fbpx

แจก 10 เมนูอาหาร เติมพลังให้คุณแม่หลังจากคลอดลูก

Writer : giftoun
: 24 ตุลาคม 2561

หลังจากที่คุณแม่เพิ่งคลอดลูกไปนั้น อาจจะมีอาการเหนื่อยล้าเนื่องจากต้องใช้พลังงานเยอะในการคลอดลูก เราเลยขอแจก 10 เมนูอาหารฟรี!! ไว้เติมพลังให้คุณแม่หลังจากคลอดลูกมาให้ได้ลองทำทานกันดูนะคะ

ข้าวต้มปลา + น้ำส้มสดไม่ผสมน้ำตาล

มื้อเช้าเป็นอาหารมื้อแรกของวัน จึงควรเริ่มต้นด้วยอาหารที่ย่อยง่าย รสอ่อนๆ มีส่วนผสมของน้ำค่อนข้างมาก จะช่วยให้ระบบการย่อยและดูดซึมทำงานได้ดี ลดอาการอึดอัดแน่นท้อง กระตุ้นให้ร่างกายพร้อมที่จะทำงานค่ะ

ขอบคุณรูปจาก rakluke

ข้าวสวยนิ่ม + ปลาผัดพริกไทยดำ + ซุปไก่ตุ๋น + ผัดผักโขม + ผลไม้สด

มื้อกลางวันถือได้ว่าเป็นมื้อที่คุรแม่ทานได้เยอะกว่ามื้ออื่นๆ มื้อนี้ร่างกายมีความพร้อมในการย่อยอาหารที่มีกากใยมากกว่ามื้อเช้า ดังนั้นควรเน้นให้มีอาหารครบทั้ง 5 หมู่ แต่ปริมาณของน้ำมันยังให้ใช้ปริมาณเล็กน้อย หลีกเลี่ยงอาหารทอด ถ้าให้ดีควรเพิ่มส่วนประกอบของหารให้มีเครื่องเทศ เช่น พริกไทย ขิง ที่ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด ช่วยการย่อยอีกด้วยค่ะ

ขอบคุณรูปจาก rakluke

ข้าวสวยนิ่ม + แกงเลียงหัวปลีตำลึงใบแมงลัก + ไข่ผัดขิง + หมูย่างซีอิ๊ว + ผลไม้สด

มื้อเย็นอาจจะให้มีปริมาณอาหารเท่ากับหรือน้อยกว่ามื้อกลางวันก็ได้ แต่ไม่ควรให้มากกว่ามื้อกลางวันเพราะคุณแม่อาจจะน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นได้ เน้นรับประทานอาหารประเภท ต้ม นึ่ง ย่าง และผัดด้วยน้ำมันน้อย และรับประทานผลไม้สดควรเลือกผลไม้ที่มีวิตามินซีสูง เพื่อช่วยลดการดูดซึมธาตุเหล็กจากผักต่างๆ แล้วเอนไซม์จากผลไม้ช่วยทำให้การเผาผลาญอาหารมีประสิทธิภาพมากขึ้น มื้อนี้อาจจะเพิ่มผักหรือสมุนไพรที่ช่วยเพิ่มน้ำนมไปด้วยก็ได้ค่ะ

ขอบคุณรูปจาก rakluke

แกงเลียงหัวปลีผักรวม

แกงเลียงหัวปลี ผักรวม นั้นเป็นเมนูเพิ่มน้ำนมยอดนิยมที่โบราณแนะนำกันมา เพราะในหัวปลีมีแคลเซียมสูง อีกทั้งยังมีโปรตีน ธาตุเหล็ก ฟอสฟอรัส วิตามินอี เบตาแคโรทีน ซึ่งช่วยบำรุงเลือด และช่วยกระตุ้นการสร้างนํ้านมอีกด้วยค่ะ

ขอบคุณรูปจาก Foodtravel

ไก่ผัดขิง

ไก่ผัดขิงเป็นเมนูที่ทุกคนคุ้นเคยกันอยู่แล้วและถือว่าทานง่าย ซึ่งขิงนั้นมีประโยชน์มากมาย มีทั้งรสหวานและเผ็ดร้อน มีคุณสมบัติในการขับลม แก้ท้องอืด จุกเสียด แน่นเฟ้อ คลื่นไส้อาเจียน แก้หอบไอ ขับเสมหะ แก้บิด เจริญอากาศธาตุ สารสำคัญในน้ำมันหอมระเหย จะออกฤทธิ์กระตุ้นการบีบตัวของกระเพาะอาหารและลำไส้ นอกจากนี้ยังประกอบด้วยกระเทียมมีช่วยบำรุงหัวใจ และเห็ดหูหนู ซึ่งในทางแพทย์จีนถือว่าเป็นยาบำรุงเลือดและพลังร่างกายได้ดี จึงเป็นเมนูที่เหมาะกับคุณแม่มากเลยค่ะ

ขอบคุณรูปจาก Foodtravel

แกงฟักทอง

แกงฟักทองถือเป็นอีกเมนูนึงที่น่าสนใจเหมือนกัน ฟักทองมีประโยขน์มากมายไม่ว่าจะช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันให้แก่ร่างกาย ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด และอื่นๆ ที่น่าสนใจคือฟักทองมีส่วนช่วยฟื้นฟูร่างกายหลังออกกำลังกายหรือหลังจากร่างกายทำงานอย่างหนัก จึงเหมาะกับการเป็นอาหารสำหรับคุณแม่หลังคลอดเป็นอย่างยิ่งค่ะ

ขอบคุณรูปจาก Foodtravel

กุยช่ายผัดตับ

กุ่ยช่ายมีคุณสมบัติช่วยบำรุงกระดูก ลดระดับความดัน และช่วยในการสร้างเม็ดเลือดแดงหรือเกล็ดเลือดต่ำ รักษาภาวะเม็ดเลือดแดงต่ำ แก้อาการอ่อนเพลียหลังคลอดลูกได้ ซึ่งเหมาะสำหรับคุณแม่ที่เพิ่งคลอดลูกเป็นอย่างมาก เมื่อนำมาผัดกับตับหมูที่ทำให้ผิวมีสุขภาพดี สายตาดี และบำรุงประสาทแล้ว ถือเป็นอีกเมนูนึงที่น่าสนใจมากเลยทีเดียวค่ะ

ขอบคุณรูปจาก Foodtravel

แกงเหลืองมะละกอสับปะรด

แกงเหลืองมะละกอสับปะรดนั้นจะได้ความเปรี้ยวหวานธรรมชาติของสับปะรดไปเต็มๆ อีกทั้งยังมีประโยชน์ต่างๆ จากผลไม้อย่างมะละกอกับสับปะรด และช่วยย่อยอีกด้วยค่ะ คุณแม่ลองหาทานกันดูนะคะ

ขอบคุณรูปจาก Foodtravel

ไข่ตุ๋นน้ำขิง

ไข่ตุ๋นน้ำขิงถือเป็นอาหารสุขภาพที่ทำได้ง่าย ได้ประโยชน์ และคุณค่าจากขิงซึ่งสรรพคุณทางยานั้นช่วยบรรเทาอาการร้อนใน ไอ เจ็บคอ และช่วยอาการท้องอืดท้องเฟ้อได้ด้วยค่ะ ยิ่งทำเป็นไข่ตุ๋นที่ทานง่ายย่อยง่ายแล้วยิ่งฟินสำหรับคุณแม่ค่ะ

ขอบคุณรูปจาก Foodtravel

ฟักทองผัดกุ้งใส่ไข่

ฟักทองผัดกุ้งใส่ไข่เป็นเมนูที่แสนง่ายแต่ได้คุณประโยชน์มากมาย ทั้งวิตามินจากฟักทอง โปรตีนจากกุ้งและไข่ เป็นอาหารที่ทำง่ายแล้วก็อร่อยอีกด้วยค่ะ เหมาะกับคุณแม่มากเลยนะคะ

ขอบคุณรูปจาก Foodtravel

และนี่คือตัวอย่างของเมนูอาหารที่ไว้เติมพลังคุณแม่หลังคลอดได้เป็นอย่างดีนะคะ คุณแม่สามารถลองทำตามเมนูดังกล่าวได้เลย นอกจากทานอาหารที่มีประโยชน์แล้ว คุณแม่อย่าลืมพักผ่อนให้เพียงพอเพื่อฟื้นฟูร่างกายด้วยนะคะ

ที่มา

Writer Profile : giftoun


  • Official Sponsors :
  • Samitivej Hospital

Generic placeholder image

บทความที่เกี่ยวข้อง



วิธีรับมือเมื่อลูกอาละวาด
เด็กอายุ 2-5 ขวบ
เพลงฮิตที่คุณแม่มักกล่อมลูกน้อยหลับ
กิจกรรมของครอบครัว
12 ข้อดีจากการให้นมแม่
เตรียมตัวเป็นแม่
ชีวิตครอบครัว ชีวิตครอบครัว
17 สิงหาคม 2561
5 ข้อดีของการมีลูกคนเดียว
เตรียมตัวเป็นแม่
พาทัวร์โปรโมชั่นเด็ดงาน Baby&Kid Best Buy 1-4 มิ.ย.
เตรียมตัวเป็นแม่
Update
Banner Banner
เมื่อคุณแม่หลายท่านเป็นกังวลกับเรื่องพัฒนาการสมองและภูมิคุ้มกันที่แตกต่างกันของลูกน้อยที่ผ่าคลอดกับเด็กคลอดธรรมชาติ กลัวว่าลูกน้อยจะมีโอกาสป่วยง่ายหรือมีพัฒนาการสมองช้ากว่าเพื่อนๆ ทำให้คุณแม่ต้องใส่ใจกับการดูแลลูกน้อยมากยิ่งขึ้น เสมือนการเร่งเสริมสร้างเกราะคุ้มกันให้ลูกน้อยเติบโตพร้อมปรับตัวกับโลกยุคใหม่ที่เต็มไปด้วยการเปลี่ยนแปลง วันนี้เราจะพาไปดูเคล็ดไม่ลับ ฉบับการดูแลพัฒนาการสมองของลูกน้อยและภูมิคุ้มกันของเด็กผ่าคลอดที่คุณแม่ไม่ควรมองข้าม ช่วยเติมเต็มในสิ่งที่ลูกผ่าคลอดต้องการได้ ไปดูกันเลย! เกราะคุ้มกันแรกที่หายไปของเด็กผ่าคลอด เด็กผ่าคลอดมักจะป่วยง่ายหรือมีปัญหาสุขภาพมากกว่าเด็กที่คลอดโดยธรรมชาติ เพราะสูญเสียโอกาสในการได้รับเชื้อจุลินทรีย์สุขภาพ ผ่านทางบริเวณช่องคลอดของคุณแม่ ทำให้เกราะคุ้มกันแรกเกิดของลูกน้อยผ่าคลอดหายไปส่งผลให้เด็กมีพัฒนาการทางระบบภูมิคุ้มกันตั้งต้นช้ากว่าเด็กที่คลอดตามธรรมชาติ บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) เป็นจุลินทรีย์ชนิดดีที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันตั้งต้น โดยเฉพาะระบบภูมิคุ้มกันในระบบทางเดินอาหาร คุณแม่จึงต้องเร่งเสริมสร้างเกราะคุ้มกันให้ลูกน้อยมีพื้นฐานที่ดีตั้งแต่เริ่มต้น เพื่อช่วยให้ลูกน้อยของเรามีมีระบบภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้น เสริมสร้างพัฒนาการด้านสมองของเด็กผ่าคลอดด้วย “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” คือสารอาหารที่พบมากในนมแม่ เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้การทำงานสมองของลูกน้อยมีประสิทธิภาพ สร้างสมองไวกว่าเดิม เชื่อมต่อเซลล์สมอง 1 แสนล้านเซล์ อัพเกรดเด็กเจนใหม่ โดยสร้างสารสื่อประสาทในสมอง และเพิ่มความเร็วการส่งสัญญาณประสาทแบบก้าวกระโดด “สฟิงโกไมอีลิน” คือ ไขมันกลุ่มฟอสโฟไลปิด พบได้มากในน้ำนมแม่ที่อุดมไปด้วยสารอาหารกว่า 200 ชนิด ซึ่ง “สฟิงโกไมอีลิน”เป็นองค์ประกอบในการสร้างปลอกไมอีลิน ซึ่งมีผลต่อการทำงานของสมองให้ส่งสัญญาณประสาทได้ไวและประมวลผลอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้เกิดการจดจำเร็ว เรียนรู้ไว สมองของเด็กผ่าคลอดและเด็กที่คลอดตามธรรมชาติ มีการสร้างไมอีลินในสมองแตกต่างกัน โดยเฉพาะที่ส่วนของสมอง ที่ทำหน้าที่เชื่อมโยงระหว่างสมองซีกซ้ายและซีกขวา คุณแม่จึงควรคำนึงถึงจุดเริ่มต้นที่แตกต่าง ของเด็กผ่าคลอดเจนใหม่ ด้วยการเตรียมสมองไวและภูมิคุ้มกันที่ดีด้วย “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” และ บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) จากนมแม่ให้ลูกน้อยยิ่งเริ่มเร็วก็ยิ่งดี เพราะพัฒนาการสมองที่ดีในวัยเด็ก ถือเป็นรากฐานสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการมองเห็น การได้ยิน หรือการเรียนรู้ภาษาสิ่งเหล่านี้ล้วนเกิดจากพัฒนาการของสมองเพราะสมองคือจุดเริ่มต้น ของทุกพัฒนาการของลูกน้อย เตรียมพร้อมเด็กผ่าคลอดให้มีสมองไวและภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้นได้ คุณแม่สามารถเติมเต็มในสิ่งที่ลูกน้อยผ่าคลอดต้องการได้ด้วยสารอาหารที่สำคัญอย่างเช่น “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” ที่ช่วยเพิ่มความเร็วในการส่งสัญญาณประสาทได้เร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น และโพรไบโอติก บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) ตัวช่วยที่ทำให้ลูกน้อยมีภูมิคุ้มกันสุขภาพที่ดี ดังนั้นคุณแม่ก็วางใจได้ หากเราเสริมสร้าง…
3 กันยายน 2568

anal porno zdarma culi nudi al mare free sex videos antalya escort

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save