fbpx

7 เทคนิคเลี้ยงลูกยังไงให้เป็นที่รักของคนอื่น

Writer : nunzmoko
: 18 กันยายน 2562

พ่อแม่ทุกคนหวังให้ลูกเป็นเด็กน่ารักและเป็นที่รักของผู้อื่น ซึ่งการปลูกฝังลักษณะนิสัยที่ดีแก่เด็กเป็นส่วนสำคัญที่จะพาให้ลูกประสบความสำเร็จ ไปดูว่าทั้ง 7 เทคนิคการสอนให้ลูกเป็นที่รักของทั้งพ่อแม่และผู้อื่นจะมีอะไรบ้างค่ะ

สอนให้ลูกเป็นผู้ฟังที่ดี

การเป็นผู้ฟังที่ดีไม่ว่าจะเป็นเด็กหรือผู้ใหญ่ก็เป็นที่รักของผู้อื่นได้ไม่ยาก โดยเริ่มจากการที่คุณพ่อคุณแม่สนใจฟังสิ่งที่ลูกกำลังสื่อสารด้วย การฟังอย่างตั้งใจ จะทำให้คุณพ่อคุณแม่รับรู้อารมณ์และความรู้สึกของลูกด้วย และสอนลูกว่าการเป็นผู้ฟังที่ดีคือการรับฟังอย่างเข้าใจและไม่ตัดสิน แสดงถึงการให้เกียรติผู้อื่น

สอนให้ลูกเข้าใจตนเองและมีความสุข

คุณพ่อคุณแม่ต้องฝึกให้ลูกรับรู้และเข้าใจอารมณ์พื้นฐานของตนเอง รู้จักควบคุมอารมณ์เมื่อต้องอยู่ร่วมกับผู้อื่น เพื่อที่ลูกจะออกไปใช้ชีวิตในสังคมได้อย่างมีความสุข โดยการฝึกให้ลูกได้เผชิญกับปัญหาและหาคำตอบด้วยตนเอง โดยมีคุณพ่อคุณแม่คอยให้คำแนะนำ ลูกจะเกิดความเข้าใจและสามารถนำไปปรับใช้ได้อย่างหมาะสมในอนาคต

สอนให้ลูกมีความรับผิดชอบ

เด็กที่มีความรับผิดชอบ รู้จักหน้าที่ของตนเองเป็นเด็กที่น่ารัก ผู้ใหญ่เห็นก็รักและเอ็นดู ฝึกให้ลูกทำกิจวัตรประจำวันเพื่อเรียนรู้เรื่องระเบียบวินัย หากหนูน้อยเผลอทำข้าวของหกเลอะเทอะ ให้เจ้าตัวน้อยมีส่วนร่วมในการเก็บและทำความสะอาด ให้ลูกรู้จักเก็บของเล่น ดูแลรักษาข้าวของของตนเอง เพื่อให้ลูกเรียนรู้ว่าสิ่งที่เขาทำส่งผลอย่างไร และเขาต้องรับผิดชอบอย่างไร

สอนให้ลูกมีน้ำใจ

การที่ลูกเป็นเด็กมีน้ำใจจะทำให้สามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีความสุข เริ่มต้นง่ายๆ อาจจะเริ่มจากการฝึกให้ลูกช่วยเหลือพ่อแม่ จากสิ่งเล็กๆ น้อยๆ ที่ลูกสามารถทำได้ เช่น ช่วยเก็บของเล่น เก็บเสื้อผ้าที่ใส่แล้ว เมื่อลูกช่วยพ่อแม่ก็ไม่ลืมชมเชย และให้กำลังใจลูก จะทำให้ลูกเกิดกำลังใจในการช่วยเหลือผู้อื่นนั่นเอง

สอนให้ลูกเคารพสิทธิของผู้อื่น

ให้คุณพ่อคุณแม่เริ่มจากการเคารพเจ้าตัวน้อยด้วยการไม่ตำหนิ ต่อว่าลูกต่อหน้าคนอื่นๆ รวมทั้งเป็นตัวอย่างที่ดีด้วยการเคารพซึ่งกันและภายในครอบครัว รับฟังและสังเกตความต้องการของลูก ลูกก็จะซึมซับและทำตามในที่สุด

สอนลูกให้เป็นคนอ่อนน้อมถ่อมตน

สอนให้ลูกเป็นที่รู้จักกาละเทศะ ให้เกียรติผู้อื่น ไม่ก้าวร้าวหรือเย่อหยิ่งจองหอง เพราะคนที่อ่อนน้อมถ่อมตนไปอยู่ในสังคมใดก็มักจะเป็นที่รักใคร่เอ็นดู ดังนั้นถ้าคุณพ่อคุณแม่สอนให้เป็นลูกเป็นคนอ่อนน้อมถ่อมตนทั้งทางกายวาจาใจอยู่เสมอเป็นสิ่งที่ดีแน่นอนค่ะ

สอนให้ลูกรู้จักขอบคุณและขอโทษ

นอกจากคำพูดที่สุภาพไพเราะแล้ว การที่เราสอนให้ลูกรู้จักกล่าวคำว่า “ขอบคุณ” และ “ขอโทษ” เป็นสิ่งที่ทำให้ลูกเป็นเด็กที่น่ารักต่อผู้อื่น โดยเริ่มจากพ่อแม่ที่ต้องเป็นตัวอย่างก่อน ฝึกพฤติกรรมเหล่านี้ให้เป็นนิสัยตั้งแต่ในบ้าน เมื่อถึงเวลาที่ลูกต้องออกไปพบเจอผู้ใหญ่หรือคนอื่นในสังคม สิ่งเหล่านี้ก็จะสร้างเสน่ห์ให้ลูกเป็นที่รักได้ไม่ยากค่ะ

วิธีสอนลูกให้เป็นเด็กที่น่ารักและเป็นที่รักของผู้อื่นไม่ใช่เรื่องยาก ถ้ามีคุณพ่อคุณแม่หรือคนเลี้ยงลูกทำเป็นตัวอย่างให้ลูกน้อยได้เห็น เด็กจะค่อยๆ เรียนรู้และนำไปใช้จนกลายเป็นนิสัยที่ดีติดตัวไปเมื่อโตขึ้นค่ะ

Writer Profile : nunzmoko

  • Blog :
  • Social Media :

  • Official Sponsors :
  • Samitivej Hospital

Generic placeholder image

บทความที่เกี่ยวข้อง



5 บทเรียนที่พ่อแม่ควรสอนลูกวัยอนุบาล
เด็กวัยเข้าโรงเรียน
Update
Banner Banner
เมื่อคุณแม่หลายท่านเป็นกังวลกับเรื่องพัฒนาการสมองและภูมิคุ้มกันที่แตกต่างกันของลูกน้อยที่ผ่าคลอดกับเด็กคลอดธรรมชาติ กลัวว่าลูกน้อยจะมีโอกาสป่วยง่ายหรือมีพัฒนาการสมองช้ากว่าเพื่อนๆ ทำให้คุณแม่ต้องใส่ใจกับการดูแลลูกน้อยมากยิ่งขึ้น เสมือนการเร่งเสริมสร้างเกราะคุ้มกันให้ลูกน้อยเติบโตพร้อมปรับตัวกับโลกยุคใหม่ที่เต็มไปด้วยการเปลี่ยนแปลง วันนี้เราจะพาไปดูเคล็ดไม่ลับ ฉบับการดูแลพัฒนาการสมองของลูกน้อยและภูมิคุ้มกันของเด็กผ่าคลอดที่คุณแม่ไม่ควรมองข้าม ช่วยเติมเต็มในสิ่งที่ลูกผ่าคลอดต้องการได้ ไปดูกันเลย! เกราะคุ้มกันแรกที่หายไปของเด็กผ่าคลอด เด็กผ่าคลอดมักจะป่วยง่ายหรือมีปัญหาสุขภาพมากกว่าเด็กที่คลอดโดยธรรมชาติ เพราะสูญเสียโอกาสในการได้รับเชื้อจุลินทรีย์สุขภาพ ผ่านทางบริเวณช่องคลอดของคุณแม่ ทำให้เกราะคุ้มกันแรกเกิดของลูกน้อยผ่าคลอดหายไปส่งผลให้เด็กมีพัฒนาการทางระบบภูมิคุ้มกันตั้งต้นช้ากว่าเด็กที่คลอดตามธรรมชาติ บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) เป็นจุลินทรีย์ชนิดดีที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันตั้งต้น โดยเฉพาะระบบภูมิคุ้มกันในระบบทางเดินอาหาร คุณแม่จึงต้องเร่งเสริมสร้างเกราะคุ้มกันให้ลูกน้อยมีพื้นฐานที่ดีตั้งแต่เริ่มต้น เพื่อช่วยให้ลูกน้อยของเรามีมีระบบภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้น เสริมสร้างพัฒนาการด้านสมองของเด็กผ่าคลอดด้วย “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” คือสารอาหารที่พบมากในนมแม่ เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้การทำงานสมองของลูกน้อยมีประสิทธิภาพ สร้างสมองไวกว่าเดิม เชื่อมต่อเซลล์สมอง 1 แสนล้านเซล์ อัพเกรดเด็กเจนใหม่ โดยสร้างสารสื่อประสาทในสมอง และเพิ่มความเร็วการส่งสัญญาณประสาทแบบก้าวกระโดด “สฟิงโกไมอีลิน” คือ ไขมันกลุ่มฟอสโฟไลปิด พบได้มากในน้ำนมแม่ที่อุดมไปด้วยสารอาหารกว่า 200 ชนิด ซึ่ง “สฟิงโกไมอีลิน”เป็นองค์ประกอบในการสร้างปลอกไมอีลิน ซึ่งมีผลต่อการทำงานของสมองให้ส่งสัญญาณประสาทได้ไวและประมวลผลอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้เกิดการจดจำเร็ว เรียนรู้ไว สมองของเด็กผ่าคลอดและเด็กที่คลอดตามธรรมชาติ มีการสร้างไมอีลินในสมองแตกต่างกัน โดยเฉพาะที่ส่วนของสมอง ที่ทำหน้าที่เชื่อมโยงระหว่างสมองซีกซ้ายและซีกขวา คุณแม่จึงควรคำนึงถึงจุดเริ่มต้นที่แตกต่าง ของเด็กผ่าคลอดเจนใหม่ ด้วยการเตรียมสมองไวและภูมิคุ้มกันที่ดีด้วย “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” และ บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) จากนมแม่ให้ลูกน้อยยิ่งเริ่มเร็วก็ยิ่งดี เพราะพัฒนาการสมองที่ดีในวัยเด็ก ถือเป็นรากฐานสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการมองเห็น การได้ยิน หรือการเรียนรู้ภาษาสิ่งเหล่านี้ล้วนเกิดจากพัฒนาการของสมองเพราะสมองคือจุดเริ่มต้น ของทุกพัฒนาการของลูกน้อย เตรียมพร้อมเด็กผ่าคลอดให้มีสมองไวและภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้นได้ คุณแม่สามารถเติมเต็มในสิ่งที่ลูกน้อยผ่าคลอดต้องการได้ด้วยสารอาหารที่สำคัญอย่างเช่น “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” ที่ช่วยเพิ่มความเร็วในการส่งสัญญาณประสาทได้เร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น และโพรไบโอติก บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) ตัวช่วยที่ทำให้ลูกน้อยมีภูมิคุ้มกันสุขภาพที่ดี ดังนั้นคุณแม่ก็วางใจได้ หากเราเสริมสร้าง…
3 กันยายน 2568

anal porno zdarma culi nudi al mare free sex videos antalya escort

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save