fbpx

รู้รึเปล่า กะหล่ำปลีช่วยบรรเทาอาการคัดเต้าได้นะ!

: 1 กันยายน 2565

เส้นทางของการให้นมลูกใช่ว่าจะเต็มไปด้วยกลีบกุหลาบเสมอไป แน่นอนว่าบางครั้งการที่เจ้าตัวน้อยอิ่มท้องก็แลกมากับความเจ็บปวดของเราซะนี่ ซึ่งความเจ็บปวดนี้ก็ทำให้การให้นมลูกไม่ง่ายเลยในหลาย ๆ ครั้ง

โดยเฉพาะในช่วงแรกของการให้นมลูกที่เต้านมของคุณแม่จะคัดตึงเป็นพิเศษ ด้วยร่างกายของคุณแม่ยังไม่สามารถผลิตน้ำนมในปริมาณที่พอเหมาะสำหรับลูกน้อยได้ ส่งผลให้เต้านมคัด เป็นก้อนบวมโต และมีอาการปวดตามมาด้วย

แต่รู้ไหมคะ ว่าผักคู่ครัวอย่างกะหล่ำปลีจะสามารถช่วยลดอาการคัดเต้าได้ด้วย! เราไปดูกันเลยดีกว่าค่ะว่ากะหล่ำปลีสามารถช่วยคุณแม่ให้นมได้อย่างไรบ้าง

 

ทำไมกะหล่ำปลีถึงช่วยได้ล่ะ?

จากผลการวิจัยชี้ว่าใบกะหล่ำปลีมีสารต้านการอักเสบ และเป็นพืชสมุนไพรชนิดเย็น ซึ่งอาจช่วยลดอาการบวมในเต้านมได้เมื่อสัมผัสกับผิวหนังโดยตรง แม้การวิจัยอาจยังไม่สามารถยืนยันได้ทั้งหมดว่าใบกะหล่ำปลีมีฤทธิ์ช่วยลดความบวมได้ แต่ด้วยรูปร่างของใบมีความกลมรองรับกับสรีระของหน้าอกได้อย่างดี ไม่ต้องเคลื่อนที่ไปมาเพื่อประคบให้ทั่วถึง จึงเป็นอุปกรณ์ประคบเย็นที่เหมาะกับคุณแม่คัดเต้า และหาได้ง่ายนั่นเองค่ะ

วิธีเตรียมกะหล่ำปลีสำหรับประคบเต้านม

  • ตัดขั้วกะหล่ำปลี ล้างให้สะอาดและซับน้ำให้แห้ง
  • นำไปแช่เย็น หรือแช่ช่องแช่แข็งเป็นเวลา 20-30 นาที (ถ้าผิวหนังบริเวณเต้านมบอบบาง ไม่จำเป็นต้องแช่แข็งก็ได้)
  • เลือกใบที่ใกล้เคียงกับขนาดหน้าอก หรือตัดแต่งใบให้เข้าทรง

ถ้ากะหล่ำปลีมีเส้นใยที่แข็ง สามารถใช้มีดบากตามใบให้เส้นใยแตกและใบกะหล่ำปลีนุ่มขึ้นได้ค่ะ

  • ประคบกะหล่ำปลีบนหน้าอก เว้นบริเวณหัวนมไว้
  • สามารถใส่บราหลวมทับไว้ได้เพื่อความสะดวกสบายต่อการเคลื่อนไหว
  • นำใบกะหล่ำปลีออกหลังจากประคบได้ 20 นาทีหรือจนกว่าใบกะหล่ำปลีจะอุ่นขึ้น

 

หลังจากนั้นก็สามารถนำใบกระหล่ำปลีไปทิ้งได้ค่ะ โดยคุณแม่สามารถใช้ใบกะหล่ำปลีประคบหน้าอกได้ 20 นาทีถึง 3 ครั้งต่อวัน แต่ไม่ควรบ่อยกว่านั้น เพราะการใช้ใบกะหล่ำปลีมากเกินไปอาจส่งผลให้ปริมาณน้ำนมนั้นลดลงได้ค่ะ

อย่างไรก็แล้วแต่ ถึงกะหล่ำปลีจะช่วยบรรเทาอาการคัดเต้านมได้ แต่ถ้าคุณแม่มีอาการเต้านมอักเสบและมีอาการหนาวสั่น ไข้ขึ้น ปวดตามเนื้อตัว ควรพบแพทย์ทันทีค่ะ

Writer Profile : phanthirapuyou

  • Blog :
  • Social Media :

  • Official Sponsors :
  • Samitivej Hospital

Generic placeholder image

บทความที่เกี่ยวข้อง



คำอวยพรของคนได้เป็นแม่ครั้งแรก
กิจกรรมของครอบครัว
Update
Banner Banner
เมื่อคุณแม่หลายท่านเป็นกังวลกับเรื่องพัฒนาการสมองและภูมิคุ้มกันที่แตกต่างกันของลูกน้อยที่ผ่าคลอดกับเด็กคลอดธรรมชาติ กลัวว่าลูกน้อยจะมีโอกาสป่วยง่ายหรือมีพัฒนาการสมองช้ากว่าเพื่อนๆ ทำให้คุณแม่ต้องใส่ใจกับการดูแลลูกน้อยมากยิ่งขึ้น เสมือนการเร่งเสริมสร้างเกราะคุ้มกันให้ลูกน้อยเติบโตพร้อมปรับตัวกับโลกยุคใหม่ที่เต็มไปด้วยการเปลี่ยนแปลง วันนี้เราจะพาไปดูเคล็ดไม่ลับ ฉบับการดูแลพัฒนาการสมองของลูกน้อยและภูมิคุ้มกันของเด็กผ่าคลอดที่คุณแม่ไม่ควรมองข้าม ช่วยเติมเต็มในสิ่งที่ลูกผ่าคลอดต้องการได้ ไปดูกันเลย! เกราะคุ้มกันแรกที่หายไปของเด็กผ่าคลอด เด็กผ่าคลอดมักจะป่วยง่ายหรือมีปัญหาสุขภาพมากกว่าเด็กที่คลอดโดยธรรมชาติ เพราะสูญเสียโอกาสในการได้รับเชื้อจุลินทรีย์สุขภาพ ผ่านทางบริเวณช่องคลอดของคุณแม่ ทำให้เกราะคุ้มกันแรกเกิดของลูกน้อยผ่าคลอดหายไปส่งผลให้เด็กมีพัฒนาการทางระบบภูมิคุ้มกันตั้งต้นช้ากว่าเด็กที่คลอดตามธรรมชาติ บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) เป็นจุลินทรีย์ชนิดดีที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันตั้งต้น โดยเฉพาะระบบภูมิคุ้มกันในระบบทางเดินอาหาร คุณแม่จึงต้องเร่งเสริมสร้างเกราะคุ้มกันให้ลูกน้อยมีพื้นฐานที่ดีตั้งแต่เริ่มต้น เพื่อช่วยให้ลูกน้อยของเรามีมีระบบภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้น เสริมสร้างพัฒนาการด้านสมองของเด็กผ่าคลอดด้วย “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” คือสารอาหารที่พบมากในนมแม่ เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้การทำงานสมองของลูกน้อยมีประสิทธิภาพ สร้างสมองไวกว่าเดิม เชื่อมต่อเซลล์สมอง 1 แสนล้านเซล์ อัพเกรดเด็กเจนใหม่ โดยสร้างสารสื่อประสาทในสมอง และเพิ่มความเร็วการส่งสัญญาณประสาทแบบก้าวกระโดด “สฟิงโกไมอีลิน” คือ ไขมันกลุ่มฟอสโฟไลปิด พบได้มากในน้ำนมแม่ที่อุดมไปด้วยสารอาหารกว่า 200 ชนิด ซึ่ง “สฟิงโกไมอีลิน”เป็นองค์ประกอบในการสร้างปลอกไมอีลิน ซึ่งมีผลต่อการทำงานของสมองให้ส่งสัญญาณประสาทได้ไวและประมวลผลอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้เกิดการจดจำเร็ว เรียนรู้ไว สมองของเด็กผ่าคลอดและเด็กที่คลอดตามธรรมชาติ มีการสร้างไมอีลินในสมองแตกต่างกัน โดยเฉพาะที่ส่วนของสมอง ที่ทำหน้าที่เชื่อมโยงระหว่างสมองซีกซ้ายและซีกขวา คุณแม่จึงควรคำนึงถึงจุดเริ่มต้นที่แตกต่าง ของเด็กผ่าคลอดเจนใหม่ ด้วยการเตรียมสมองไวและภูมิคุ้มกันที่ดีด้วย “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” และ บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) จากนมแม่ให้ลูกน้อยยิ่งเริ่มเร็วก็ยิ่งดี เพราะพัฒนาการสมองที่ดีในวัยเด็ก ถือเป็นรากฐานสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการมองเห็น การได้ยิน หรือการเรียนรู้ภาษาสิ่งเหล่านี้ล้วนเกิดจากพัฒนาการของสมองเพราะสมองคือจุดเริ่มต้น ของทุกพัฒนาการของลูกน้อย เตรียมพร้อมเด็กผ่าคลอดให้มีสมองไวและภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้นได้ คุณแม่สามารถเติมเต็มในสิ่งที่ลูกน้อยผ่าคลอดต้องการได้ด้วยสารอาหารที่สำคัญอย่างเช่น “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” ที่ช่วยเพิ่มความเร็วในการส่งสัญญาณประสาทได้เร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น และโพรไบโอติก บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) ตัวช่วยที่ทำให้ลูกน้อยมีภูมิคุ้มกันสุขภาพที่ดี ดังนั้นคุณแม่ก็วางใจได้ หากเราเสริมสร้าง…
3 กันยายน 2568

anal porno zdarma culi nudi al mare free sex videos antalya escort

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save