมให้ลูกไม่ขาดจะทำให้ลูกนั้นรู้สึกอยู่เสมอว่าท่านจะอยู่เคียงข้างทุกเวลา เมื่อลูกจะต้องทำอะไรก็ตาม ลูกก็จะรู้สึกฮึกเหิม มีพลังฮึดสู้ที่จะทำต่อไปค่ะ

มาพยายามด้วยกันใหม่

เมื่อลูกพลาดหวังเสียใจจากการเรียน คุณพ่อคุณแม่ไม่ควรตำหนิหรือลงโทษลูก แต่ควรให้กำลังใจแก่ลูก และทำให้ลูกรู้สึกว่าเขาไม่ได้เผชิญความผิดหวังคนเดียว แต่ยังมีคุณพ่อคุณแม่ที่พร้อมจะเริ่มต้นใหม่ด้วยกันค่ะ

แสดงความภูมิใจในตัวลูก

เมื่อลูกเสียใจที่เรียนสู้เพื่อนไม่ได้ สิ่งที่คุณพ่อคุณแม่ทำได้นอกจากการให้กำลังใจแล้ว การแสดงความภูมิใจในตัวลูกจะทำให้ลูกนั้นรู้จักคุณค่าในตนเอง เวลาจะคิดจะทำอะไรก็จะนึกถึงคุณพ่อกับคุณแม่ก่อนเสมอค่ะ

สร้างความเชื่อมั่นให้กับลูก

การที่คุณพ่อคุณแม่นั้นแสดงความเชื่อมั่นในตัวลูก จะทำให้ลูกมีพลังใจในการทำสิ่งต่างๆ ให้สำเร็จลุล่วงได้เป็นอย่างดี ไม่มัวจมกับความเสียใจที่เกิดขึ้นค่ะ

บอกให้รู้ว่าทำดีที่สุดแล้ว

การบอกให้ลูกรู้ว่าสิ่งที่ทำนั้นถือว่าดีที่สุดแล้ว ถือเป็นคำปลอบใจที่สอนลูกจักความผิดหวัง แต่ก็ไม่จมกับความทุกข์ ทั้งยังสร้างกำลังใจมลูกมีแรงฮึดขึ้นสู้อีกครั้งค่ะ

ยามที่ลูกนั้นรู้สึกท้อแท้และเสียกำลังใจนั้น ยาใจที่ดีที่สุดสำหรับลูกนั่นคือคุณพ่อคุณแม่นี่เอง ขอแค่ทำให้ลูกรู้ว่าอยู่เคียงข้าง ลูกน้อยก็สุขใจแล้วล่ะค่ะ

ที่มา – rakluke

Writer Profile : giftoun


  • Official Sponsors :
  • Samitivej Hospital

Generic placeholder image

บทความที่เกี่ยวข้อง



โรงเรียนอนุบาลทางเลือกที่โดนใจคุณแม่
เด็กวัยเข้าโรงเรียน
ประโยชน์ของกีฬาสีโรงเรียน
เด็กวัยเข้าโรงเรียน
ทำไมลูกชอบร้องไห้ก่อนไปโรงเรียน
เด็กวัยเข้าโรงเรียน
Update
Banner Banner
เมื่อคุณแม่หลายท่านเป็นกังวลกับเรื่องพัฒนาการสมองและภูมิคุ้มกันที่แตกต่างกันของลูกน้อยที่ผ่าคลอดกับเด็กคลอดธรรมชาติ กลัวว่าลูกน้อยจะมีโอกาสป่วยง่ายหรือมีพัฒนาการสมองช้ากว่าเพื่อนๆ ทำให้คุณแม่ต้องใส่ใจกับการดูแลลูกน้อยมากยิ่งขึ้น เสมือนการเร่งเสริมสร้างเกราะคุ้มกันให้ลูกน้อยเติบโตพร้อมปรับตัวกับโลกยุคใหม่ที่เต็มไปด้วยการเปลี่ยนแปลง วันนี้เราจะพาไปดูเคล็ดไม่ลับ ฉบับการดูแลพัฒนาการสมองของลูกน้อยและภูมิคุ้มกันของเด็กผ่าคลอดที่คุณแม่ไม่ควรมองข้าม ช่วยเติมเต็มในสิ่งที่ลูกผ่าคลอดต้องการได้ ไปดูกันเลย! เกราะคุ้มกันแรกที่หายไปของเด็กผ่าคลอด เด็กผ่าคลอดมักจะป่วยง่ายหรือมีปัญหาสุขภาพมากกว่าเด็กที่คลอดโดยธรรมชาติ เพราะสูญเสียโอกาสในการได้รับเชื้อจุลินทรีย์สุขภาพ ผ่านทางบริเวณช่องคลอดของคุณแม่ ทำให้เกราะคุ้มกันแรกเกิดของลูกน้อยผ่าคลอดหายไปส่งผลให้เด็กมีพัฒนาการทางระบบภูมิคุ้มกันตั้งต้นช้ากว่าเด็กที่คลอดตามธรรมชาติ บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) เป็นจุลินทรีย์ชนิดดีที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันตั้งต้น โดยเฉพาะระบบภูมิคุ้มกันในระบบทางเดินอาหาร คุณแม่จึงต้องเร่งเสริมสร้างเกราะคุ้มกันให้ลูกน้อยมีพื้นฐานที่ดีตั้งแต่เริ่มต้น เพื่อช่วยให้ลูกน้อยของเรามีมีระบบภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้น เสริมสร้างพัฒนาการด้านสมองของเด็กผ่าคลอดด้วย “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” คือสารอาหารที่พบมากในนมแม่ เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้การทำงานสมองของลูกน้อยมีประสิทธิภาพ สร้างสมองไวกว่าเดิม เชื่อมต่อเซลล์สมอง 1 แสนล้านเซล์ อัพเกรดเด็กเจนใหม่ โดยสร้างสารสื่อประสาทในสมอง และเพิ่มความเร็วการส่งสัญญาณประสาทแบบก้าวกระโดด “สฟิงโกไมอีลิน” คือ ไขมันกลุ่มฟอสโฟไลปิด พบได้มากในน้ำนมแม่ที่อุดมไปด้วยสารอาหารกว่า 200 ชนิด ซึ่ง “สฟิงโกไมอีลิน”เป็นองค์ประกอบในการสร้างปลอกไมอีลิน ซึ่งมีผลต่อการทำงานของสมองให้ส่งสัญญาณประสาทได้ไวและประมวลผลอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้เกิดการจดจำเร็ว เรียนรู้ไว สมองของเด็กผ่าคลอดและเด็กที่คลอดตามธรรมชาติ มีการสร้างไมอีลินในสมองแตกต่างกัน โดยเฉพาะที่ส่วนของสมอง ที่ทำหน้าที่เชื่อมโยงระหว่างสมองซีกซ้ายและซีกขวา คุณแม่จึงควรคำนึงถึงจุดเริ่มต้นที่แตกต่าง ของเด็กผ่าคลอดเจนใหม่ ด้วยการเตรียมสมองไวและภูมิคุ้มกันที่ดีด้วย “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” และ บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) จากนมแม่ให้ลูกน้อยยิ่งเริ่มเร็วก็ยิ่งดี เพราะพัฒนาการสมองที่ดีในวัยเด็ก ถือเป็นรากฐานสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการมองเห็น การได้ยิน หรือการเรียนรู้ภาษาสิ่งเหล่านี้ล้วนเกิดจากพัฒนาการของสมองเพราะสมองคือจุดเริ่มต้น ของทุกพัฒนาการของลูกน้อย เตรียมพร้อมเด็กผ่าคลอดให้มีสมองไวและภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้นได้ คุณแม่สามารถเติมเต็มในสิ่งที่ลูกน้อยผ่าคลอดต้องการได้ด้วยสารอาหารที่สำคัญอย่างเช่น “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” ที่ช่วยเพิ่มความเร็วในการส่งสัญญาณประสาทได้เร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น และโพรไบโอติก บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) ตัวช่วยที่ทำให้ลูกน้อยมีภูมิคุ้มกันสุขภาพที่ดี ดังนั้นคุณแม่ก็วางใจได้ หากเราเสริมสร้าง…
3 กันยายน 2568

anal porno zdarma culi nudi al mare free sex videos antalya escort

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save