fbpx

เมื่อลูกโมโหร้ายแบบควบคุมตัวเองไม่ได้ พ่อแม่ต้องทำอย่างไร ?

Writer : Jicko
: 1 สิงหาคม 2562

เมื่อลูกของเราเริ่มเข้าสู่วัย 1 – 3 ปี คุณพ่อคุณแม่จะสังเกตได้ว่า เด็กๆ มักจะมีนิสัยโมโหร้าย ชอบขว้างของ เอาแต่ใจตัวเองกันแบบสุดๆ จนบางครั้งคุณพ่อคุณแม่ก็จะกังวัลใจว่าเหตุใดลูกเราถึงเป็นเด็กโมโหร้ายแบบนี้

วันนี้ทาง Parentsone มีวิธีแก้ไขพฤติกรรมเหล่านี้มาฝากคุณพ่อคุณแม่ได้ลองอ่านดูกัน เหตุใดทำไมลูกสุดน่ารักของเราจึงกลายเป็นเด็กโมโหร้าย มีวิธีรับมืออย่างไรไปดูกันเลยค่ะ

อารมณ์โกรธของเด็กๆ มักจะแสดงให้เราเห็นก็ต่อเมื่อ เขาไม่ชอบใจหรือถูกขัดขวางไม่ให้ทำในสิ่งที่อยากจะทำ ซึ่งแต่ละช่วงวัยก็มีอาการโกรธที่แตกต่างกันไป

ต้นเหตุความรุนแรง

สามารถแบ่งเป็น 4 กลุ่มใหญ่ๆ ได้แก่

1.สาเหตุภายในครอบครัว ได้แก่

  • พ่อแม่อายุน้อยขาดความอดทนต่อเด็ก
  • ชีวิตคู่ไม่ราบรื่น
  • มีปัญหาทางสังคมเศรษฐกิจ
  • ขาดความรู้ความเข้าใจพฤติกรรมเด็ก
  • มีปัญหาจิตเวช หวาดระแวง ซึมเศร้า
  • มีความกดดันและเครียดเกี่ยวกับลูกที่ต้องดูแลตลอดเวลาและไม่ได้พักผ่อน
  • ตั้งความหวังกับเด็กสูงเกินไป
  • ไม่ต้องการเลี้ยงดูลูก

2.สาเหตุจากตัวเด็ก ได้แก่

  • พื้นฐานอารมณ์ของเด็ก
  • ความซน
  • จิตวิทยาและพัฒนาการไม่สมวัย

3.สาเหตุจากสภาพแวดล้อม เศรษฐกิจ และภาวะวิกฤติ ได้แก่

  • ความยากจน
  • สภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยความรุนแรง
  • อุปสรรคทางสังคมและเศรษฐกิจนมาซึ่งการใช้กำลังในครอบครัว
  • ผลกระทบจากความตึงเครียด
  • วิกฤติภายในครอบครัว
  • ครอบครัวอยู่ในชุมชนที่มีการช่วยเหลือทางสังคมที่ต่ำ

4.สาเหตุจากการจัดการศึกษาที่ไม่เหมาะสมในวัยก่อนเรียน ทำให้เกิดความกดดันทางอารมณ์ เช่น

  • การเร่งรัดให้เด็กเรียนมากเกินไปไม่สมวัย

 

Checklist อาการโมโหที่ไม่ธรรมดาของลูก

หากคุณพ่อคุณแม่สังเกตดีๆ ก็จะสามารถสังเกตอาการโกรธที่น่าเป็นห่วงของลูกเบื้องต้นได้ดังนี้

  • หยิก
  • ดึงผม
  • ฉุดกระชาก
  • ไม่ฟังใคร
  • ปาข้าวของ
  • โมโห อาละวาด
  • ชักดิ้นชักงอ
  • ร้องไห้นานเป็นชั่วโมง
  • ตบหน้าพ่อแม่ หรือทำร้ายคนเลี้ยงดู เช่น พี่เลี้ยง
  • ทุบตี หรือทำร้ายเพื่อนที่โรงเรียนและผู้อื่น

 

รับมือเมื่อลูกโกรธได้อย่างไร ?

เราสามารถแบ่งได้เป็น 2 ประเภท ได้แก่

1.เด็กโกรธแบบรับมือได้ คือ คุณพ่อคุณแม่สามารถประคับประคองหรือปลอบลูกได้ คุณพ่อคุณแม่สามารถสอนวิธีจัดการความโกรธได้ดังนี้

 

  • พ่อแม่เป็นแบบอย่างที่ดีให้กับลูก : เมื่อเรารู้สึกโกรธให้นิ่งหรือปลีกตัวออกมาจนรู้สึกผ่อนคลายก่อน แล้วค่อยๆ พูดคุยกับคนรอบข้างด้วยเหตุผล ทำเช่นนี้ให้ลูกเห็นเป็นประจำ เด็กๆ ก็จะซึมซับตัวอย่างที่ดีของพ่อแม่ได้ แล้วจัดการกับอารมณ์ของตัวเองได้เป็นอย่างดี

  • ปล่อยให้ลูกอยู่กับตัวเอง แล้วค่อยอธิบายภายหลัง : หากลูกมีความโกรธที่ไม่รุนแรง อย่างเช่น หน้าบึ้ง ร้องไห้ คุณพ่อคุณแม่ลองปล่อยให้ลูกได้อยู่กับตัวเองจนใจเย็นลง แล้วค่อยไปถามความรู้สึก และเปิดโอกาสให้เขาได้เล่า และเราก็เป็นคนรับฟัง โดยไม่ตำหนิ แต่ควรบอกให้เขาเห็นว่าอะไรคือผลที่ตามมาหากกระทำเช่นนั้น

  • เข้าใจความโกรธของลูก : เพราะเด็กทุกคนมีสิทธิ์ที่จะโกรธ แต่เมื่อโกรธแล้วเขาต้องรู้วิธีที่จะสงบสติอารมณ์ของตนเองลงให้ได้ก่อนเป็นลำดับแรก และเปิดโอกาสให้เขาได้หัดคิดและเรียนรู้ โดยมีเราที่เป็นพ่อแม่คอยช่วยประคับประคองนั้นเองค่ะ

  • แลกเปลี่ยนความเห็นเรื่องความรุนแรงในสังคม : ตามสื่อต่างๆ ทั้งข่าว ละคร มักจะมีเนื้อหาเกี่ยวกับความรุนแรงปรากฏขึ้น ซึ่งพ่อแม่ควรอธิบายเหตุผลให้ลูกฟัง และเราก็ต้องฟังความคิดเห็นของเด็กเพื่อแนะนำอย่างเหมาะสมด้วยเช่นกันค่ะ

 

2.เด็กโกรธรุนแรงแบบรับมือไม่ได้ คือ เด็กที่โกรธแล้วทำร้ายพ่อแม่หรือคนรอบข้าง เช่นกัดและหยิกจนเป็นแผล เป็นต้น จนเราไม่สามารถรับมือกับความโกรธนี้ได้ วิธีการรักษาที่ดีที่สุดก็คือ ควรปรึษาจิตแพทย์เด็กและวัยรุ่นผู้ช่วยชาญ เพื่อเข้ารับการรักษาอย่างถูกวิธี ซึ่งประกอบด้วย

  • ซักประวัติ ตรวจความปกติทางอารมณ์และพฤติกรรมของเด็ก และพ่อแม่ผู้ปกครอง หากสิ่งแวดล้อมโดยรอบมีความสงบเป็นปกติ แต่ลูกยังมีความรุนแรงผิดปกติ เราต้องรีบพิจารณาโรคภัยไข้เจ็บของเด็ก เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริง
  • ปรับเปลี่ยนร่วมกับสมาชิกในครอบครัว โดยการรู้จุดแข็ง จุดอ่อน จุดเปราะบางของเด็ก และพร้อมเปิดใจที่จะปรับเปลี่ยนไปพร้อมๆ กันภายใต้คำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด
  • รับประทานยา หากอาการที่เกิดจากความโกรธของเด็กยังไม่ดีขึ้นอีก การทานยาก็สามารถช่วยให้อาการของเด็กดีขึ้น 70 -80% ยกเว้นพ่อแม่มีอารมณ์และพฤติกรรมที่ส่งผลให้เด็กขาดกำลังใจ ผลของยาก็เหลือเพียง 30 – 40%  เท่านั้นค่ะ

 

รู้อย่างงี้แล้ว คุณพ่อคุณแม่ก็รู้วิธีการรับมือกับความโกรธของลูกแล้วใช่ไหมคะ สิ่งสำคัญที่สุดข้อหนึ่งเลยก็คือหากลูกกำลังโกรธ เราไม่ควรตี หรือดุเขาซ้ำ เป็นมันไม่ได้ช่วยแก้ปัญหานี้เลย แถมยังทำให้ลูกมีความโกรธมากขึ้นไปอีก และอีกข้อเลยก็คือ หากยอมตามใจลูกไปซะทุกเรื่อง เพราะนั้นแหละค่ะ จำทให้เขายิ่งทำต่อไปเรื่อยๆ จนเมื่อมีคนใดคนหนึ่งมาขัดใจ สุดท้ายเขาก็จะติดสัยโกรธ ขี้โมโห ติดไปจนกลายเป็นเด็กโมโหร้ายต่อไปค่ะ

 

ขอบคุณข้อมูลจาก : นพ.ชลภัฏ จาตุรงคกุล จิตแพทย์เด็กและวัยรุ่น ศูนย์พัฒนาการเด็ก โรงพยาบาลกรุงเทพ , Rakluke

 

Writer Profile : Jicko

  • Social Media :

  • Official Sponsors :
  • Samitivej Hospital

Generic placeholder image

บทความที่เกี่ยวข้อง



6วิธี ช่วยลูกน้อย ค้นหาพรสวรรค์
กิจกรรมของครอบครัว
Sometime…บางครั้งของลูก
ชีวิตครอบครัว
Update
ไลฟ์สไตล์ ไลฟ์สไตล์
เคยกลับบ้านมาแล้วกรี๊ดลั่นบ้านเพราะเจ้าตัวแสบไปวิ่งเล่นเลอะเทอะกันไหมคะ ? หรือแต่งตัวลูกอย่างดีไปทานข้าวนอกบ้าน แต่คุณลูกก็ทำซอสหกใส่ ไอติมหล่นไปเป็นก้อน เละทั้งตัว วันนี้ ParentsOne มีเสื้อเด็กที่เจ๋งมากๆ จาก GQ : the good day lab™ มาลองรีวิวให้ได้ชมกันค่ะ 🛒 ช้อปเลยที่ -> https://gqsize.link/bZT7Sx แกะกล่อง GQ : the good day lab™ เสื้อเด็ก ฟีเจอร์เพียบ คุณภาพ GQ ขึ้นชื่อว่า GQ ก็มั่นใจได้เรื่องคุณภาพค่ะ ผ้านุ่ม เบาบาง เหมาะกับอากาศเมืองไทย ใส่วิ่งสบายๆ ที่แปลกตาคือเป็นเสื้อที่ไม่มีป้ายแท็กค่ะ ทั้งด้านหลังคอเสื้อ หรือข้างใน ไม่ต้องห่วงว่าจะเคืองหรือคันเลย กระดุมแข็งแรงเอามากๆ ใช้แรงผู้ใหญ่ดึงแรงๆ ก็ไม่มีปัญหาเลย ไฮไลท์สำคัญที่คุณแม่แทบกรี๊ด คือเป็นไม่เปื้อนค่าาาา เทน้ำ เทนมใส่เสื้อ ไม่เปียกเลย สะบัดสองที หายปกติ ซึ่งถ้าใครเคยเห็นโฆษณา GQ ที่เสื้อเชิ้ตขาวไปทำงานคุณพ่อ โดนกาแฟหกใส่ แต่ผ้าไม่เปื้อนเลย เทคโนโลยีผ้าสะท้อนน้ำ ตอนนี้มาอยู่ในเสื้อเด็กแล้ววววว ทีมงานทดสอบเทน้ำสีผสมอาหาร นม หรือแม้แต่ซอสมะเขือเทศลงบนเสื้อ ก็ไม่เปื้อนค่ะ ไม่น่าเชื่อมากๆ ข้อดีที่สุดของผ้าแบบนี้ คือทำให้ชีวิตคุณแม่สบายขึ้นมาก พาลูกไปเที่ยว วิ่งเล่นสนามหญ้า พาไปทานก๋วยเตี๋ยว หรือให้ทานอะไร ก็ไม่ต้องกลัวเสื้อสวยๆ เลอะ แถมประหยัดเวลาซักผ้าด้วย ไม่ต้องมาคอยแช่ผ้าให้คราบมันออกแบบสมัยก่อน สำหรับเสื้อเด็ก the good day lab™…
8 ธันวาคม 2566

anal porno zdarma culi nudi al mare free sex videos antalya escort

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save