fbpx

คุยกับหมอวิน "เลี้ยงลูกตามใจหมอ" กับบทบาทของการเป็นว่าที่คุณพ่อลูก 2 บนเส้นทางสายนมแม่

Writer : Lalimay
: 11 มิถุนายน 2562

“เลี้ยงลูกตามใจหมอ” เป็นเพจเกี่ยวกับแม่และเด็กที่ให้คำแนะนำในการเลี้ยงลูกด้วยภาษาเขียนที่อ่านสนุก เข้าถึงง่ายและอยู่บนหลักการแพทย์ เพราะเจ้าของเพจคือ คุณหมอวิน ผศ.นพ.วรวุฒิ เชยประเสริฐ ซึ่งเป็นคุณหมอเด็กด้านโลหิตวิทยา และมะเร็งในเด็กของโรงพยาบาลนครธน อีกทั้งยังเป็นว่าที่คุณพ่อลูกสองที่เลี้ยงลูกบนเส้นทางสายนมแม่ วันนี้เราได้มีโอกาสพูดคุยกับคุณหมอวินเกี่ยวกับเส้นทางสายนมแม่และวิธีในการช่วยดูแลลูกในแบบฉบับของคุณพ่อ เราไปดูกันเลยค่ะ

ความแตกต่างระหว่างเป็นกุมารแพทย์กับคุณพ่อ

ต้องบอกก่อนว่าจริงๆ เป็นหมอเด็กมือเก่าแต่เป็นพ่อและแม่มือใหม่ เพราะฉะนั้นการเป็นกุมารแพทย์กับพ่อแม่จึงต่างกันเยอะครับ แค่คอนเซปต์หรือเนื้อหายังเป็นความจริงทางการแพทย์ (Medical Facts) เอาง่ายๆ ก่อนผมจะมีลูกเราก็พูดความจริงทางการแพทย์ไปแล้วบางทีคุณพ่อคุณแม่ทำไม่ได้ เพราะก็จะมีความรู้สึกในใจว่าทำไมถึงทำไม่ได้ แต่พอเราเป็นพ่อเราก็พอจะรู้แล้วว่าบางอย่างมันทำยากนะ แต่สุดท้ายมันทำได้ แค่ต้องใช้เวลาและความพยายามของพ่อแม่หน่อย เพราะฉะนั้นเราก็จะเห็นอกเห็นใจคุณพ่อคุณแม่มากขึ้น รู้ใจกันมากขึ้น เวลาเราพูดแนะนำ ก็จะพูดแนะนำได้เต็มปากว่า อันนี้ทำได้ ทำแล้วดี เพราะทำมาแล้ว แล้วมันโอเค เวลาให้คำปรึกษาจึงไม่ใช่แค่จากในหนังสืออย่างเดียวแล้ว แต่จะมีประสบการณ์ที่ผ่านมา ก็จะช่วยให้คุณพ่อคุณแม่มั่นใจที่จะทำตามได้มากขึ้นครับ

คำแนะนำสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์

สำหรับผู้หญิงที่วางแผนว่าอยากจะมีลูกรวมไปถึงคุณแม่ที่กำลังท้องช่วงแรก อันดับแรกคือควรจะทานโฟลิก ซึ่งมีความจำเป็นมาก เพราะโฟลิกจะช่วยในการสร้างระบบประสาท และการปิดของระบบประสาทส่วนกลางให้เป็นไปตามปกติ ในช่วงแรกก็ต้องหลีกเลี่ยงการติดเชื้อต่างๆ โดยเฉพาะ 3 เดือนแรกที่อวัยวะทุกระบบของลูกกำลังเริ่มสร้างซึ่งเป็นช่วงที่สำคัญมากๆ ถ้าเกิดคุณแม่ไปติดไข้ออกผื่น ไปติดโรคที่อันตรายมันอาจจะส่งผลเสียต่อตัวลูกได้

อีกอันนึงก็คือการรับประทานยา ยาบางอย่างห้ามใช้ในคนท้อง ยาบางอย่างสามารถใช้ได้ถ้าจำเป็น เพราะฉะนั้นทุกครั้งที่กินยา ก็ควรต้องปรึกษาแพทย์ ที่สำคัญคือการฝากครรภ์คุณภาพ ต้องฝากตามกำหนดและทำตามที่คุณหมอสูตินารีแพทย์แนะนำ

คุณพ่อจะช่วยดูแลคุณแม่ท้องอย่างไร

ดูเรื่องสุขภาพ พาเขาไปฝากท้อง ฉีดวัคซีนสำหรับคนท้องให้เรียบร้อย และกินวิตามินบำรุงตามปกติ จริงๆ คือแค่ทำให้กินได้ นอนหลับก็พอแล้ว แล้วก็พยายามอย่าให้เครียดมาก อย่างตอนนี้ก็มีลูกอีกคนเนอะ ก็อยู่ในช่วงเกาะแข้งเกาะขาเลย เราก็พยายามแบ่งเบาภาระครับ เช่น ตอนผมกลับมาจากบ้านก็แปะมือ ภรรยาไปพัก เป็นหน้าที่เราที่ต้องเล่นกับลูก กินข้าวกับเขาตอนช่วงเย็น ก็สลับๆ กันไป

คุณแม่ท้องให้นมลูกคนโตได้ตามปกติไหม

จริงๆ สามารถให้ได้นะ แต่ก็ควรถามคุณหมอสูติฯ ครับ โดยปกติสามารถให้ได้ จนกว่านมแม่จะค่อยๆ แห้งไปเพราะปกติฮอร์โมนของคนท้องก็จะทำให้นมแม่ค่อยๆ แห้งลงตามธรรมชาติอยู่แล้ว แต่มีเหมือนกันนะที่คุณแม่บางคนสามารถให้นมแม่ได้ยาวจนถึงคลอดลูกคนต่อไปเลย

ประเด็นที่สำคัญคือ เรามีข้อห้ามในการให้นมแม่ระหว่างการตั้งท้องรึเปล่า เช่น มีภาวะแท้งคุกคาม หรือภาวะแทรกซ้อนของทางสูติฯ ซึ่งคุณแม่ก็อาจจะต้องงดให้ลมลูก

นมแม่ดีที่สุดแต่นมผงก็ไม่ใช่ยาพิษ ?

คุณแม่เกือบทุกคนสามารถให้นมลูกและทำให้การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ยั่งยืนได้ คำว่ายั่งยืนในที่นี้คืออย่างน้อย 6 เดือนและให้ยาวๆ ได้ถึง 2 ปี หรือสามารถให้ได้ยาวมากกว่านั้นควบคู่กับอาหารตามวัย โดยคุณแม่จะไม่จำเป็นต้องใช้นมผงเลยถ้าเริ่มต้นการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ เริ่มต้นเส้นทางนมแม่อย่างถูกต้อง

แต่ในกรณีที่เราไม่สามารถเลี้ยงลูกด้วยนมแม่จริงๆ เช่น คุณแม่มีข้อห้ามในการให้นมแม่ อย่างการติดเชื้อ เช่น เชื้อเอชไอวี หรือคุณแม่มีโรคประจำตัวบางอย่างที่ต้องรับประทานยา ที่อาจจะผ่านมาทางน้ำนมและเป็นอันตรายกับลูกได้ อันนั้นนมผงก็ถือเป็นตัวช่วยที่จะทำให้ลูกเติบโตตามวัยได้

เพราะฉะนั้นถ้าจะย้อนกลับมาคือ คุณแม่ก็ต้องพยายาม พยายามที่สุดที่จะเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ให้ได้ก่อน ถ้าไม่ได้จริงๆ นมผงก็เป็นตัวช่วย บางคนอาจจะบอกว่านมผงเป็นยาพิษเลย อันนั้นก็เกินไปนิดนึง เราแค่ต้องใช้นมผงอย่างถูกต้อง ในกรณีที่นมแม่มาไม่พอ จะใช้นมผงรึเปล่าก็ควรสอบถามคุณหมอที่ดูแลลูกด้วย ถ้าใช้เราก็ควรจะตั้งเป้าหมายด้วยว่าจะใช้ไปนานแค่ไหน โดยในช่วงที่ใช้ก็ต้องมีเทคนิคกระตุ้นนมแม่เพื่อให้นมแม่มาดี และสุดท้ายเราก็สามารถหยุดนมผงได้อย่างถูกต้อง และสามารถให้นมแม่ต่อได้อย่างยาวๆ

เราจะบอกคนพี่ยังไงดีว่ากำลังจะมีน้อง

เริ่มจากง่ายๆ ก่อนอย่างการชี้ที่ท้องของคุณแม่แล้วบอกว่ามีเบบี๋อยู่ในท้องนะ หนูกำลังจะเป็นพี่ชายแล้ว อย่างลูกหมอเองปกติก็จะมีตุ๊กตากระต่ายตัวใหญ่ๆ ที่เป็นเพื่อนคู่ใจ นอนก้ต้องกอด ไปไหนก็ต้องถือไป เราก็ตุ๊กตากระต่ายๆ ตัวเล็กๆ มาเป้นตัวแทนของน้อง บางทีก็หาช่วงเวลาของวันให้เขาได้ทักทายเบบี๋ในท้องบ้าง และถ้าเกิดทำได้ก็อาจพาลูกไปดูคุณแม่ฝากท้อง แล้วบอกว่าตอนนี้มาตรวจสุขภาพน้องนะ ให้คนพี่ดูการอัลตร้าซาวน์ จะได้เห็นน้องและทำให้เขารู้สึกมีส่วนร่วมในทุกขั้นตอนของการตั้งท้อง

อีกอย่างหนึ่งที่ช่วยได้ก็คือหนังสือนิทาน อย่าง น้องหนูอยู่ไหน ซึ่งมีทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษนะครับ สำหรับคุณแม่ที่กำลังจะมีน้องอีกคนหนึ่งก็สามารถไปหาซื้อได้ เพราะก็จะสอนให้เห็นเป็นภาพว่าหน้าที่ของพี่คนโตต้องทำอะไรบ้างและก็ต้องเตรียมใจอะไรบ้าง

เรื่องที่พ่อแม่รับข้อมูลมาไม่ถูกต้องเกี่ยวกับการเลี้ยงลูก

เป็นเรื่องของอาหารมื้อแรกครับ เพราะก่อนหน้านี้สัก 2-3 ปีข้อมูลจากแพทย์จริงๆ ยังเข้าไม่ถึงคุณพ่อคุณแม่ จึงอาจได้รับข้อมูลที่ไม่ถูกต้องจากในโลกโซเชียล อย่างอาหารตามวัย เช่น ต้องมีการเทสอาหารก่อน เทสกัน 3 วัน 7 วันเพื่อดูว่าลูกแพ้อะไร ทำทีละอย่างซ้ำๆๆ มีผดขึ้นเม็ดหนึ่งต้องแพ้แน่เลย หรือตารางอาหารตามวัยที่บอกว่า 6-7 เดือนยังไม่ให้กินเนื้อสัตว์ เนื้อสัตว์ควรเริ่มให้เดือนที่ 7-8 ซึ่งเป็นข้อมูลที่ผิดนะครับ โดยเฉพาะหมอเองที่เป็นหมอโรคเลือด ก็จะพบว่าเด็กที่คุณพ่อคุณแม่ที่เลี้ยงตามตารางอาหารตามวัยที่ไม่ถูกต้องก็จะซีดจากการขาดธาตุเหล็กได้สูง ซึ่งก็เป็นผลเสียกับตัวลูกเอง

ซึ่งการกินอาหารมื้อแรกที่ถูกต้องจริงๆ ก็ควรอ้างอิงจากสมุดวัคซีนหรือสมุดสีชมพูเพราะจะมีหน้าที่เกี่ยวกับอาหารตามวัยอยู่แล้ว

คุณพ่อจะช่วยดูแลลูกยังไงเมื่อรู้สึกว่าตัวเองยังไม่ดีพอ

ไม่อยากให้คิดว่าตัวเองไม่มีค่าพอ เพียงแต่คุณพ่อควรพยายามใช้เวลากับลูกให้มากที่สุด มาถึงบ้านเวลาควรจะเป็นของครอบครัว เวลาควรจะเป็นของลูก ใช้เวลาคุณภาพกับเขาให้เยอะที่สุด แล้วก็คุณพ่อหลายคนเล่นกับลูกไม่เป็น ก็ต้องฝึกนะครับ อย่างการเล่านิทาน การเล่นกับลูก การวิ่งเล่น มันก็มีศิลปะในการที่เราจะกระตุ้นพัฒนาการของลูกได้ การที่เราจะดึงตัวเองให้มีค่าในสายตาตัวเองและของลูกมากขึ้น เราก็ต้องใช้เวลากับเขาให้มาก สักพักนึงลูกจะมองเห็นครับว่าใครที่เล่นกับเขาแล้วสนุก

โดยเฉพาะถ้าลูกยังเล็กนะครับ คุณพ่อเป็นส่วนสำคัญมากเลยในการผลัดมือเพราะบางทีคุณแม่เขาเครียดนะ ต้องปั๊มนมทุก 3 ชั่วโมงหรือเข้าเต้าทุก 3 ชั่วโมง ทำให้นอนไม่เพียงพอ บางอย่าง เช่น เปลี่ยนแพมเพิส อาบน้ำ คุณพ่อก็สามารถช่วยคุณแม่ได้ เพราะฉะนั้นไม่อยากให้คิดว่าตัวเองไม่มีค่าหรือไม่ดีพอ

 

Writer Profile : Lalimay

  • Blog :

  • Official Sponsors :
  • Samitivej Hospital

Generic placeholder image

บทความที่เกี่ยวข้อง



ลูกชอบพูดแทรก จะแก้อย่างไร
ชีวิตครอบครัว
Update
ไลฟ์สไตล์ ไลฟ์สไตล์
เคยกลับบ้านมาแล้วกรี๊ดลั่นบ้านเพราะเจ้าตัวแสบไปวิ่งเล่นเลอะเทอะกันไหมคะ ? หรือแต่งตัวลูกอย่างดีไปทานข้าวนอกบ้าน แต่คุณลูกก็ทำซอสหกใส่ ไอติมหล่นไปเป็นก้อน เละทั้งตัว วันนี้ ParentsOne มีเสื้อเด็กที่เจ๋งมากๆ จาก GQ : the good day lab™ มาลองรีวิวให้ได้ชมกันค่ะ 🛒 ช้อปเลยที่ -> https://gqsize.link/bZT7Sx แกะกล่อง GQ : the good day lab™ เสื้อเด็ก ฟีเจอร์เพียบ คุณภาพ GQ ขึ้นชื่อว่า GQ ก็มั่นใจได้เรื่องคุณภาพค่ะ ผ้านุ่ม เบาบาง เหมาะกับอากาศเมืองไทย ใส่วิ่งสบายๆ ที่แปลกตาคือเป็นเสื้อที่ไม่มีป้ายแท็กค่ะ ทั้งด้านหลังคอเสื้อ หรือข้างใน ไม่ต้องห่วงว่าจะเคืองหรือคันเลย กระดุมแข็งแรงเอามากๆ ใช้แรงผู้ใหญ่ดึงแรงๆ ก็ไม่มีปัญหาเลย ไฮไลท์สำคัญที่คุณแม่แทบกรี๊ด คือเป็นไม่เปื้อนค่าาาา เทน้ำ เทนมใส่เสื้อ ไม่เปียกเลย สะบัดสองที หายปกติ ซึ่งถ้าใครเคยเห็นโฆษณา GQ ที่เสื้อเชิ้ตขาวไปทำงานคุณพ่อ โดนกาแฟหกใส่ แต่ผ้าไม่เปื้อนเลย เทคโนโลยีผ้าสะท้อนน้ำ ตอนนี้มาอยู่ในเสื้อเด็กแล้ววววว ทีมงานทดสอบเทน้ำสีผสมอาหาร นม หรือแม้แต่ซอสมะเขือเทศลงบนเสื้อ ก็ไม่เปื้อนค่ะ ไม่น่าเชื่อมากๆ ข้อดีที่สุดของผ้าแบบนี้ คือทำให้ชีวิตคุณแม่สบายขึ้นมาก พาลูกไปเที่ยว วิ่งเล่นสนามหญ้า พาไปทานก๋วยเตี๋ยว หรือให้ทานอะไร ก็ไม่ต้องกลัวเสื้อสวยๆ เลอะ แถมประหยัดเวลาซักผ้าด้วย ไม่ต้องมาคอยแช่ผ้าให้คราบมันออกแบบสมัยก่อน สำหรับเสื้อเด็ก the good day lab™…
8 ธันวาคม 2566

anal porno zdarma culi nudi al mare free sex videos antalya escort

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save