fbpx

ถึงเวลาที่ฝึกลูกน้อยเข้าห้องน้ำเองแล้ว

Writer : Taloei
: 31 พฤษภาคม 2565

รู้สึกไหมที่เวลาใกล้เลิกแพมเพิสแล้วมาใช้ห้องน้ำของลูกน้อยนั้นยากมาก แต่สามารถทำให้เป็นไปได้นะ แต่ต้องใช้เวลากันหน่อย คุณพ่อคุณแม่อดทนหน่อยนะคะ วันนี้ Parents One ชวนคุณพ่อคุณแม่ฝึกน้องๆ หนูๆ เข้าห้องน้ำด้วยตัวเอง ว่าควรเริ่มต้นฝึกยังไงบ้างมาดูกันเลยค่ะ

 

มั่นใจว่าเด็กพร้อม

สำหรับการฝึกเข้าห้องน้ำได้นั้น ลูกน้อยของเราต้องมีความพร้อม พร้อมในที่นี้คือสามารถสื่อสารได้ในระดับหนึ่งที่จะบอกได้ว่าอาการที่ปวดปัสสาวะนั้นเป็นอย่างไร ปวดท้องอุจจาระเป็นอย่างไร หรือมีคำสั้นๆไว้เรียก เพื่อที่เราจะได้พาเขาไปฝึกในห้องน้ำ หรือในช่วงแรกเราควรเป็นฝ่ายถามเด็กถึงการเข้าห้องน้ำ เช่น ลูกอยากเข้าห้องน้ำไหม เพื่อเปิดทางเป็นใบเชิญชวน

 

ไอเทมเสริมเพื่อฝึกเข้าห้องน้ำ

สำหรับหนูน้อยที่ตัวเล็กยังไม่สามารถนั่งชักโครกขนาดปกติไม่ได้ ต้องมีที่รองนั่งสำหรับหนูน้อยตัวเล็กด้วยนะคะ รวมไปถึงบันไดนำทางเขาให้ขึ้นชักโครกได้ด้วยนะ ทั้งนี้อาจรวมไปถึงการมีโถปัสสาวะสำหรับน้องๆ หนูด้วย อยากกให้ลูกสามารถเข้าห้องน้ำเองได้ต้องใส่ใจเขาด้วยนะ คุณพ่อคุณแม่อย่าลืม

 

ควรฝึกเป็นช่วงๆ

ลูกน้อยไม่สามารถหักดิบแล้วย้ายจากแพมเพิสหรือนั่งกระโถนมาห้องน้ำได้ทันที ดังนั้นจึงค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไป โดยเริ่มจากบางช่วงของวัน ซึ่งการฝึกแบบนี้จะทำให้เด็กรู้จักเข้าห้องน้ำเป็นเวลาและควบคุมการปัสสาวะได้ อย่างช่วงตื่นนอนตอนเข้า ตอนเที่ยง แม้แต่ตอนกลางคืน

 

อยู่เป็นเพื่อนลูกก่อน

ช่วงแรกๆ ที่เริ่มฝึกอยากให้คุณพ่อคุณแม่ไปอยู่เป็นเพื่อนเขาด้วย เพราะเขาไม่เคยอยู่ด้วยตัวคนเดียวห้องสี่เหลี่ยมเล็กๆ และทำให้เขาได้คุ้นชินกับห้องขับถ่ายมากขึ้น หลังจากที่เขาชินกับการนั่งชักโครกแล้วลองเริ่มขยับพื้นที่ของคุณพ่อคุณแม่ออกมาให้อยู่ที่หน้าห้องน้ำ หรือไม่ได้อยู่ด้วยเลย เพราะยิ่งโตเขาจะยิ่งรู้จักอายมากขึ้น คงไม่อยากมีคนมารบกวนหรือยู่ด้วยแล้ว

 

สอนด้วยความใจเย็น

การเลิกจากแพมเพิสมานั่งชักโครกได้นั้น ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เพราะปกติใช้แพมเพิสสามารถที่จะทำธุระส่วนตัวตอนไหน ตรงไหนก็ได้ แต่นี้มันมีเงื่อนไขที่มากขึ้นเมื่อเริ่มต้องเข้าห้องน้ำ คุณพ่อคุณแม่ควรสอนเขาให้เขาเข้าใจ และพยายามตอบคำถามเขาอย่างใจเย็นนะคะ ถ้าบางทีเขาไม่เข้าใจ สามารถที่จะทำเป็นตัวอย่างให้ดูได้เลยนะ รวมไปถึงการทำให้เขาเข้าใจว่าการเข้าห้องน้ำสามารถไม่ประสบความสำเร็จได้ ไม่จำเป็นต้องขับถ่ายออกในทุกครั้ง

 

มีรางวัล

สุดท้ายการประสบความสำเร็จในการเข้าห้องของลูก ย่อมต้องเป็นที่ดีใจของคุณพ่อคุณแม่อยู่แล้ว ดังนั้นเพื่อให้เกิดการกระทำที่ซ้ำขึ้นและลูกน้อยภูมิใจ ก็ควรมีรางวัลให้ ในที่นี้รวมไปถึงคำชมต่างๆ ในการเข้าห้องน้ำ 

ขอบคุณข้อมูลจาก kao 

Writer Profile : Taloei

  • Blog :
  • Social Media :

  • Official Sponsors :
  • Samitivej Hospital

Generic placeholder image

บทความที่เกี่ยวข้อง



ลูกชอบพูดแทรก จะแก้อย่างไร
ชีวิตครอบครัว
Update
Banner Banner
เมื่อคุณแม่หลายท่านเป็นกังวลกับเรื่องพัฒนาการสมองและภูมิคุ้มกันที่แตกต่างกันของลูกน้อยที่ผ่าคลอดกับเด็กคลอดธรรมชาติ กลัวว่าลูกน้อยจะมีโอกาสป่วยง่ายหรือมีพัฒนาการสมองช้ากว่าเพื่อนๆ ทำให้คุณแม่ต้องใส่ใจกับการดูแลลูกน้อยมากยิ่งขึ้น เสมือนการเร่งเสริมสร้างเกราะคุ้มกันให้ลูกน้อยเติบโตพร้อมปรับตัวกับโลกยุคใหม่ที่เต็มไปด้วยการเปลี่ยนแปลง วันนี้เราจะพาไปดูเคล็ดไม่ลับ ฉบับการดูแลพัฒนาการสมองของลูกน้อยและภูมิคุ้มกันของเด็กผ่าคลอดที่คุณแม่ไม่ควรมองข้าม ช่วยเติมเต็มในสิ่งที่ลูกผ่าคลอดต้องการได้ ไปดูกันเลย! เกราะคุ้มกันแรกที่หายไปของเด็กผ่าคลอด เด็กผ่าคลอดมักจะป่วยง่ายหรือมีปัญหาสุขภาพมากกว่าเด็กที่คลอดโดยธรรมชาติ เพราะสูญเสียโอกาสในการได้รับเชื้อจุลินทรีย์สุขภาพ ผ่านทางบริเวณช่องคลอดของคุณแม่ ทำให้เกราะคุ้มกันแรกเกิดของลูกน้อยผ่าคลอดหายไปส่งผลให้เด็กมีพัฒนาการทางระบบภูมิคุ้มกันตั้งต้นช้ากว่าเด็กที่คลอดตามธรรมชาติ บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) เป็นจุลินทรีย์ชนิดดีที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันตั้งต้น โดยเฉพาะระบบภูมิคุ้มกันในระบบทางเดินอาหาร คุณแม่จึงต้องเร่งเสริมสร้างเกราะคุ้มกันให้ลูกน้อยมีพื้นฐานที่ดีตั้งแต่เริ่มต้น เพื่อช่วยให้ลูกน้อยของเรามีมีระบบภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้น เสริมสร้างพัฒนาการด้านสมองของเด็กผ่าคลอดด้วย “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” คือสารอาหารที่พบมากในนมแม่ เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้การทำงานสมองของลูกน้อยมีประสิทธิภาพ สร้างสมองไวกว่าเดิม เชื่อมต่อเซลล์สมอง 1 แสนล้านเซล์ อัพเกรดเด็กเจนใหม่ โดยสร้างสารสื่อประสาทในสมอง และเพิ่มความเร็วการส่งสัญญาณประสาทแบบก้าวกระโดด “สฟิงโกไมอีลิน” คือ ไขมันกลุ่มฟอสโฟไลปิด พบได้มากในน้ำนมแม่ที่อุดมไปด้วยสารอาหารกว่า 200 ชนิด ซึ่ง “สฟิงโกไมอีลิน”เป็นองค์ประกอบในการสร้างปลอกไมอีลิน ซึ่งมีผลต่อการทำงานของสมองให้ส่งสัญญาณประสาทได้ไวและประมวลผลอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้เกิดการจดจำเร็ว เรียนรู้ไว สมองของเด็กผ่าคลอดและเด็กที่คลอดตามธรรมชาติ มีการสร้างไมอีลินในสมองแตกต่างกัน โดยเฉพาะที่ส่วนของสมอง ที่ทำหน้าที่เชื่อมโยงระหว่างสมองซีกซ้ายและซีกขวา คุณแม่จึงควรคำนึงถึงจุดเริ่มต้นที่แตกต่าง ของเด็กผ่าคลอดเจนใหม่ ด้วยการเตรียมสมองไวและภูมิคุ้มกันที่ดีด้วย “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” และ บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) จากนมแม่ให้ลูกน้อยยิ่งเริ่มเร็วก็ยิ่งดี เพราะพัฒนาการสมองที่ดีในวัยเด็ก ถือเป็นรากฐานสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการมองเห็น การได้ยิน หรือการเรียนรู้ภาษาสิ่งเหล่านี้ล้วนเกิดจากพัฒนาการของสมองเพราะสมองคือจุดเริ่มต้น ของทุกพัฒนาการของลูกน้อย เตรียมพร้อมเด็กผ่าคลอดให้มีสมองไวและภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้นได้ คุณแม่สามารถเติมเต็มในสิ่งที่ลูกน้อยผ่าคลอดต้องการได้ด้วยสารอาหารที่สำคัญอย่างเช่น “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” ที่ช่วยเพิ่มความเร็วในการส่งสัญญาณประสาทได้เร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น และโพรไบโอติก บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) ตัวช่วยที่ทำให้ลูกน้อยมีภูมิคุ้มกันสุขภาพที่ดี ดังนั้นคุณแม่ก็วางใจได้ หากเราเสริมสร้าง…
3 กันยายน 2568

anal porno zdarma culi nudi al mare free sex videos antalya escort

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save