fbpx

6 เคล็ดลับดูแลผิวลูกน้อยวัยแรกเกิด ทำยังไงให้มีสุขภาพดี

Writer : nunzmoko
: 6 พฤศจิกายน 2560

แม้ว่าผิวเด็กจะมีผิวที่มีความชุ่มชื้นและเนียนนุ่มกว่าผู้ใหญ่มาก แต่ก็ต้องได้รับการดูแลเป็นพิเศษ เมื่อผิวของเด็กมีการสัมผัสกับเชื้อโรคหรือสิ่งสกปรกทำให้ผิวที่บอบบาง หมองคล้ำและกระดำกระด่างได้ง่าย มาดู 6 เคล็ดลับดูแลผิวลูกน้อยวัยแรกเกิด ว่าทำยังไงถึงจะมีผิวที่สุขภาพดีกันค่ะ

1. นวดน้ำมันอโรมาอุ่นๆ

การนวดกระตุ้นด้วยน้ำมันอุ่นๆ เป็นเคล็ดลับบำรุงผิวแบบโบราณที่ทำให้ผิวกระจ่างใส เนียนนุ่ม และชุ่มชื้น วิธีนี้เป็นการเคลือบเพิ่มชั้นความชุ่มชื้นให้แก่ผิวที่บอบบางของลูกน้อย และยังช่วยปรับสมดุลของน้ำมันในเซลล์ผิวอีกด้วย หากนวดน้ำมันอุ่นๆ เป็นประจำ ผิวลูกน้อยจะเปล่งประกายสดใส ผิวขาวอมชมพู ส่วนน้ำมันที่เหมาะสำหรับนวดผิวลูกน้อย ได้แก่ น้ำมันอัลมอนด์ น้ำมันมะกอก เป็นต้น

 

2. อาบน้ำให้ลูกน้อยวันละ 2 ครั้งก็เพียงพอ

คุณแม่ไม่ควรอาบน้ำให้เจ้าตัวเล็กบ่อย ยิ่งในช่วงฤดูหนาวเด็กทารกเหงื่อออกไม่มาก ควรใช้วิธีการเช็ดตัวลูกเพื่อทำความสะอาดจะดีกว่าค่ะ เพราะการอาบน้ำบ่อยจะยิ่งทำให้เจ้าตัวเล็กผิวแห้งและอาจทำให้ผิวลูกระคายเคืองได้ค่ะ

 

3. ผลิตภัณฑ์อาบน้ำสูตรอ่อนโยน

เลือกผลิตภัณฑ์อาบน้ำให้ลูกน้อยที่เป็นสูตรอ่อนโยนสำหรับเด็ก เพื่อป้องกันการระคายเคือง โดยส่วนผสมของผลิตภัณฑ์อาบน้ำเด็กไม่ควรมีสารเคมี ควรใช้ผลิตภัณฑ์จากสารสกัดจากธรรมชาติและมีส่วนผสมของน้ำผึ้ง นม น้ำแร่ วิตามินอี เพราะจะช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นให้ผิวทารกดูชุ่มชื้น อ่อนนุ่ม ตลอดทั้งวัน

 

4. อุณหภูมิของน้ำที่อาบพอเหมาะ 

คุณแม่อาจจะคิดว่าอากาศเย็นๆ ต้องอาบน้ำอุ่นค่อนไปร้อนกว่าปกติให้ลูก แต่จริงๆ แล้วควรใช้น้ำอุ่นตามระดับปกติและไม่แช่ลูกลงในน้ำอุ่นนานเกินไป เพราะน้ำอุ่นจะชะล้างไขมันธรรมชาติที่เคลือบผิวเด็กออกทำให้ผิวลูกแห้งมากขึ้นค่ะ

5. ไม่ลืมทาโลชั่นหลังอาบน้ำ

หลังอาบน้ำเพื่อป้องกันไม่ให้ผิวของลูกน้อยแห้ง ควรตามด้วยโลชั่นหรือเบบี้ออยล์ที่จะช่วยป้องกันการสูญเสียน้ำจนทำให้ผิวแห้งลอก แต่ต้องระวังอย่าทาโลชั่นหนาเกินไป และหลีกเลี่ยงการทาบริเวณมือที่เด็กสามารถสัมผัสกับปากได้ง่าย นอกจากนี้ คุณแม่ควรเช็ดมือลูกน้อยให้แห้งโดยเฉพาะง่ามนิ้วมือและง่ามนิ้วเท้า เพราะหากเช็ดไม่แห้งดีอาจจะทำให้ผิวบริเวณนั้นชื้นและเปื่อยได้ค่ะ

 

6. มาส์กแป้งกรัม

ทำมาส์กบำรุงผิวให้ลูกเองด้วยสูตร นมสด+ขมิ้น+แป้งกรัม (แป้งกรัม เรียกอีกชื่อว่า แป้งถั่วลูกไก่ หรือแป้งเบซาน เป็นแป้งทำอาหารของชาวอินเดีย บังกลาเทศ) พอกมาส์กลงบนผิวลูกเบาๆ ทิ้งไว้ 10 นาที พอมาส์กเริ่มแห้ง ให้ใช้สำลีหรือผ้านุ่มๆ ชุบน้ำหมาดๆ เช็ดเนื้อมาส์กออก ซึ่งถ้าใช้เบบี้ออยล์อย่างเดียวในการดูแลผิว อาจทำให้ผิวลูกน้อยมันเกินไปจนเกิดผดผื่นขึ้นได้เมื่อเจออากาศร้อน ดังนั้น ใช้มาส์กผิวโฮมเมดสูตรที่แนะนำจะให้ผลดีกว่าค่ะ

 

ที่มา : amarinbabyandkids

Writer Profile : nunzmoko

  • Blog :
  • Social Media :

  • Official Sponsors :
  • Samitivej Hospital

Generic placeholder image

บทความที่เกี่ยวข้อง



จะรู้ได้ยังไงว่าลูกแพ้นมวัว?
ช่วงวัยของเด็ก
CAR SEAT กับเด็กแต่ละช่วงอายุ
ข้อมูลทางแพทย์
Update
Banner Banner
เมื่อคุณแม่หลายท่านเป็นกังวลกับเรื่องพัฒนาการสมองและภูมิคุ้มกันที่แตกต่างกันของลูกน้อยที่ผ่าคลอดกับเด็กคลอดธรรมชาติ กลัวว่าลูกน้อยจะมีโอกาสป่วยง่ายหรือมีพัฒนาการสมองช้ากว่าเพื่อนๆ ทำให้คุณแม่ต้องใส่ใจกับการดูแลลูกน้อยมากยิ่งขึ้น เสมือนการเร่งเสริมสร้างเกราะคุ้มกันให้ลูกน้อยเติบโตพร้อมปรับตัวกับโลกยุคใหม่ที่เต็มไปด้วยการเปลี่ยนแปลง วันนี้เราจะพาไปดูเคล็ดไม่ลับ ฉบับการดูแลพัฒนาการสมองของลูกน้อยและภูมิคุ้มกันของเด็กผ่าคลอดที่คุณแม่ไม่ควรมองข้าม ช่วยเติมเต็มในสิ่งที่ลูกผ่าคลอดต้องการได้ ไปดูกันเลย! เกราะคุ้มกันแรกที่หายไปของเด็กผ่าคลอด เด็กผ่าคลอดมักจะป่วยง่ายหรือมีปัญหาสุขภาพมากกว่าเด็กที่คลอดโดยธรรมชาติ เพราะสูญเสียโอกาสในการได้รับเชื้อจุลินทรีย์สุขภาพ ผ่านทางบริเวณช่องคลอดของคุณแม่ ทำให้เกราะคุ้มกันแรกเกิดของลูกน้อยผ่าคลอดหายไปส่งผลให้เด็กมีพัฒนาการทางระบบภูมิคุ้มกันตั้งต้นช้ากว่าเด็กที่คลอดตามธรรมชาติ บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) เป็นจุลินทรีย์ชนิดดีที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันตั้งต้น โดยเฉพาะระบบภูมิคุ้มกันในระบบทางเดินอาหาร คุณแม่จึงต้องเร่งเสริมสร้างเกราะคุ้มกันให้ลูกน้อยมีพื้นฐานที่ดีตั้งแต่เริ่มต้น เพื่อช่วยให้ลูกน้อยของเรามีมีระบบภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้น เสริมสร้างพัฒนาการด้านสมองของเด็กผ่าคลอดด้วย “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” คือสารอาหารที่พบมากในนมแม่ เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้การทำงานสมองของลูกน้อยมีประสิทธิภาพ สร้างสมองไวกว่าเดิม เชื่อมต่อเซลล์สมอง 1 แสนล้านเซล์ อัพเกรดเด็กเจนใหม่ โดยสร้างสารสื่อประสาทในสมอง และเพิ่มความเร็วการส่งสัญญาณประสาทแบบก้าวกระโดด “สฟิงโกไมอีลิน” คือ ไขมันกลุ่มฟอสโฟไลปิด พบได้มากในน้ำนมแม่ที่อุดมไปด้วยสารอาหารกว่า 200 ชนิด ซึ่ง “สฟิงโกไมอีลิน”เป็นองค์ประกอบในการสร้างปลอกไมอีลิน ซึ่งมีผลต่อการทำงานของสมองให้ส่งสัญญาณประสาทได้ไวและประมวลผลอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้เกิดการจดจำเร็ว เรียนรู้ไว สมองของเด็กผ่าคลอดและเด็กที่คลอดตามธรรมชาติ มีการสร้างไมอีลินในสมองแตกต่างกัน โดยเฉพาะที่ส่วนของสมอง ที่ทำหน้าที่เชื่อมโยงระหว่างสมองซีกซ้ายและซีกขวา คุณแม่จึงควรคำนึงถึงจุดเริ่มต้นที่แตกต่าง ของเด็กผ่าคลอดเจนใหม่ ด้วยการเตรียมสมองไวและภูมิคุ้มกันที่ดีด้วย “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” และ บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) จากนมแม่ให้ลูกน้อยยิ่งเริ่มเร็วก็ยิ่งดี เพราะพัฒนาการสมองที่ดีในวัยเด็ก ถือเป็นรากฐานสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการมองเห็น การได้ยิน หรือการเรียนรู้ภาษาสิ่งเหล่านี้ล้วนเกิดจากพัฒนาการของสมองเพราะสมองคือจุดเริ่มต้น ของทุกพัฒนาการของลูกน้อย เตรียมพร้อมเด็กผ่าคลอดให้มีสมองไวและภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้นได้ คุณแม่สามารถเติมเต็มในสิ่งที่ลูกน้อยผ่าคลอดต้องการได้ด้วยสารอาหารที่สำคัญอย่างเช่น “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” ที่ช่วยเพิ่มความเร็วในการส่งสัญญาณประสาทได้เร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น และโพรไบโอติก บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) ตัวช่วยที่ทำให้ลูกน้อยมีภูมิคุ้มกันสุขภาพที่ดี ดังนั้นคุณแม่ก็วางใจได้ หากเราเสริมสร้าง…
3 กันยายน 2568

anal porno zdarma culi nudi al mare free sex videos antalya escort

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save