fbpx

สังเกตให้ดี! สัญญาณที่บอกว่าลูกเรามีปัญหาในการอ่าน สำหรับเด็กวัย 3-9 ขวบ

Writer : Mneeose
: 24 สิงหาคม 2561

ฟัง พูด อ่าน เขียนเป็นทักษะที่เด็กทุกคนจำเป็นต้องเรียนรู้และหมั่นฝึกฝนให้ชำนาญ เพื่อให้ลูกหัดโต้ตอบ รวมทั้งเข้าใจการสื่อสารกับผู้อื่น ดังนั้น หากลูกมีปัญหาในทักษะด้านใดด้านหนึ่ง คุณพ่อคุณแม่ต้องรีบแก้ปัญหาในจุดนั้นๆ ให้เร็วที่สุด เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบกับลูกรักในระยะเวลาที่นานเกินไป จนยากที่จะแก้ไข

จุดสังเกต! สัญญาณอาการที่ลูกมีปัญหาในทักษะด้านการอ่าน

เด็กวัย 3 – 4 ขวบ

  • ลูกจำตัวอักษรได้น้อยกว่า 10 ตัว   :  ลูกไม่สามารถแยกแยะความแตกต่างของตัวอักษรได้
  • ลูกไม่กล้าอ่านออกเสียง  :  ลูกเกิดความกลัวในการอ่านหนังสือแบบออกเสียง และกลัวการอ่านผิดมากๆ ทำให้เด็กไม่กล้า และไม่อยากอ่านหนังสือออกเสียง
  • ลูกพูดน้อย หรือไม่อยากพูด  :  ลูกไม่อยากออกเสียง หรือพูดกับใคร ไม่แสดงความสนใจที่จะอยากเรียนรู้ด้านภาษา

 

เด็กวัย 4 – 5 ขวบ

  • ลูกไม่สามารถแยกเสียงของแต่ละคนได้  :  ไม่สามารถจดจำ หรือแยกแยะเสียงสูงต่ำ ของคนที่คุยด้วยได้
  • ลูกจำชื่อตัวอักษรเป็นเวลานาน  :  ต้องใช้เวลานานกว่าลูกจะเรียนรู้ในการจดจำตัวอักษรได้ทั้งหมด
  • ลูกแบ่งคำพยางค์ไม่เป็น  :  ลูกไม่สามารถสร้างคำ และประโยคที่สมบูรณ์ได้ 
  • คุณพ่อคุณแม่ควรหมั่นคุยกับลูกบ่อยๆ  :  เพื่อสังเกตพัฒนาการ รวมทั้งปัญหาด้านการเรียนรู้ของลูกอย่างใกล้ชิด

 

เด็กวัย 5 – 5.5 ขวบ

  • ลูกไม่สามารถพูด หรือสร้างคำที่เรียบง่ายได้   :  บางครั้งลูกเลือกใช้คำพูดยากๆ ในการสร้างประโยค อาจทำให้สื่อความหมายในทางที่ผิดได้ และมักจะเข้าใจผิดอยู่บ่อยๆ
  • ลูกไม่สามารถแยกความแตกต่างระหว่างตัวพิมพ์ใหญ่และตัวพิมพ์เล็ก  :  สับสนในตัวอักษรภาษาอังกฤษ จนบางครั้งลูกอาจใช้สลับกัน

 

เด็กวัย 5.5 – 6 ขวบ

  • ลูกไม่สามารถบอกถึงเสียงแรกของคำที่พูดออกมาได้  :  ลูกมีปัญหาในการแยกแยะเสียงที่ถูกเปล่งออกมา แยกความแตกต่างของเสียงไม่ได้ ยิ่งทำให้ไม่เข้าใจความหมาย
  • ลูกออกเสียงคำไม่ตรงกับตัวอักษร  :  ส่วนใหญ่มีปัญหาในการออกเสียงตัวอักษรที่ไม่ถูกต้อง ทำให้ความหมายเปลี่ยนแปลงไป หรือคำที่พูดออกมานั้นอาจไม่มีความหมาย
  • ลูกต้องใช้ความพยายามมาก เพื่อสะกดชื่อสมาชิกในครอบครัว และสัตว์เลี้ยง  :  ใช้เวลานานในการจำและสะกดชื่อ บางครั้งลูกก็สะกดชื่อผิด

 

เด็กวัย 6 – 7 ขวบ

  • ลูกพยายามอ่านออกเสียงให้ตรงกับตัวอักษร  :  เด็กวัยนี้มักชอบการอ่านออกเสียง ซึ่งเป็นเรื่องที่ดีในพัฒนาการด้านการอ่าน  ลูกจะค่อยๆสะกดคำ ทีละคำ เพื่อให้ออกเสียงตรงกับตัวอักษร
  • ลูกไม่สามารถบอกว่าตัวเองอ่านคำไหนผิด  :  เมื่อลูกอ่านหนังสือ 1 ประโยค แล้วอ่านคำใดคำหนึ่งผิด พวกเขาจะไม่รู้ว่าจุดที่อ่านผิดคือจุดไหน
  • ลูกไม่เข้าใจความหมายของคำที่อ่านออกเสียงไป  :  การที่ลูกอ่านหนังสือออกเป็นเรื่องดี แต่ถ้าลูกไม่เข้าใจความหมายของตัวอักษรนั้นว่าต้องการสื่ออะไรก็ไม่มีประโยชน์เช่นกัน

 

เด็กวัย 7 – 8 ขวบ

  • ลูกพยายามอ่านออกเสียงให้ได้อย่างราบรื่น  :  เด็กจะมีความมุ่งมั่นตั้งใจในการอ่านมาก โดยจะพยายามอ่านทุกคำให้ถูกต้องและไม่ตะกุกตะกัก
  • ลูกไม่สามารถออกเสียงคำให้ถูกต้องทีละพยางค์ได้  :  ลูกไม่สามารถออกเสียงคำในประโยคให้ถูกต้องทั้งประโยค
  • เป็นวัยที่หลีกเลี่ยงการอ่านออกเสียงออกมาดัง ๆ  :  เด็กวัยนี้มักชอบการอ่านในใจ และไม่ชอบอ่านออกเสียงดังๆในที่สาธารณะ เพราะพวกเขาจะรู้สึกอายเมื่ออ่านผิด

 

เด็กวัย 8 – 9 ขวบ

  • ลูกพยายามแสดงความคิดหลักของตนเอง  :  เด็กวัยนี้ส่วนใหญ่จะมีความคิดเป็นของตัวเอง และพยายามแสดงมันออกมาในกลุ่มเพื่อน
  • ลูกมักสะกดคำที่เคยเรียนไปแล้วผิด  :  ลูกได้เรียนรู้คำต่างๆเพิ่มมากขึ้น รวมทั้งคำที่สะกดยากๆ จึงอาจสับสนกับคำที่มีอยู่ก่อนแล้ว ทำให้ลูกมักชอบสะกดคำผิดบ่อยๆ
  • ลูกมักจะหลีกเลี่ยงการอ่านข้อความที่ยาวขึ้น  :  ลูกไม่ชอบอ่านประโยคที่มีความยาวมากๆ เช่น ความเรียง , นิยาย  เป็นต้น

ปัจจัยข้างต้นที่กล่าวมาทั้งหมด หากคุณพ่อคุณแม่สังเกตเห็นพฤติกรรมของลูก 2 อย่าง หรือมากกว่านั้น  แสดงว่า มันคือการเริ่มต้นของสัญญาณที่บอกว่าลูกของคุณเข้าข่ายมีปัญหาด้านการอ่านหนังสือ

 

4 วิธีแก้ปัญหา เมื่อลูกเข้าข่ายมีปัญหาด้านการอ่านหนังสือ

    1. พาลูกไปพบแพทย์เฉพาะทาง

ทางแก้ปัญหาที่ดีที่สุด คือ การปรึกษาแพทย์กุมารเวชศาสตร์ ด้านพัฒนาการของเด็ก  คุณหมอจะวิเคราะห์ และประเมินศักยภาพในการอ่านของเด็กๆ เพื่อหาจุดที่บกพร่อง จากนั้นจึงทำการแก้ปัญหาได้อย่างตรงจุด  ผู้เชี่ยวชาญด้านการรับรู้เฉพาะทางด้านการอ่านหนังสือ  , นักจิตวิทยาและนักบำบัดทุกคนได้ร่วมมือกันเพื่อหาสาเหตุของปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้นกับพัฒนาการในการเรียนรู้ของเด็ก  เช่น  ลูกเป็นโรคดิสเล็กเซีย (Dyslexia) หรือโรคความบกพร่องทางทักษะการเรียนรู้

ดังนั้น การระบุสาเหตุหลักของปัญหาในการอ่านของเด็ก ๆ จะช่วยให้คุณหมอสามารถหาวิธีการรักษาที่ตรงจุด และมีความเหมาะสมกับเด็กวัยต่างๆ นั่นเอง

    2. ทำทุกที่ให้เหมาะแก่การเรียนรู้ของเด็ก

ผู้เชี่ยวชาญด้านการอ่านได้ให้คำแนะนำแก่พ่อแม่ในการสร้างสภาพแวดล้อมให้เเหมาะแก่การเรียนรู้สำหรับเด็กอยู่เสมอ ทั้งที่บ้านและที่โรงเรียน  เพื่อให้เด็กได้คุ้นเคยกับสถานที่  ทำให้กล้าแสดงออกได้เต็มที่มากขึ้น

    3. อ่านออกเสียงให้ลูกฟังอยู่เสมอ

คุณพ่อคุณแม่ควรอ่านหนังสือออกเสียงให้เด็ก ๆ ฟังอย่างสม่ำเสมอ และต้องทำให้การอ่านสนุกและลูกได้มีส่วนร่วมในกิจกรรมที่ทำร่วมกันนั้น  เช่น การเล่านิทาาน และสวมบทบาทสมมุติเป็นตัวละคร การเล่นกับลูกบ่อยๆ จะช่วยให้ลูกมีจินตนาการและพัฒนาศักยภาพของลูกได้ด้วยนะคะคุณพ่อคุณแม่

    4. ทำให้ลูกรู้สึกสนุก เมื่อได้อ่านหนังสือ

คุณพ่อคุณแม่ควรหมั่นซื้อหนังสือที่มีเนื้อหาดี อ่านสนุก ภาพสวยเสริมจินตนาการ ซื้อเก็บไว้ให้ลูกได้อ่าน  รวมทั้งการทำให้ลูกรู้สึกว่าได้มีส่วนร่วม และสามารถโต้ตอบกับคุณได้  รวมทั้งควรไม่ไปรบกวนการอ่านของลูกมากเกินไปนัก ควรให้ลูกได้มีพื้นที่ (space) ได้ใช้เวลาอยู่กับตัวเองบ้างในบางคราว

ข้อมูลจาก

The Signs Your Child Has a Reading Problem (3 to 9 Years Old)

Writer Profile : Mneeose

💙💙💙

  • Blog :
  • Social Media :

  • Official Sponsors :
  • Samitivej Hospital

Generic placeholder image

บทความที่เกี่ยวข้อง



ทำอย่างไรเมื่อลูกแย่งของเล่นกัน
เด็กวัยเข้าโรงเรียน
เด็กวัยเข้าโรงเรียน เด็กวัยเข้าโรงเรียน
18 กุมภาพันธ์ 2562
ทำอย่างไรเมื่อลูกรัก “ติดจอ”
ชีวิตครอบครัว
Update
ไลฟ์สไตล์ ไลฟ์สไตล์
เคยกลับบ้านมาแล้วกรี๊ดลั่นบ้านเพราะเจ้าตัวแสบไปวิ่งเล่นเลอะเทอะกันไหมคะ ? หรือแต่งตัวลูกอย่างดีไปทานข้าวนอกบ้าน แต่คุณลูกก็ทำซอสหกใส่ ไอติมหล่นไปเป็นก้อน เละทั้งตัว วันนี้ ParentsOne มีเสื้อเด็กที่เจ๋งมากๆ จาก GQ : the good day lab™ มาลองรีวิวให้ได้ชมกันค่ะ 🛒 ช้อปเลยที่ -> https://gqsize.link/bZT7Sx แกะกล่อง GQ : the good day lab™ เสื้อเด็ก ฟีเจอร์เพียบ คุณภาพ GQ ขึ้นชื่อว่า GQ ก็มั่นใจได้เรื่องคุณภาพค่ะ ผ้านุ่ม เบาบาง เหมาะกับอากาศเมืองไทย ใส่วิ่งสบายๆ ที่แปลกตาคือเป็นเสื้อที่ไม่มีป้ายแท็กค่ะ ทั้งด้านหลังคอเสื้อ หรือข้างใน ไม่ต้องห่วงว่าจะเคืองหรือคันเลย กระดุมแข็งแรงเอามากๆ ใช้แรงผู้ใหญ่ดึงแรงๆ ก็ไม่มีปัญหาเลย ไฮไลท์สำคัญที่คุณแม่แทบกรี๊ด คือเป็นไม่เปื้อนค่าาาา เทน้ำ เทนมใส่เสื้อ ไม่เปียกเลย สะบัดสองที หายปกติ ซึ่งถ้าใครเคยเห็นโฆษณา GQ ที่เสื้อเชิ้ตขาวไปทำงานคุณพ่อ โดนกาแฟหกใส่ แต่ผ้าไม่เปื้อนเลย เทคโนโลยีผ้าสะท้อนน้ำ ตอนนี้มาอยู่ในเสื้อเด็กแล้ววววว ทีมงานทดสอบเทน้ำสีผสมอาหาร นม หรือแม้แต่ซอสมะเขือเทศลงบนเสื้อ ก็ไม่เปื้อนค่ะ ไม่น่าเชื่อมากๆ ข้อดีที่สุดของผ้าแบบนี้ คือทำให้ชีวิตคุณแม่สบายขึ้นมาก พาลูกไปเที่ยว วิ่งเล่นสนามหญ้า พาไปทานก๋วยเตี๋ยว หรือให้ทานอะไร ก็ไม่ต้องกลัวเสื้อสวยๆ เลอะ แถมประหยัดเวลาซักผ้าด้วย ไม่ต้องมาคอยแช่ผ้าให้คราบมันออกแบบสมัยก่อน สำหรับเสื้อเด็ก the good day lab™…
8 ธันวาคม 2566

anal porno zdarma culi nudi al mare free sex videos antalya escort

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save