นอกจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรสโควิด-19 แล้ว คุณพ่อคุณแม่ก็ยังต้องระวังโรคประจำฤดูต่างๆ อย่างไข้หวัดด้วย เพราะถ้าเกิดว่าลูกป่วย แล้วมีอการการเรื้อรัง อาจส่งผลให้เป็นโรคปอดบวมและเสี่ยงเสียชีวิตได้
จากการเฝ้าระวังสถานการณ์โรคปอดบวม ช่วงฤดูฝนปีนี้ ทั่วประเทศพบผู้ป่วย จำนวน 24,895 ราย เสียชีวิต 22 ราย ผู้ป่วยส่วนใหญ่เป็นกลุ่มผู้สูงอายุ และเด็กอายุต่ำกว่า 5 ขวบ
นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า ขณะนี้หลายพื้นที่ฝนตกชุกต่อเนื่อง ประชาชนมีโอกาสป่วยเป็นโรคระบบทางเดินหายใจมากขึ้น โดยเฉพาะไข้หวัด ซึ่งเกิดจากเชื้อไวรัสชนิดไม่รุนแรง เป็นได้ทุกวัย พบได้บ่อยในช่วงที่สภาพอากาศเปลี่ยนแปลง
โดยทั่วไปไข้หวัดเป็นโรคติดต่อที่ไม่อันตราย เริ่มแรกมักมีอาการครั่นเนื้อครั่นตัว มีไข้ต่ำๆ ไอ มีน้ำมูก ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยตามร่างกาย อ่อนเพลีย อาการจะค่อยๆ ดีขึ้นเองหลังจากป่วยแล้วประมาณวันที่ 3 โดยไข้จะลดลง มักหายได้เองภายใน 1 สัปดาห์ อาจไอต่อไปได้อีก 1-2 สัปดาห์ แต่หากยังไม่ดีขึ้นและมีอาการอย่างใดอย่างหนึ่งต่อไปนี้คือมีไข้สูง ไอมาก หายใจหอบเร็ว น้ำมูกเปลี่ยนสีจากสีเหลืองอ่อนๆ เป็นสีเขียว ก็น่าเป็นห่วง
เพราะอาจมีโรคแทรกซ้อนที่ปอดที่สำคัญและเป็นอันตรายถึงชีวิตคือโรคปอดบวมหรือปอดอักเสบ (Pneumonia) ให้รีบไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลหรือสถานบริการธารณสุขที่อยู่ใกล้บ้านโดยเร็ว เพื่อรับการรักษาได้อย่างถูกต้องและทันท่วงที
สำหรับวิธีการป้องกันไม่ให้ลูกป่วยเป็นไข้หวัด นอกจากการดูแลตัวเองเหมือนป้องกันโควิด-19 แล้ว คุณพ่อคุณแม่ควรพยายามหากิจกรรมที่ทำให้ลูกได้ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ และให้ลูกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์โดยเฉพาะเพิ่มการกินผักและผลไม้ให้มากขึ้น ซึ่งในผักและผลไม้จะมีวิตามินซี ช่วยสร้างภูมิต้านทานโรคได้
อ้างอิงจาก
https://ddc.moph.go.th/brc/news.php?news=20614&deptcode=brc