fbpx

7 เหตุผลที่ควรพาลูกไปเที่ยวญี่ปุ่น

Writer : giftoun
: 6 กันยายน 2560

ญี่ปุ่นถือว่าเป็นประเทศในฝันของใครหลายๆ คน แต่รู้หรือไม่ว่าประเทศญี่ปุ่นนี้ถือได้ว่าเป็นประเทศที่ “kid friendly ที่สุดในโลก” ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น มาดูกันเลยค่ะ

มีพื้นที่พักผ่อนสำหรับเด็ก

ตามห้างสรรพสินค้าในประเทศญี่ปุ่นนั้นจะมีพื้นที่พักผ่อนสำหรับให้เด็กได้เล่นของเล่น (หรือบางสถานีรถไฟก็มีเหมือนกันนะ) ทำให้สามารถให้ลูกเล่นในพื้นที่เหล่านั้นได้เลย เช่น Tokyo’s Muji Shibuya ที่มีของเล่นไม้และบ่อไข่ที่ทำมาจากไม้ให้ลูกเล่นเพลินเลยทีเดียวค่ะ

ที่มาภาพ – green revival blog

ห้องน้ำสำหรับแม่และเด็ก

ไม่ว่าจะเป็นที่ร้านค้า สถานีรถไฟ พิพิธภัณฑ์ หรือในทุกๆ สถานที่ในญี่ปุ่นจะมีห้องน้ำที่สามารถพาเด็กมานั่งเก้าอี้ฝากไว้ให้คุณแม่ทำธุระส่วนตัวได้ ซึ่งเก้าอี้นี้จะมีที่ล็อคให้ลูกนั่งอยู่เฉยๆแล้วไม่ลุกไปไหนจนกว่าคุณแม่จะปลดล็อคให้ ถือว่าสะดวกสบายทั้งคุณแม่และคุณลูก

ที่มาภาพ – น้องวชิ Wachi

มีลิฟต์ทุกสถานี

ญี่ปุ่นถือว่าเป็นประเทศที่มีการขนส่งมวลชนที่สะดวก ทำให้มีสถานีรถไฟฟ้าเยอะมาก ซึ่งทุกสถานีรถไฟฟ้านั้นจะมีลิฟต์ติดตั้งทุกสถานีอยู่แล้ว จะสะดวกต่อการใช้รถเข็นสำหรับเด็กเล็กมากยิ่งขึ้น

ให้ลูกได้สัมผัสธรรมชาติ

ถ้าพูดถึงแหล่งท่องเที่ยวตามธรรมชาติแล้ว ญี่ปุ่นถือว่ามีสถานที่เหล่านี้มากไม่แพ้ชาติใดเลย การได้พาลูกมาเที่ยวที่ญี่ปุ่นตั้งแต่ยังเล็กนั้นจะทำให้ได้สัมผัสธรรมชาติที่สวยงามและอากาศที่บริสุทธิ์อีกด้วย

ที่มาภาพ – น้องวชิ Wachi

ร้านอาหารต้อนรับเด็กอย่างดี

ร้านอาหารในญี่ปุ่นมักจะมีเก้าอี้สูงสำหรับเด็กเพื่อให้เด็กได้กินข้าวได้สะดวกมากยิ่งขึ้น เป็นการอำนวยความสะดวกให้ลูกรักได้กินอาหารได้อย่างมีความสุขมากยิ่งขึ้นค่ะ

ที่มาภาพ – น้องวชิ Wachi

มีพิพิธภัณฑ์การ์ตูนหลายแห่ง

ที่ญี่ปุ่นนี้มีพิพิธภัณฑ์เกี่ยวกับการ์ตูนหลากหลายแห่งด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น Ghibli Museum, Snoopy Museum  หรืออีกหลาย ๆ ที่หรืองานอีเว้นท์ที่มีการ์ตูนน่ารักๆ ที่ลูกชอบ การได้มาเห็นของจริงตัวเป็นๆ จะทำให้ลูกมีความตื่นเต้น เป็นการเติมเต็มจินตนาการและความฟินได้ทั้งคุณแม่และคุณลูกเลยทีเดียวค่ะ

ที่มาภาพ – green revival blog

สร้างเสริมประสบการณ์ใหม่ๆ

ทุกครั้งที่พาลูกน้อยไปเที่ยว ถือเป็นการสร้างเสริมประสบการณ์แปลกใหม่ได้เสมอ ยิ่งการได้พาลูกไปต่างประเทศแล้ว ถือว่าเป็นการเปิดโลกอีกโลกหนึ่งเลยล่ะค่ะ

ที่มาภาพ – น้องวชิ Wachi

ที่มา

Writer Profile : giftoun


  • Official Sponsors :
  • Samitivej Hospital

Generic placeholder image

บทความที่เกี่ยวข้อง



กิจกรรมของครอบครัว กิจกรรมของครอบครัว
19 พฤศจิกายน 2560
เด็กวัยเข้าโรงเรียน เด็กวัยเข้าโรงเรียน
23 มกราคม 2562
การ์ตูนชุดที่ให้ข้อคิดดีๆ กับเด็ก
กิจกรรมของครอบครัว
กิจกรรมช่วงปิดเทอมสำหรับเด็ก
เด็กวัยเข้าโรงเรียน
พาลูกน้อยไปเที่ยวไหนในกรุงเทพดี ?
กิจกรรมของครอบครัว
วิธีพาลูกขึ้นขนส่งสาธารณะครั้งแรก
เด็กวัยเข้าโรงเรียน
20 คำที่ไม่ควรพูดกับลูก
กิจกรรมของครอบครัว
5 ข้อดีของการมีลูกคนเดียว
เตรียมตัวเป็นแม่
Update
Banner Banner
เมื่อคุณแม่หลายท่านเป็นกังวลกับเรื่องพัฒนาการสมองและภูมิคุ้มกันที่แตกต่างกันของลูกน้อยที่ผ่าคลอดกับเด็กคลอดธรรมชาติ กลัวว่าลูกน้อยจะมีโอกาสป่วยง่ายหรือมีพัฒนาการสมองช้ากว่าเพื่อนๆ ทำให้คุณแม่ต้องใส่ใจกับการดูแลลูกน้อยมากยิ่งขึ้น เสมือนการเร่งเสริมสร้างเกราะคุ้มกันให้ลูกน้อยเติบโตพร้อมปรับตัวกับโลกยุคใหม่ที่เต็มไปด้วยการเปลี่ยนแปลง วันนี้เราจะพาไปดูเคล็ดไม่ลับ ฉบับการดูแลพัฒนาการสมองของลูกน้อยและภูมิคุ้มกันของเด็กผ่าคลอดที่คุณแม่ไม่ควรมองข้าม ช่วยเติมเต็มในสิ่งที่ลูกผ่าคลอดต้องการได้ ไปดูกันเลย! เกราะคุ้มกันแรกที่หายไปของเด็กผ่าคลอด เด็กผ่าคลอดมักจะป่วยง่ายหรือมีปัญหาสุขภาพมากกว่าเด็กที่คลอดโดยธรรมชาติ เพราะสูญเสียโอกาสในการได้รับเชื้อจุลินทรีย์สุขภาพ ผ่านทางบริเวณช่องคลอดของคุณแม่ ทำให้เกราะคุ้มกันแรกเกิดของลูกน้อยผ่าคลอดหายไปส่งผลให้เด็กมีพัฒนาการทางระบบภูมิคุ้มกันตั้งต้นช้ากว่าเด็กที่คลอดตามธรรมชาติ บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) เป็นจุลินทรีย์ชนิดดีที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันตั้งต้น โดยเฉพาะระบบภูมิคุ้มกันในระบบทางเดินอาหาร คุณแม่จึงต้องเร่งเสริมสร้างเกราะคุ้มกันให้ลูกน้อยมีพื้นฐานที่ดีตั้งแต่เริ่มต้น เพื่อช่วยให้ลูกน้อยของเรามีมีระบบภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้น เสริมสร้างพัฒนาการด้านสมองของเด็กผ่าคลอดด้วย “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” คือสารอาหารที่พบมากในนมแม่ เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้การทำงานสมองของลูกน้อยมีประสิทธิภาพ สร้างสมองไวกว่าเดิม เชื่อมต่อเซลล์สมอง 1 แสนล้านเซล์ อัพเกรดเด็กเจนใหม่ โดยสร้างสารสื่อประสาทในสมอง และเพิ่มความเร็วการส่งสัญญาณประสาทแบบก้าวกระโดด “สฟิงโกไมอีลิน” คือ ไขมันกลุ่มฟอสโฟไลปิด พบได้มากในน้ำนมแม่ที่อุดมไปด้วยสารอาหารกว่า 200 ชนิด ซึ่ง “สฟิงโกไมอีลิน”เป็นองค์ประกอบในการสร้างปลอกไมอีลิน ซึ่งมีผลต่อการทำงานของสมองให้ส่งสัญญาณประสาทได้ไวและประมวลผลอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้เกิดการจดจำเร็ว เรียนรู้ไว สมองของเด็กผ่าคลอดและเด็กที่คลอดตามธรรมชาติ มีการสร้างไมอีลินในสมองแตกต่างกัน โดยเฉพาะที่ส่วนของสมอง ที่ทำหน้าที่เชื่อมโยงระหว่างสมองซีกซ้ายและซีกขวา คุณแม่จึงควรคำนึงถึงจุดเริ่มต้นที่แตกต่าง ของเด็กผ่าคลอดเจนใหม่ ด้วยการเตรียมสมองไวและภูมิคุ้มกันที่ดีด้วย “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” และ บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) จากนมแม่ให้ลูกน้อยยิ่งเริ่มเร็วก็ยิ่งดี เพราะพัฒนาการสมองที่ดีในวัยเด็ก ถือเป็นรากฐานสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการมองเห็น การได้ยิน หรือการเรียนรู้ภาษาสิ่งเหล่านี้ล้วนเกิดจากพัฒนาการของสมองเพราะสมองคือจุดเริ่มต้น ของทุกพัฒนาการของลูกน้อย เตรียมพร้อมเด็กผ่าคลอดให้มีสมองไวและภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้นได้ คุณแม่สามารถเติมเต็มในสิ่งที่ลูกน้อยผ่าคลอดต้องการได้ด้วยสารอาหารที่สำคัญอย่างเช่น “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” ที่ช่วยเพิ่มความเร็วในการส่งสัญญาณประสาทได้เร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น และโพรไบโอติก บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) ตัวช่วยที่ทำให้ลูกน้อยมีภูมิคุ้มกันสุขภาพที่ดี ดังนั้นคุณแม่ก็วางใจได้ หากเราเสริมสร้าง…
3 กันยายน 2568

anal porno zdarma culi nudi al mare free sex videos antalya escort

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save