fbpx

3 พัฒนาการพื้นฐานที่ลูกควรมี เมื่อถึงวัยที่ต้องไปโรงเรียน

Writer : Lalimay
: 16 กันยายน 2562

เมื่อถึงคราวที่ลูกต้องไปโรงเรียน แน่นอนว่าต้องมีการเตรียมพร้อมในทุกด้านเพื่อให้ลูกไปโรงเรียนได้อย่างไม่ต้องมีเรื่องให้กังวล ซึ่งพัฒนาการเป็นสิ่งสำคัญที่คุณพ่อคุณแม่จะต้องส่งเสริมให้ลูกมีพัฒนาการที่เหมาะสมตามวัย เพื่อให้เขาเติบโต พร้อมเรียนรู้เรื่องราว และรับมือกับสถานการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นที่โรงเรียนได้เป็นอย่างดี วันนี้เราจึงมี 3 พัฒนาการพื้นฐานที่เด็กควรมีก่อนเข้าโรงเรียนมาฝากคุณพ่อคุณแม่ทุกคนค่ะ จะมีอะไรบ้างตามมาดูกันเลย

1.มีการเรียนรู้ที่ดี

การเรียนรู้ที่ดีในเด็กวัยนี้ไม่ได้หมายถึงการอ่านเขียนได้เร็ว แต่หมายถึงมีการเรียนรู้ที่เหมาะสมตามวัย ซึ่งในช่วงวัยนี้ลูกจะมีจินตนาการ มีความคิดริ่เริมสร้างสรรค์ อยากรู้อยากเห็น ซึ่งสิ่งที่เหมาะจะพัฒนาการเรียนรู้ของลูกคือ “การเล่น” ค่ะ เพราะการให้เด็กเรียนรู้ผ่านกระบวนการเล่นนั้นเป็นสิ่งที่ช่วยกระตุ้นและพัฒนาสมองของลูก ทำให้ลูกรักการเรียนรู้ อีกทั้งในขณะที่เด็กเล่น กล้ามเนื้อสมองจะพัฒนาและช่วยเสริมการรับรู้ให้มีคุณภาพ นอกจากนี้ยังช่วยสร้างความเข้าใจและทำให้เด็กจดจำได้นานขึ้นอีกด้วย

สิ่งที่จะช่วยส่งเสริมให้ลูกมีการเรียนรู้ที่ดี ส่วนหนึ่งคือเรื่องของอาหารการกิน โดยเฉพาะอาหารที่มี DHA สูง ที่มักจะมีอยู่ในปลานานาชนิด ไม่ว่าจะเป็นปลาน้ำจืดหรือปลาทะเล เช่น ปลาช่อน ปลาแซลมอน ปลาสำลี รวมไปถึงในไข่แดง และที่สำคัญคือในน้ำนมแม่ที่มีคุณค่าทางสารอาหารและ DHA อยู่สูงทีเดียวค่ะ

2.มีร่างกายที่แข็งแรง

สุขภาพร่างกายที่แข็งแรงคือสิ่งสำคัญเมื่อลูกกำลังจะเข้าโรงเรียน เพราะที่โรงเรียนย่อมไม่เหมือนที่บ้าน เนื่องจากมีเด็กอยู่เยอะจึงอาจมีโรคติดต่อบางอย่างแพร่กระจายมาได้ เช่น โรคไข้หวัด โรคมือเท้าปาก การดูแลสุขภาพร่างกายของลูกให้แข็งแรงอยู่เสมอจึงเป็นสิ่งสำคัญ เพราะลูกจะได้มีภูมิต้านทานโรค

นอกเหนือจากการมีร่างกายที่แข็งแรงแล้ว การมีพัฒนาการด้านร่างกายที่ดีก็เป็นสิ่งสำคัญ อย่างการใช้กล้ามเนื้อมัดใหญ่และเล็กที่ลูกควรจะต้องใช้งานได้ดี อย่างกล้ามเนื้อมัดเล็ก เช่นนิ้วมือที่ลูกต้องใช้ในการหยิบจับช้อนหรือดินสอ ส่วนกล้ามเนื้อมัดใหญ่ก็คือ แขน ขา ที่ลูกใช้ในการเดินและวิ่งค่ะ

โดยวิธีการส่งเสริมให้ลูกมีร่างกายที่แข็งแรงคือ การออกกำลังกาย ซึ่งเด็กวัยนี้ควรออกมาวิ่งเล่นกลางแจ้งบ้าง และควรกินอาหารหลัก 3 มื้อ ให้ครบ 5 หมู่ โดยเฉพาะโปรตีนที่ช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอให้แก่ร่างกาย มีอยู่ในอาหารพวกเนื้อ ไข่ และนม อย่างนมที่มี DUO Protein คือมีครบทั้ง Whey Protein และ Casein Protein ค่ะ อีกทั้งไม่ควรกินอาหารรสจัด ไม่ว่าจะเป็นเค็มจัดหรือหวานจัด หรือมันจัด

3.มีสุขภาวะทางอารมณ์ที่ดี

เด็กในวัยนี้กำลังจะเข้าโรงเรียนจึงรู้สึกกังวลที่ต้องจากพ่อแม่ จึงอาจมีการงอแงบ้างในการไปโรงเรียนช่วงแรกๆ แต่ถ้าพ่อแม่ทำให้เขารับรู้ว่าตัวเองไม่ได้จากไปไหน ก็จะเพิ่มความมั่นคงทางอารมณ์ให้แก่ลูก และจะค่อยๆ รู้สึกปลอดภัยและไปโรงเรียนอย่างอารมณ์ดี

และพ่อแม่ควรเป็นต้นแบบของการสร้างบรรยากาศที่ดีให้แก่ลูก ลูกก็เป็นเหมือนกระจกสะท้อนพ่อแม่ หากพ่อแม่เป็นคนหัวร้อน อารมณ์เสียง่ายและแสดงออกแบบนั้นให้ลูกเห็น แน่นอนว่าลูกก็จะซึมซับนิสัยเหล่านั้นมาอย่างไม่ต้องสงสัย ดังนั้นหากอยากให้ลูกอารมณ์ดีก็ต้องแสดงอารมณ์แจ่มใสให้ลูกเห็น

นอกจากนี้สาเหตุหนึ่งของอารมณ์ไม่ดีคืออาการท้องอืด ท้องเฟ้อ ซึ่งเกี่ยวข้องกับระบบขับถ่ายที่อาจทำให้ลูกไม่สบายตัวได้ การให้ลูกกินอาหารที่มีไฟเบอร์จะช่วยให้ลูกขับถ่ายได้ดีขึ้น เช่น ผักใบเขียว ผลไม้ หรือนมสูตร Duo Fiber ที่มีการผสมใยอาหารเข้าไป เพื่อให้ลูกได้รับใยอาหารได้ง่ายขึ้น ซึ่งจะทำให้ลูกรู้สึกสบายตัว ไม่อึดอัด เมื่อเด็กอารมณ์ดี มีความสุข ก็พร้อมที่จะเปิดรับและเรียนรู้สิ่งต่างๆ ได้ดีขึ้น

ดังนั้นจะเห็นได้ว่าพัฒนาการทุกด้านล้วนมีความสำคัญที่ลูกควรจะพัฒนาให้ครบ โดยจะครอบคลุมทั้งในเรื่องของการเรียนรู้ สุขภาพ และอารมณ์ รวมไปถึงการเข้าสังคม โดยคุณพ่อคุณแม่สามารถส่งเสริมพัฒนาการด้านต่างๆ ของลูกได้จากการเลี้ยงดูและการเลือกอาหารที่มีประโยชน์และมีสารอาหารครบถ้วนทั้ง DHA ที่ช่วยในการเรียนรู้, Duo Protein ช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของร่างกาย ให้ร่างกายแข็งแรง และ Duo Fiber ที่ช่วยในเรื่องระบบขับถ่าย ส่งผลให้ลูกเป็นเด็กที่อารมณ์ดีค่ะ

ข้อมูลอ้างอิงจาก

คู่มือสำหรับพ่อแม่ เพื่อเผยแพร่ความรู้ด้านการดูแลและพัฒนาเด็ก ตอน วัยเด็กเล็ก 0-3 ปี

Writer Profile : Lalimay

  • Blog :

  • Official Sponsors :
  • Samitivej Hospital

Generic placeholder image

บทความที่เกี่ยวข้อง



Update
Banner Banner
เมื่อคุณแม่หลายท่านเป็นกังวลกับเรื่องพัฒนาการสมองและภูมิคุ้มกันที่แตกต่างกันของลูกน้อยที่ผ่าคลอดกับเด็กคลอดธรรมชาติ กลัวว่าลูกน้อยจะมีโอกาสป่วยง่ายหรือมีพัฒนาการสมองช้ากว่าเพื่อนๆ ทำให้คุณแม่ต้องใส่ใจกับการดูแลลูกน้อยมากยิ่งขึ้น เสมือนการเร่งเสริมสร้างเกราะคุ้มกันให้ลูกน้อยเติบโตพร้อมปรับตัวกับโลกยุคใหม่ที่เต็มไปด้วยการเปลี่ยนแปลง วันนี้เราจะพาไปดูเคล็ดไม่ลับ ฉบับการดูแลพัฒนาการสมองของลูกน้อยและภูมิคุ้มกันของเด็กผ่าคลอดที่คุณแม่ไม่ควรมองข้าม ช่วยเติมเต็มในสิ่งที่ลูกผ่าคลอดต้องการได้ ไปดูกันเลย! เกราะคุ้มกันแรกที่หายไปของเด็กผ่าคลอด เด็กผ่าคลอดมักจะป่วยง่ายหรือมีปัญหาสุขภาพมากกว่าเด็กที่คลอดโดยธรรมชาติ เพราะสูญเสียโอกาสในการได้รับเชื้อจุลินทรีย์สุขภาพ ผ่านทางบริเวณช่องคลอดของคุณแม่ ทำให้เกราะคุ้มกันแรกเกิดของลูกน้อยผ่าคลอดหายไปส่งผลให้เด็กมีพัฒนาการทางระบบภูมิคุ้มกันตั้งต้นช้ากว่าเด็กที่คลอดตามธรรมชาติ บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) เป็นจุลินทรีย์ชนิดดีที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันตั้งต้น โดยเฉพาะระบบภูมิคุ้มกันในระบบทางเดินอาหาร คุณแม่จึงต้องเร่งเสริมสร้างเกราะคุ้มกันให้ลูกน้อยมีพื้นฐานที่ดีตั้งแต่เริ่มต้น เพื่อช่วยให้ลูกน้อยของเรามีมีระบบภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้น เสริมสร้างพัฒนาการด้านสมองของเด็กผ่าคลอดด้วย “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” คือสารอาหารที่พบมากในนมแม่ เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้การทำงานสมองของลูกน้อยมีประสิทธิภาพ สร้างสมองไวกว่าเดิม เชื่อมต่อเซลล์สมอง 1 แสนล้านเซล์ อัพเกรดเด็กเจนใหม่ โดยสร้างสารสื่อประสาทในสมอง และเพิ่มความเร็วการส่งสัญญาณประสาทแบบก้าวกระโดด “สฟิงโกไมอีลิน” คือ ไขมันกลุ่มฟอสโฟไลปิด พบได้มากในน้ำนมแม่ที่อุดมไปด้วยสารอาหารกว่า 200 ชนิด ซึ่ง “สฟิงโกไมอีลิน”เป็นองค์ประกอบในการสร้างปลอกไมอีลิน ซึ่งมีผลต่อการทำงานของสมองให้ส่งสัญญาณประสาทได้ไวและประมวลผลอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้เกิดการจดจำเร็ว เรียนรู้ไว สมองของเด็กผ่าคลอดและเด็กที่คลอดตามธรรมชาติ มีการสร้างไมอีลินในสมองแตกต่างกัน โดยเฉพาะที่ส่วนของสมอง ที่ทำหน้าที่เชื่อมโยงระหว่างสมองซีกซ้ายและซีกขวา คุณแม่จึงควรคำนึงถึงจุดเริ่มต้นที่แตกต่าง ของเด็กผ่าคลอดเจนใหม่ ด้วยการเตรียมสมองไวและภูมิคุ้มกันที่ดีด้วย “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” และ บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) จากนมแม่ให้ลูกน้อยยิ่งเริ่มเร็วก็ยิ่งดี เพราะพัฒนาการสมองที่ดีในวัยเด็ก ถือเป็นรากฐานสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการมองเห็น การได้ยิน หรือการเรียนรู้ภาษาสิ่งเหล่านี้ล้วนเกิดจากพัฒนาการของสมองเพราะสมองคือจุดเริ่มต้น ของทุกพัฒนาการของลูกน้อย เตรียมพร้อมเด็กผ่าคลอดให้มีสมองไวและภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้นได้ คุณแม่สามารถเติมเต็มในสิ่งที่ลูกน้อยผ่าคลอดต้องการได้ด้วยสารอาหารที่สำคัญอย่างเช่น “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” ที่ช่วยเพิ่มความเร็วในการส่งสัญญาณประสาทได้เร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น และโพรไบโอติก บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) ตัวช่วยที่ทำให้ลูกน้อยมีภูมิคุ้มกันสุขภาพที่ดี ดังนั้นคุณแม่ก็วางใจได้ หากเราเสริมสร้าง…
3 กันยายน 2568

anal porno zdarma culi nudi al mare free sex videos antalya escort

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save