มีงานวิจัยจากมหาวิทยาลัยยูทาห์ในสหรัฐฯ ได้ตีพิมพ์ในวารสาร Fertility and Sterility เกี่ยวกับมลพิษทางอากาศทำให้ผู้หญิงที่กำลังตั้งครรภ์เสี่ยงแท้งลูกพอๆ กับการสูบบุหรี่ โดยเฉพาะการตั้งครรภ์ในช่วง 3 เดือนแรก
มลพิษทางอากาศเพิ่มความเสี่ยงในการคลอดก่อนกำหนดและทำให้เด็กแรกเกิดมีน้ำหนักตัวน้อยกว่าปกติ และยังมีผลวิจัยอีกชิ้นหนึ่งที่มีการพบอนุภาคของมลพิษทางอากาศที่รกในครรภ์ด้วย
โดยงายวิจัยนี้เป็นงานชิ้นแรกที่ประเมินผลกระทบในระยะสั้นของมลพิษทางอากาศ ซึ่งพบว่า การมีระดับไนโตรเจนไดออกไซด์ที่เพิ่มขึ้นอากาศจะเพิ่มความเสี่ยงในการแท้งลูกถึง 16% โดยไนโตรเจนไดออกไซด์นี้เกิดจากอารเผาเชื้อเพลิง อย่างเช่น รถที่ใช้น้ำมันดีเซล
ดร.แมทธิว ฟูลเลอร์ หนึ่งในทีมนักวิจัยได้กล่าวว่า ในขณะที่เกิดปัญหามลพิษขึ้นคุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์ควรหลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมนอกบ้าน หรือถ้าหลีกเลี่ยงไม่ได้ก็ควรใส่หน้ากากป้องกันฝุ่นละอองขนาดเล็ก หรือใช้เครื่องฟอกอากาศภายในบ้าน
ในหลายๆ ประเทศเมื่อมีปัญหามลพิษทางอากาศเกิดขึ้นก็มักจะมีมาตรการการจัดการที่เหมาะสม แต่สำหรับประเทศที่กำลังพัฒนานั้นอาจยังไม่มีมาตรการการจัดการปัญหาที่เหมาะสมและยั่งยืน ซึ่งนั่นล้วนเป็นอันตรายต่อคนรุ่นต่อไปมากทีเดียว
อ้างอิงจาก