fbpx

เลิกแพมเพิสยังไงดี

Writer : giftoun
: 2 กรกฏาคม 2561

เมื่อลูกโตขึ้นแล้ว การหัดเข้าห้องน้ำด้วยตัวเองนั้นสำคัญมาก การเลิกแพมเพิสระหว่างที่หัดเข้าห้องน้ำก็สำคัญไม่แพ้กัน จะมีวิธีการใดบ้างนั้น ไปดูกันเลยค่ะ

ตั้งใจจริง

การเลิกแพมเพิสนั้นต้องอาศัยความตั้งใจจริงทั้งคุณแม่และตัวลูกเองด้วยกันทั้งคู่ ถึงแม้ว่าการใส่แพมเพิสให้ลูกจะทำให้คุณแม่สะดวกสบายมากยิ่งขึ้น แต่ก็ต้องฝึกด้วยความตั้งใจจริง ลูกจะได้เลิกแพมเพิสได้และเข้าห้องน้ำได้ด้วยตนเองค่ะ

หมั่นฝึกฝน

ลูกใส่แพมเพิสมานานจนเป็นความเคยชิน ในวันที่ใส่แพมเพิสแรกๆ นั้นกว่าจะเคยชินได้ต้องใช้เวลามากเท่าไร การที่ลูกจะลาขาดจากแพมเพิสก็ใช้เวลามากเท่านั้น คุณแม่ต้องหมั่นฝึกฝนให้ลูกไม่ใส่แพมเพิสและเข้าห้องน้ำเองได้ ขั้นตอนนี้คุณแม่จะต้องอดทนมากพอสมควรเลยทีเดียวค่ะ

ร่วมมือกันทั้งบ้าน

เมื่อคุณแม่มีความตั้งใจแน่วแน่แล้วว่าจะให้ลูกเลิกแพสเพิสอย่างเด็ดขาด จะตั้งใจแค่แม่หรือลูกไม่ได้ค่ะ จะต้องประกาศนโยบายนี้ให้คนทั้งบ้านรับรู้และปฏิบัติตาม ไม่ว่าจะเป็นคุณพ่อ คุณป้า คุณน้า คุณอา หรือคนอื่นในบ้านควรจะรับรู้ร่วมกัน จะได้ร่วมมือกันพาเจ้าตัวเล็กไปห้องน้ำแทนที่จะคอยเปลี่ยนแพมเพิสให้ค่ะ

ฝึกลูกพูด

เมื่อลูกอยู่ในวัยที่เริ่มหัดพูดได้ ลองฝึกให้ลูกพูดเมื่อปวดปัสสาวะหรืออุจจาระด้วยคำพูดง่ายๆ เช่น ปวดฉี่ ปวดอึ ปวดขี้ เป็นต้น แล้วพาลูกไปห้องนำจนเกิดความเคยชิน จะทำให้ลูกค่อยๆ ใช้แพมเพิสน้อยลงจนเลิกใช้แพมเพิสได้

ไม่ยอมแพ้

การฝึกให้ลูกไม่ใส่แพมเพิสนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย จะต้องใช้เวลาในการปรับตัวของลูก อาจจะเคยล้มเหลวกันมาบ้าง แต่คุณแม่ต้องมุ่งมั่น ตั้งใจจริง อย่ายอมแพ้ถ้าผิดพลาดก็สามารถเริ่มใหม่ได้ค่ะ

ไม่กดดัน

ไม่ว่าคุณแม่จะตั้งใจขนาดไหน ต้องระวังอย่าให้ลูกรู้สึกเครียดหรือกดดันเด็ดขาด นอกจากจะไม่ช่วยให้ลูกเลิอกแพมเพิสได้ไวขึ้นแล้ว แต่อาจทำให้ลูกกลัวการเข้าห้องน้ำไปเลยก็ว่าได้ ลองทำให้ทุกอย่างเป็นเรื่องสนุก ไม่เครียด ให้ท่องไว้ในใจเสมอว่าลูกยังเป็นเด็กตัวเล็กนิดเดียวค่ะ

หาตัวช่วย

การหาตัวช่วยหรือสิ่งล่อตาล่อใจให้ลูกน้อยใช้ห้องน้ำมากกว่าแพมเพิสนั้นก็เป็นสิ่งที่น่าสนใจอยู่มิใช่น้อย ไม่ว่าจะเป็นกระโถนสีสันสวยงาม โถฉี่ที่มีใบพัด ตัวการ์ตูนน่ารักประดับห้องน้ำ หรือสิ่งอื่นที่ดึงดูดให้ลูกอยากเข้าห้องน้ำมากขึ้น จะทำให้ลูกเลิกใส่แพมเพิสได้ไวมากยิ่งขึ้นค่ะ

รอวัยที่พร้อม

อย่างไรก็ตามแล้ว ถ้าคุณแม่รู้สึกว่าการสอนให้ลูกเข้าห้องน้ำและไม่ใช้แพมเพิสเป็นเรื่องยากเย็น อาจจะเป็นเรื่องวัยของลูกก็เป็นได้ ลองรอลูกให้โตขึ้นอีกนิดแล้วพยายามใหม่ก็เป็นหนทางที่น่าสนใจเหมือนกันค่ะ

สร้างความเคยชิน

เมื่อลูกเริ่มลองเข้าห้องน้ำแทนการใส่แพมเพิสแล้ว คุณแม่ควรสร้างความเคยชินกับลูกโดยการให้เข้าห้องน้ำซ้ำๆ จนจำได้ว่าทุกครั้งที่ปวดจะต้องเรียกให้เข้าห้องน้ำ จะสร้างนิสัยในการเข้าห้องน้ำได้ในที่สุดค่ะ

และทั้งหมดเป็นวิธีที่ทำให้ลูกนั้นเลิกใส่แพมเพิสได้ ขอให้คุณแม่เลือกใช้ให้เหมาะสมกับแต่ละสถานการณ์ เป็นกำลังใจให้คุณแม่ทุกคนนะคะ

ที่มา

Writer Profile : giftoun


  • Official Sponsors :
  • Samitivej Hospital

Generic placeholder image

บทความที่เกี่ยวข้อง



กิจกรรมของครอบครัว กิจกรรมของครอบครัว
30 พฤษภาคม 2561
ช่วงวัยของเด็ก ช่วงวัยของเด็ก
30 ตุลาคม 2560
10 อันดับหนังที่เหมาะกับเด็ก
กิจกรรมของครอบครัว
Update
Banner Banner
เมื่อคุณแม่หลายท่านเป็นกังวลกับเรื่องพัฒนาการสมองและภูมิคุ้มกันที่แตกต่างกันของลูกน้อยที่ผ่าคลอดกับเด็กคลอดธรรมชาติ กลัวว่าลูกน้อยจะมีโอกาสป่วยง่ายหรือมีพัฒนาการสมองช้ากว่าเพื่อนๆ ทำให้คุณแม่ต้องใส่ใจกับการดูแลลูกน้อยมากยิ่งขึ้น เสมือนการเร่งเสริมสร้างเกราะคุ้มกันให้ลูกน้อยเติบโตพร้อมปรับตัวกับโลกยุคใหม่ที่เต็มไปด้วยการเปลี่ยนแปลง วันนี้เราจะพาไปดูเคล็ดไม่ลับ ฉบับการดูแลพัฒนาการสมองของลูกน้อยและภูมิคุ้มกันของเด็กผ่าคลอดที่คุณแม่ไม่ควรมองข้าม ช่วยเติมเต็มในสิ่งที่ลูกผ่าคลอดต้องการได้ ไปดูกันเลย! เกราะคุ้มกันแรกที่หายไปของเด็กผ่าคลอด เด็กผ่าคลอดมักจะป่วยง่ายหรือมีปัญหาสุขภาพมากกว่าเด็กที่คลอดโดยธรรมชาติ เพราะสูญเสียโอกาสในการได้รับเชื้อจุลินทรีย์สุขภาพ ผ่านทางบริเวณช่องคลอดของคุณแม่ ทำให้เกราะคุ้มกันแรกเกิดของลูกน้อยผ่าคลอดหายไปส่งผลให้เด็กมีพัฒนาการทางระบบภูมิคุ้มกันตั้งต้นช้ากว่าเด็กที่คลอดตามธรรมชาติ บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) เป็นจุลินทรีย์ชนิดดีที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันตั้งต้น โดยเฉพาะระบบภูมิคุ้มกันในระบบทางเดินอาหาร คุณแม่จึงต้องเร่งเสริมสร้างเกราะคุ้มกันให้ลูกน้อยมีพื้นฐานที่ดีตั้งแต่เริ่มต้น เพื่อช่วยให้ลูกน้อยของเรามีมีระบบภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้น เสริมสร้างพัฒนาการด้านสมองของเด็กผ่าคลอดด้วย “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” คือสารอาหารที่พบมากในนมแม่ เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้การทำงานสมองของลูกน้อยมีประสิทธิภาพ สร้างสมองไวกว่าเดิม เชื่อมต่อเซลล์สมอง 1 แสนล้านเซล์ อัพเกรดเด็กเจนใหม่ โดยสร้างสารสื่อประสาทในสมอง และเพิ่มความเร็วการส่งสัญญาณประสาทแบบก้าวกระโดด “สฟิงโกไมอีลิน” คือ ไขมันกลุ่มฟอสโฟไลปิด พบได้มากในน้ำนมแม่ที่อุดมไปด้วยสารอาหารกว่า 200 ชนิด ซึ่ง “สฟิงโกไมอีลิน”เป็นองค์ประกอบในการสร้างปลอกไมอีลิน ซึ่งมีผลต่อการทำงานของสมองให้ส่งสัญญาณประสาทได้ไวและประมวลผลอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้เกิดการจดจำเร็ว เรียนรู้ไว สมองของเด็กผ่าคลอดและเด็กที่คลอดตามธรรมชาติ มีการสร้างไมอีลินในสมองแตกต่างกัน โดยเฉพาะที่ส่วนของสมอง ที่ทำหน้าที่เชื่อมโยงระหว่างสมองซีกซ้ายและซีกขวา คุณแม่จึงควรคำนึงถึงจุดเริ่มต้นที่แตกต่าง ของเด็กผ่าคลอดเจนใหม่ ด้วยการเตรียมสมองไวและภูมิคุ้มกันที่ดีด้วย “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” และ บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) จากนมแม่ให้ลูกน้อยยิ่งเริ่มเร็วก็ยิ่งดี เพราะพัฒนาการสมองที่ดีในวัยเด็ก ถือเป็นรากฐานสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการมองเห็น การได้ยิน หรือการเรียนรู้ภาษาสิ่งเหล่านี้ล้วนเกิดจากพัฒนาการของสมองเพราะสมองคือจุดเริ่มต้น ของทุกพัฒนาการของลูกน้อย เตรียมพร้อมเด็กผ่าคลอดให้มีสมองไวและภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้นได้ คุณแม่สามารถเติมเต็มในสิ่งที่ลูกน้อยผ่าคลอดต้องการได้ด้วยสารอาหารที่สำคัญอย่างเช่น “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” ที่ช่วยเพิ่มความเร็วในการส่งสัญญาณประสาทได้เร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น และโพรไบโอติก บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) ตัวช่วยที่ทำให้ลูกน้อยมีภูมิคุ้มกันสุขภาพที่ดี ดังนั้นคุณแม่ก็วางใจได้ หากเราเสริมสร้าง…
3 กันยายน 2568

anal porno zdarma culi nudi al mare free sex videos antalya escort

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save