fbpx

ชวนแม่ๆ มาพูดภาษาอังกฤษกับหนูน้อย กับ 50 ประโยคง่ายๆ ฝึกได้ทุกวัน

Writer : Jicko
: 2 กรกฏาคม 2564

การสื่อสารสำหรับยุคนี้ถือเป็นเรื่องสำคัญ ทำให้พ่อแม่บางคนก็เลือกที่จะให้ลูกได้เรียนโรงเรียนที่เป็น 2 ภาษา เพื่อเด็กๆ จะได้มีทักษะภาษาที่เพิ่มขึ้น แต่ความจริงแล้วเพียงแค่เราพูดกับลูกด้วยประโยคง่ายๆ ในทุกๆ วันก็สามารถช่วยให้พวกเขาได้จดจำและได้ซึมซับเรื่องภาษาได้เป็นอย่างดีทีเดียว

วันนี้ Parents One ก็เลยมีประโยคภาษาอังกฤษง่ายๆ ที่คุณพ่อคุณแม่จะได้นำไปพูดคุยกับเจ้าตัวเล็กที่บ้านมาฝากกันค่ะ เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยให้ลูกได้เรียนรู้ภาษาอังกฤษไปพร้อมๆ กันเลยนะคะ

1. Good job! = ทำได้ดีมากลูก

2. Follow me = ตามพ่อ/แม่ มานะ

3. Just a minute = รอแปปนึงนะคะ

4. Stop messing around = หยุดซนได้แล้วลูก

5. Sweet dreams = ฝันดีจ้ะ

6. Let’s have breakfast = กินข้าวเช้ากันเถอะ

7. Listen to me = ฟังนะคะ

8. Put away your toys = เก็บของเล่นด้วยนะลูก

9. Calm down = ใจเย็นๆ นะ

10. Put on your cloths = ใส่เสื้อผ้าจ้ะลูก

11. Yes, please = ค่ะ / ครับ ได้โปรด

12. Is it yummy? = อร่อยไหมลูก

13. Do you want more? = เอาเพิ่มไหมลูก

14. It’s your turn = ถึงตาลูกแล้ว

15. Is it fun? Be careful! = สนุกไหมลูก? ระวังตัวด้วยนะ

16. Let’s take a bath = ไปอาบน้ำกันเถอะ

17. Time for bed = ได้เวลานอนแล้ว

18. There’s some left = ยังมีเหลืออยู่นะ

19. Wait here, honey = รอตรงนี้นะลูก

20. what are you doing = ทำอะไรอยู่ลูก

21. Yes, that’s right = ถูกต้อง อย่างนั้นล่ะลูก

22. Can I get a kiss? = ขอแม่จุ๊บทีนึงซิ

23. Cheater! = ขี้โกงนี่นา

24. Try again = ลองทำอีกทีซิลูก

25. Can you repeat that? = พูดอีกทีซิลูก

26. Have you washed you hands yet? = ล้างมือหรือยังลูก

27. Comb you hair = หวีผมด้วยนะ

28. Put your socks on = ใส่ถุงเท้านะคะ

29. Eat slowly. The food can get stuck in your throat = ค่อยๆ กินนะลูก ระวังติดคอ

30. I will pick you up in the evening = เดี๋ยวมารับตอนเย็นๆ นะลูก

31. What is this? = นี่คืออะไรเอ่ย?

32. I’m sorry = ขอโทษนะลูก

33. We are going home = เรากำลังกลับบ้านกันนะ

34. Have fun = ขอให้สนุกนะ

35. It’s tasty = มันอร่อยดีนะลูก

36. What’s going on? = เกิดอะไรขึ้นลูก

37. Don’t do that = อย่าทำอย่างนั้นสิลูก

38. It’s all gone = หมดแล้วนะ

39. What’s your hobby? = เวลาว่างหนูชอบทำอะไร

40. How old are you? = ลูกอายุเท่าไหร่

41. Blow it first = เป่าก่อนนะ

42. I’m so proud of you = แม่ภูมิใจในตัวหนูมาก

43. You’re up early today = วันนี้ลูกตื่นเช้านะ

44. Are you still sleepy? = ยังง่วงอยู่ไหมลูก

45. Be good! =  อย่าซนนะ

46. Not at all = ไม่เป็นไร

47. Nope / Nah = ไม่จ้ะ

48. Repeat after me = ออกเสียงตามแม่นะ

49. Time’s up! = หมดเวลาแล้ว

50. Go for it! = เอาเลยลูก ทำได้ ลุย

 

 

Writer Profile : Jicko

  • Social Media :

  • Official Sponsors :
  • Samitivej Hospital

Generic placeholder image

บทความที่เกี่ยวข้อง



Update
Banner Banner
เมื่อคุณแม่หลายท่านเป็นกังวลกับเรื่องพัฒนาการสมองและภูมิคุ้มกันที่แตกต่างกันของลูกน้อยที่ผ่าคลอดกับเด็กคลอดธรรมชาติ กลัวว่าลูกน้อยจะมีโอกาสป่วยง่ายหรือมีพัฒนาการสมองช้ากว่าเพื่อนๆ ทำให้คุณแม่ต้องใส่ใจกับการดูแลลูกน้อยมากยิ่งขึ้น เสมือนการเร่งเสริมสร้างเกราะคุ้มกันให้ลูกน้อยเติบโตพร้อมปรับตัวกับโลกยุคใหม่ที่เต็มไปด้วยการเปลี่ยนแปลง วันนี้เราจะพาไปดูเคล็ดไม่ลับ ฉบับการดูแลพัฒนาการสมองของลูกน้อยและภูมิคุ้มกันของเด็กผ่าคลอดที่คุณแม่ไม่ควรมองข้าม ช่วยเติมเต็มในสิ่งที่ลูกผ่าคลอดต้องการได้ ไปดูกันเลย! เกราะคุ้มกันแรกที่หายไปของเด็กผ่าคลอด เด็กผ่าคลอดมักจะป่วยง่ายหรือมีปัญหาสุขภาพมากกว่าเด็กที่คลอดโดยธรรมชาติ เพราะสูญเสียโอกาสในการได้รับเชื้อจุลินทรีย์สุขภาพ ผ่านทางบริเวณช่องคลอดของคุณแม่ ทำให้เกราะคุ้มกันแรกเกิดของลูกน้อยผ่าคลอดหายไปส่งผลให้เด็กมีพัฒนาการทางระบบภูมิคุ้มกันตั้งต้นช้ากว่าเด็กที่คลอดตามธรรมชาติ บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) เป็นจุลินทรีย์ชนิดดีที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันตั้งต้น โดยเฉพาะระบบภูมิคุ้มกันในระบบทางเดินอาหาร คุณแม่จึงต้องเร่งเสริมสร้างเกราะคุ้มกันให้ลูกน้อยมีพื้นฐานที่ดีตั้งแต่เริ่มต้น เพื่อช่วยให้ลูกน้อยของเรามีมีระบบภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้น เสริมสร้างพัฒนาการด้านสมองของเด็กผ่าคลอดด้วย “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” คือสารอาหารที่พบมากในนมแม่ เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้การทำงานสมองของลูกน้อยมีประสิทธิภาพ สร้างสมองไวกว่าเดิม เชื่อมต่อเซลล์สมอง 1 แสนล้านเซล์ อัพเกรดเด็กเจนใหม่ โดยสร้างสารสื่อประสาทในสมอง และเพิ่มความเร็วการส่งสัญญาณประสาทแบบก้าวกระโดด “สฟิงโกไมอีลิน” คือ ไขมันกลุ่มฟอสโฟไลปิด พบได้มากในน้ำนมแม่ที่อุดมไปด้วยสารอาหารกว่า 200 ชนิด ซึ่ง “สฟิงโกไมอีลิน”เป็นองค์ประกอบในการสร้างปลอกไมอีลิน ซึ่งมีผลต่อการทำงานของสมองให้ส่งสัญญาณประสาทได้ไวและประมวลผลอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้เกิดการจดจำเร็ว เรียนรู้ไว สมองของเด็กผ่าคลอดและเด็กที่คลอดตามธรรมชาติ มีการสร้างไมอีลินในสมองแตกต่างกัน โดยเฉพาะที่ส่วนของสมอง ที่ทำหน้าที่เชื่อมโยงระหว่างสมองซีกซ้ายและซีกขวา คุณแม่จึงควรคำนึงถึงจุดเริ่มต้นที่แตกต่าง ของเด็กผ่าคลอดเจนใหม่ ด้วยการเตรียมสมองไวและภูมิคุ้มกันที่ดีด้วย “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” และ บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) จากนมแม่ให้ลูกน้อยยิ่งเริ่มเร็วก็ยิ่งดี เพราะพัฒนาการสมองที่ดีในวัยเด็ก ถือเป็นรากฐานสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการมองเห็น การได้ยิน หรือการเรียนรู้ภาษาสิ่งเหล่านี้ล้วนเกิดจากพัฒนาการของสมองเพราะสมองคือจุดเริ่มต้น ของทุกพัฒนาการของลูกน้อย เตรียมพร้อมเด็กผ่าคลอดให้มีสมองไวและภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้นได้ คุณแม่สามารถเติมเต็มในสิ่งที่ลูกน้อยผ่าคลอดต้องการได้ด้วยสารอาหารที่สำคัญอย่างเช่น “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” ที่ช่วยเพิ่มความเร็วในการส่งสัญญาณประสาทได้เร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น และโพรไบโอติก บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) ตัวช่วยที่ทำให้ลูกน้อยมีภูมิคุ้มกันสุขภาพที่ดี ดังนั้นคุณแม่ก็วางใจได้ หากเราเสริมสร้าง…
3 กันยายน 2568

anal porno zdarma culi nudi al mare free sex videos antalya escort

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save