fbpx

7 ของเล่นอันตราย ที่พ่อแม่ต้องระวังหากให้ลูกเล่น

Writer : Lalimay
: 24 มีนาคม 2564

ของเล่นเป็นสิ่งที่อยู่คู่กับเด็กๆ ทุกคน ซึ่งโดยส่วนมากของเล่นจะถูกพัฒนาขึ้นมาให้เหมาะกับพัฒนาการของเด็กๆ อีกทั้งยังมีการตรวจสอบคุณภาพก่อนที่จะวางจำหน่าย แต่ของเล่นบางชนิดก็อาจหลุดการตรวจสอบหรือถูกมองข้ามความอันตรายบางอย่างที่อาจเกิดขึ้นไป ดังนั้นวันนี้เราจึงมี 7 ของเล่นที่อาจเป็นอันตรายต่อลูกได้ ถ้าเกิดว่าเล่นอย่างไม่ระมัดระวังมาฝากคุณพ่อคุณแม่ทุกคนค่ะ

นกหวีดเป่าลม : ไส้นกหวีดหลุดเข้าหลอดลม

ของเล่นชิ้นแรกที่อันตรายแบบที่พ่อแม่ไม่คาดคิดก็คือ นกหวีดเป่าลม แตรเป่าลม หรือของเล่นตระกูลที่มี “ไส้นกหวีด” อยู่ด้านในค่ะ เพราะเวลาที่เด็กๆ เป่าลมอย่างสนุกสนาน ก็อาจเผลอหายใจเข้าจนไส้นกหวีดหลุดเข้าไปในลำคอ อย่างกรณีที่มีข่าวว่าเด็กชายคนหนึ่งเผลอกลืนไส้นกหวีดเข้าไปขณะเป่าเล่น จนทำให้หายใจเข้าออกมีเสียงวี้ดๆ จึงต้องผ่าตัด โชคดีที่ไม่เป็นอันตรายถึงชีวิตค่ะ

เบบี้คริสตัล : เผลอกินเพราะคิดว่าเป็นขนม

เบบี้คริสตัลหรือน้ำตานางเงือก เป็นของเล่นตัวดูดน้ำ จะมีขนาดเล็กประมาณ 5 มล. โดยสามารถพองตัวจากลูกกลมๆ เล็ก กลายเป็นเจลลี่ขนาดใหญ่ได้ถึง 26 เท่าเมื่อแช่ในน้ำประปาทิ้งไว้ 3-4 ชั่วโมง หลังแช่น้ำแล้วจะมีขนาดใหญ่ พอๆ กับลูกปิงปองลักษณะนุ่มนิ่มเหมือนเจลลี่ สีสันน่ารัก น่ารับประทาน จึงอาจทำให้เด็กเข้าใจผิดคิดว่าเป็นขนมนั่นเองค่ะ

ซึ่งหากรับประทานเข้าไปก็อาจทำให้อุดตันทางเดินหายใจ ทางเดินอาหาร ในกระเพาะอาหาร มีอาการคลื่นไส้ อาเจียน หายใจไม่ออก หรือถ้ากลืนตั้งแต่ยังเป็นเม็ดเล็กๆ ก็สามารถพองในท้องได้ด้วย นอกจากนี้เบบี้คริสตัลมีอีกชื่อหนึ่งว่า ดินวิทยาศาสตร์ เพราะสามารถนำมาใช้ในการปลูกต้นไม้ มีคุณสมบัติช่วยกักเก็บน้ำได้มาก

สไลม์ : พบสารตกค้างในร่างกาย

สไลม์หรือน้ำลายเอเลี่ยนเป็นของเล่นยอดฮิต ที่เด็กๆ ให้ความสนใจ ด้วยลักษณะที่นุ่มหยุ่น ยืดได้ อีกทั้งยังมีหลากหลายสีสัน บ้างก็เติมกลิตเตอร์เพื่อความวิบวับ หรือใส่สารเรืองแสงที่ทำให้สว่างเมื่ออยู่ในที่มืด จึงไม่แปลกใจที่เด็กๆ จะชอบเล่น แต่วัตถุดิบที่ใช้ทำสไลม์ค่อนข้างอันตรายไม่น้อย ไม่ว่าจะเป็นสารอันตรายอย่าง สารบอแรกซ์ สารหนู ตะกั่ว รวมถึงโลหะหนัก และยังใช้กาวอีกด้วย หากสัมผัสนานๆ ก็จะส่งผลต่อสุขภาพของเด็กๆ ได้ แต่ถ้าจะให้ลูกเล่นก็ควรเลือกสไลม์ที่ปลอดสารพิษนะคะ

ของเล่นที่มีเชือก : อาจรัดคอลูกได้

ใครจะคิดว่าของเล่นรถลาก หรือของเล่นชิ้นใหญ่ที่ลูกไม่สามารถนำเข้าปากได้จะเกิดอันตรายเช่นกัน เพราะของเล่นรถลาก หรือที่มีเชือกยาวกว่า 22 ซม. ก็อาจทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ ไม่ว่าจะเป็นสะดุดเชือกระหว่างลาก หรือนั่งเล่น นอนเล่นอยู่ใกล้ๆ ของเล่นที่มีเชือก แล้วเผลอกลิ้งตัวไปมาก็อาจทำให้เชือกมารัดคอของลูกได้เหมือนกันค่ะ

ลูกปัดแม่เหล็ก : เด็กกลืนลงท้อง

ลูกปัดแม่เหล็กมีลักษณะเป็นเม็ดกลมๆ ขนาดเล็ก เส้นผ่าศูนย์กลางอยู่ที่ประมาณ 1 ซม. มีคุณสมบัติในการเกาะติดกันเพราะแรงของแม่เหล็ก โดยเด็กๆ สามารถนำมาสร้างเป็นรูปทรงต่างๆ ได้ เช่น ลูกบาศก์ บ้านในรูปทรงแบบ 3 มิติ แต่จะมีอันตรายตรงที่เป็นของเล่นขนาดเล็ก เด็กๆ จึงอาจนำไปอมเล่นและหลุดเข้าลำคอได้ เพราะเคยมีกรณีที่เด็กจีน กลืนลูกปัดแม่เหล็กเข้าไปจนไปต่อกันในกระเพาะอาหารแล้วต้องผ่าออกด้วย

ลูกบอลยางมีเสียง : ชิ้นส่วนหลุดเข้าคอ

ลูกบอลยางมีเสียง เป็นของเล่นเสริมพัฒนาการสำหรับเด็กเล็กที่มีสีสันสดใส ที่ออกแบบมาให้มีน้ำหนักเบา พร้อมลักษณะเป็นช่องเพื่อง่ายต่อการหยิบจับของลูก คล้ายๆ กับลูกตะกร้อ โดยที่บางช่องจะมีลูกบอลเล็กๆ อยู่ในช่องพลาสติก จึงทำให้เป็นของเล่นที่ช่วยฝึกทั้งการหยิบจับและฝึกกัดในชิ้นเดียวกัน ดังนั้นจึงอาจทำให้เกิดอันตรายได้ง่ายกว่า เพราะถ้าพลาสติกที่มีลูกบอลขนาดเล็กแตก ลูกบอลเล็กๆ ก็อาจจะหลุดเข้าคอของลูกได้

ของเล่นเสียงดัง : แก้วหูเกิดอันตราย

ของเล่นมีเสียงดูเป็นของเล่นที่ธรรมดาๆ และดูไม่น่าจะอันตราย แต่รู้ไหมว่าของเล่นเหล่านี้บางชนิดอาจเสียงดังเกินกว่า 110 เดซิเบล ซึ่งก่อให้เกิดอันตรายต่อแก้วหูและเซลล์ประสาทรับเสียงของลูกรวมไปถึงคนรอบข้างที่ได้ยิน โดยส่วนมากของเล่นมีเสียงพวกนี้จะเป็นพวกรถไฟ รถพยาบาล ปืนเลเซอร์ที่มีเสียงดังๆ

ข้อมูลอ้างอิง

 

 

Writer Profile : Lalimay

  • Blog :

  • Official Sponsors :
  • Samitivej Hospital

Generic placeholder image

บทความที่เกี่ยวข้อง



7 สิ่งที่เด็กวัย 2 ขวบทำเก่ง
ช่วงวัยของเด็ก
Update
Banner Banner
เมื่อคุณแม่หลายท่านเป็นกังวลกับเรื่องพัฒนาการสมองและภูมิคุ้มกันที่แตกต่างกันของลูกน้อยที่ผ่าคลอดกับเด็กคลอดธรรมชาติ กลัวว่าลูกน้อยจะมีโอกาสป่วยง่ายหรือมีพัฒนาการสมองช้ากว่าเพื่อนๆ ทำให้คุณแม่ต้องใส่ใจกับการดูแลลูกน้อยมากยิ่งขึ้น เสมือนการเร่งเสริมสร้างเกราะคุ้มกันให้ลูกน้อยเติบโตพร้อมปรับตัวกับโลกยุคใหม่ที่เต็มไปด้วยการเปลี่ยนแปลง วันนี้เราจะพาไปดูเคล็ดไม่ลับ ฉบับการดูแลพัฒนาการสมองของลูกน้อยและภูมิคุ้มกันของเด็กผ่าคลอดที่คุณแม่ไม่ควรมองข้าม ช่วยเติมเต็มในสิ่งที่ลูกผ่าคลอดต้องการได้ ไปดูกันเลย! เกราะคุ้มกันแรกที่หายไปของเด็กผ่าคลอด เด็กผ่าคลอดมักจะป่วยง่ายหรือมีปัญหาสุขภาพมากกว่าเด็กที่คลอดโดยธรรมชาติ เพราะสูญเสียโอกาสในการได้รับเชื้อจุลินทรีย์สุขภาพ ผ่านทางบริเวณช่องคลอดของคุณแม่ ทำให้เกราะคุ้มกันแรกเกิดของลูกน้อยผ่าคลอดหายไปส่งผลให้เด็กมีพัฒนาการทางระบบภูมิคุ้มกันตั้งต้นช้ากว่าเด็กที่คลอดตามธรรมชาติ บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) เป็นจุลินทรีย์ชนิดดีที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันตั้งต้น โดยเฉพาะระบบภูมิคุ้มกันในระบบทางเดินอาหาร คุณแม่จึงต้องเร่งเสริมสร้างเกราะคุ้มกันให้ลูกน้อยมีพื้นฐานที่ดีตั้งแต่เริ่มต้น เพื่อช่วยให้ลูกน้อยของเรามีมีระบบภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้น เสริมสร้างพัฒนาการด้านสมองของเด็กผ่าคลอดด้วย “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” คือสารอาหารที่พบมากในนมแม่ เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้การทำงานสมองของลูกน้อยมีประสิทธิภาพ สร้างสมองไวกว่าเดิม เชื่อมต่อเซลล์สมอง 1 แสนล้านเซล์ อัพเกรดเด็กเจนใหม่ โดยสร้างสารสื่อประสาทในสมอง และเพิ่มความเร็วการส่งสัญญาณประสาทแบบก้าวกระโดด “สฟิงโกไมอีลิน” คือ ไขมันกลุ่มฟอสโฟไลปิด พบได้มากในน้ำนมแม่ที่อุดมไปด้วยสารอาหารกว่า 200 ชนิด ซึ่ง “สฟิงโกไมอีลิน”เป็นองค์ประกอบในการสร้างปลอกไมอีลิน ซึ่งมีผลต่อการทำงานของสมองให้ส่งสัญญาณประสาทได้ไวและประมวลผลอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้เกิดการจดจำเร็ว เรียนรู้ไว สมองของเด็กผ่าคลอดและเด็กที่คลอดตามธรรมชาติ มีการสร้างไมอีลินในสมองแตกต่างกัน โดยเฉพาะที่ส่วนของสมอง ที่ทำหน้าที่เชื่อมโยงระหว่างสมองซีกซ้ายและซีกขวา คุณแม่จึงควรคำนึงถึงจุดเริ่มต้นที่แตกต่าง ของเด็กผ่าคลอดเจนใหม่ ด้วยการเตรียมสมองไวและภูมิคุ้มกันที่ดีด้วย “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” และ บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) จากนมแม่ให้ลูกน้อยยิ่งเริ่มเร็วก็ยิ่งดี เพราะพัฒนาการสมองที่ดีในวัยเด็ก ถือเป็นรากฐานสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการมองเห็น การได้ยิน หรือการเรียนรู้ภาษาสิ่งเหล่านี้ล้วนเกิดจากพัฒนาการของสมองเพราะสมองคือจุดเริ่มต้น ของทุกพัฒนาการของลูกน้อย เตรียมพร้อมเด็กผ่าคลอดให้มีสมองไวและภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้นได้ คุณแม่สามารถเติมเต็มในสิ่งที่ลูกน้อยผ่าคลอดต้องการได้ด้วยสารอาหารที่สำคัญอย่างเช่น “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” ที่ช่วยเพิ่มความเร็วในการส่งสัญญาณประสาทได้เร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น และโพรไบโอติก บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) ตัวช่วยที่ทำให้ลูกน้อยมีภูมิคุ้มกันสุขภาพที่ดี ดังนั้นคุณแม่ก็วางใจได้ หากเราเสริมสร้าง…
3 กันยายน 2568

anal porno zdarma culi nudi al mare free sex videos antalya escort

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save