fbpx

5 กลยุทธ์รับมือกับคนพูดไม่ดีให้เด็กฟัง

Writer : nunzmoko
: 1 สิงหาคม 2562

ไม่ว่าจากคนรอบข้าง ญาติพี่น้อง เพื่อนๆ ของพ่อแม่ หรือแม่แต่เพื่อนของลูกที่หวังดีทั้งหลาย บางครั้งเราจะเจอกับคำพูดบางคำที่อาจทำให้ลูกรู้สึกไม่ดี ทั้งๆ ที่บางทีคนพูดอาจจะพูดโดยไม่ทันคิดหรือพูดไปโดยไม่ได้ตั้งใจ แต่กลับกลายว่าทำให้เด็กเก็บเอาไปคิดและกังวลจนทำให้เกิดผลเสียต่างๆ ตามมา วันนี้เรามีวิธีรับมือกับคนพูดจาไม่ดีให้ลูกฟัง จะมีวิธีอะไรบ้างไปติดตามกันค่ะ

1. สอนให้ลูกรู้จักแยกแยะคำพูดของคนอื่น

สอนลูกให้รู้จักแยกแยะคำพูดให้เป็น เช่น คำพูดไหนที่จริงเป็นคำพูดเตือนสติ ก็สอนให้ลูกนำมาปรับปรุง พัฒนาตัวเองให้ดีขึ้น คำพูดไหนที่คนอื่นพูดแล้วไม่จริง พูดเรื่องที่ไร้เป็นประโยชน์ เราก็ไม่ต้องนำมาใส่ใจ

2. เป็นตัวอย่างให้ลูกเรื่องการจัดการกับความรู้สึก

สอนลูกว่าพ่อแม่ก็คือคนธรรมดาทั่วไปที่มีอารมณ์ความรู้สึกเหมือนกันเวลาใครมาพูดไม่ดีหรือว่าเรา อยู่ที่ว่าเราจะนำมาใส่ใจหรือตอบโต้แบบไหน บอกลูกว่าสามารถรู้สึกโกรธ โมโหได้ แต่ควรแสดงออกในลักษณะที่เหมาะสม ไม่ตอบโต้ด้วยวาจารุนแรง หรือท่าทางที่ไม่สุภาพ

3. เข้าควบคุมสถานการณ์ เมื่อคุณพ่อคุณแม่อยู่กับลูกด้วย

เมื่อคนอื่นสั่งสอนหรือพูดจาไม่ดีกับลูก ในขณะที่คุณพ่อคุณแม่ก็อยู่ที่นั่นด้วย ให้เราลองรับฟังและตอบโต้ตามสมควรโดยไม่ใช้วาจาที่รุนแรง หรือทำท่าทางโมโห เพื่อให้ลูกเห็นเราเป็นตัวอย่างที่ดี เช่น ถ้าลูกทำผิดแล้วคนอื่นมาว่า เราก็บอกเค้าไปว่าขอโทษแทนลูก แล้วให้ลูกขอโทษด้วย หลังจากนั้นก็บอกลูกว่าอย่าทำอีกนะคะ แบบนี้ไม่น่ารัก แม่อยากให้หนูน่ารักกับทั้งแม่และคนอื่นๆ

4. สอนลูกว่าความรู้สึกต่างๆ มีได้แต่ไม่ได้อยู่กับเราตลอดไป

สอนให้ลูกรู้ว่าความรู้สึกต่างๆ ไม่ว่าโกรธ โมโห เกลียด มีได้แต่ไม่ได้อยู่กับเราตลอดไป สามารถหายไปได้ถ้ารู้จักวิธีจัดการกับมัน เช่น เมื่อเจอคนพูดไม่ดีแล้วลูกโมโหก็บอกลูกว่าใจเย็นๆ หายใจเข้าลึกๆ หรือเวลาลูกรู้สึกกดดันและเสียใจ ให้จับมือลูกไว้ และปลอบใจลูก เค้าจะได้รู้สึกว่าคุณพ่อคุณแม่อยู่เคียงข้าง เป็นกำลังใจให้เค้าเสมอ

 

5. ถ้าทำได้ให้กำหนดขอบเขตของคนพูด

หากคุณรู้สึกไม่สบายใจที่มีคนอื่นมาสั่งสอนลูก เพราะอาจเป็นคนในครอบครัว เพื่อนของคุณ คนที่ทำงาน หรือเป็นคนที่คุณมีความสัมพันธ์ที่ดีด้วย แต่คุณพ่อคุณแม่ก็ควรกำหนดขอบเขตการที่คนอื่น สั่งสอน ทำโทษลูกของคุณ วิธี
นี้จะช่วยให้คุณพ่อคุณแม่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้

บางครั้งคุณพ่อคุณแม่ต้องกำหนดขอบเขตของคนที่จะพูดด้วย โดยการพูดคุยให้ไปในแนวทางที่เราอยากให้เป็น เพื่อให้มีการเว้นระยะระหว่างกันและกัน ที่สำคัญ คือ เพื่อป้องกันการถาม – ตอบคำถามแบบกำกวมให้ลูกรู้สึกไม่ดีนั่นเองค่ะ

การพูดจาไม่ดีที่พบบ่อยคือที่โรงเรียน โดยเฉพาะการพูดล้อเลียน หรือพ่อแม่ของเพื่อนลูกพูดจาเปรียบเทียบ ซึ่งการทำแบบนี้บ่อยๆ โดยไม่สอนให้ลูกรู้จักวิธีรับมือจะทำให้เด็กรู้สึกว่าสิ่งนั้นเป็นปมด้อยของเขา หรือทำให้เขามีอารมณ์โกรธโดยไม่จำเป็น กลายเป็นคนโกรธง่าย หรือขี้โมโหเพราะมีคนไปกระเช้าเย้าแหย่เขามากจนเกินไป

คำพูดไม่ดีไม่มีใครต้องการ ดังนั้น ให้เราสอนลูกเสมอว่า หากเราอยากให้ใครพูดอะไรอย่างไร ทำอะไรให้เรา เราต้องให้อย่างนั้นกับคนอื่น ถ้าเราไม่ชอบก็อย่าไปทำแบบนั้นกับใคร หรือถ้ามีใครมาพูดไม่ดีลูกก็จะรับรู้ว่าเป็นคำพูดที่ไม่ต้องนำมาใส่ใจ ทำให้ลูกมีภูมิคุ้มกัน ไม่อ่อนไหวต่อคำพูดไม่ดีของคนอื่นค่ะ

Writer Profile : nunzmoko

  • Blog :
  • Social Media :

  • Official Sponsors :
  • Samitivej Hospital

Generic placeholder image

บทความที่เกี่ยวข้อง



อ่านก่อนโพสต์รูปลูกลง SOCIAL MEDIA!
เด็กวัยเข้าโรงเรียน
โรงเรียนอนุบาลทางเลือกที่โดนใจคุณแม่
เด็กวัยเข้าโรงเรียน
เด็กวัยเข้าโรงเรียน เด็กวัยเข้าโรงเรียน
9 กรกฏาคม 2561
ทำอย่างไรเมื่อลูกแย่งของเล่นกัน
เด็กวัยเข้าโรงเรียน
Update
Banner Banner
เมื่อคุณแม่หลายท่านเป็นกังวลกับเรื่องพัฒนาการสมองและภูมิคุ้มกันที่แตกต่างกันของลูกน้อยที่ผ่าคลอดกับเด็กคลอดธรรมชาติ กลัวว่าลูกน้อยจะมีโอกาสป่วยง่ายหรือมีพัฒนาการสมองช้ากว่าเพื่อนๆ ทำให้คุณแม่ต้องใส่ใจกับการดูแลลูกน้อยมากยิ่งขึ้น เสมือนการเร่งเสริมสร้างเกราะคุ้มกันให้ลูกน้อยเติบโตพร้อมปรับตัวกับโลกยุคใหม่ที่เต็มไปด้วยการเปลี่ยนแปลง วันนี้เราจะพาไปดูเคล็ดไม่ลับ ฉบับการดูแลพัฒนาการสมองของลูกน้อยและภูมิคุ้มกันของเด็กผ่าคลอดที่คุณแม่ไม่ควรมองข้าม ช่วยเติมเต็มในสิ่งที่ลูกผ่าคลอดต้องการได้ ไปดูกันเลย! เกราะคุ้มกันแรกที่หายไปของเด็กผ่าคลอด เด็กผ่าคลอดมักจะป่วยง่ายหรือมีปัญหาสุขภาพมากกว่าเด็กที่คลอดโดยธรรมชาติ เพราะสูญเสียโอกาสในการได้รับเชื้อจุลินทรีย์สุขภาพ ผ่านทางบริเวณช่องคลอดของคุณแม่ ทำให้เกราะคุ้มกันแรกเกิดของลูกน้อยผ่าคลอดหายไปส่งผลให้เด็กมีพัฒนาการทางระบบภูมิคุ้มกันตั้งต้นช้ากว่าเด็กที่คลอดตามธรรมชาติ บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) เป็นจุลินทรีย์ชนิดดีที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันตั้งต้น โดยเฉพาะระบบภูมิคุ้มกันในระบบทางเดินอาหาร คุณแม่จึงต้องเร่งเสริมสร้างเกราะคุ้มกันให้ลูกน้อยมีพื้นฐานที่ดีตั้งแต่เริ่มต้น เพื่อช่วยให้ลูกน้อยของเรามีมีระบบภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้น เสริมสร้างพัฒนาการด้านสมองของเด็กผ่าคลอดด้วย “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” คือสารอาหารที่พบมากในนมแม่ เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้การทำงานสมองของลูกน้อยมีประสิทธิภาพ สร้างสมองไวกว่าเดิม เชื่อมต่อเซลล์สมอง 1 แสนล้านเซล์ อัพเกรดเด็กเจนใหม่ โดยสร้างสารสื่อประสาทในสมอง และเพิ่มความเร็วการส่งสัญญาณประสาทแบบก้าวกระโดด “สฟิงโกไมอีลิน” คือ ไขมันกลุ่มฟอสโฟไลปิด พบได้มากในน้ำนมแม่ที่อุดมไปด้วยสารอาหารกว่า 200 ชนิด ซึ่ง “สฟิงโกไมอีลิน”เป็นองค์ประกอบในการสร้างปลอกไมอีลิน ซึ่งมีผลต่อการทำงานของสมองให้ส่งสัญญาณประสาทได้ไวและประมวลผลอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้เกิดการจดจำเร็ว เรียนรู้ไว สมองของเด็กผ่าคลอดและเด็กที่คลอดตามธรรมชาติ มีการสร้างไมอีลินในสมองแตกต่างกัน โดยเฉพาะที่ส่วนของสมอง ที่ทำหน้าที่เชื่อมโยงระหว่างสมองซีกซ้ายและซีกขวา คุณแม่จึงควรคำนึงถึงจุดเริ่มต้นที่แตกต่าง ของเด็กผ่าคลอดเจนใหม่ ด้วยการเตรียมสมองไวและภูมิคุ้มกันที่ดีด้วย “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” และ บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) จากนมแม่ให้ลูกน้อยยิ่งเริ่มเร็วก็ยิ่งดี เพราะพัฒนาการสมองที่ดีในวัยเด็ก ถือเป็นรากฐานสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการมองเห็น การได้ยิน หรือการเรียนรู้ภาษาสิ่งเหล่านี้ล้วนเกิดจากพัฒนาการของสมองเพราะสมองคือจุดเริ่มต้น ของทุกพัฒนาการของลูกน้อย เตรียมพร้อมเด็กผ่าคลอดให้มีสมองไวและภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้นได้ คุณแม่สามารถเติมเต็มในสิ่งที่ลูกน้อยผ่าคลอดต้องการได้ด้วยสารอาหารที่สำคัญอย่างเช่น “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” ที่ช่วยเพิ่มความเร็วในการส่งสัญญาณประสาทได้เร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น และโพรไบโอติก บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) ตัวช่วยที่ทำให้ลูกน้อยมีภูมิคุ้มกันสุขภาพที่ดี ดังนั้นคุณแม่ก็วางใจได้ หากเราเสริมสร้าง…
3 กันยายน 2568

anal porno zdarma culi nudi al mare free sex videos antalya escort

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save