fbpx

ทำความเข้าใจ ทำไมลูก “พูดไม่หยุด” พ่อแม่ควรรับมือยังไง

Writer : Lalimay
: 17 พฤษภาคม 2564

“ทำยังไงดีลูกพูดไม่หยุดเลย พูดทั้งวัน พูดเก่งมาก พูดเป็นต่อยหอย” หลายๆ ครอบครัวอาจกำลังอยู่ในสถานการณ์แบบนี้ใช่ไหมคะ สถานการณ์ที่มีเสียงเจื้อยแจ้ววนเวียนอยู่รอบหูตลอดเวลา และช่วงที่เงียบสงบที่สุดก็คือตอนนอนหลับ บอกเลยค่ะว่าคุณไม่ได้กำลังเจอเด็กพูดมากอยู่คนเดียว วันนี้เราเลยจะพามาหาเหตุผลว่าทำไมลูกถึงพูดมากซะเหลือเกิน แล้วพ่อแม่อย่างเราจะมีวิธีรับมือยังไง ตามมาดูกันได้เลยค่า

ทำไมลูกถึงพูดมาก

สาเหตุที่ลูกพูดมาก เป็นเพราะพัฒนาการทางด้านภาษาของลูกกำลังพัฒนา ซึ่งเด็กแต่ละวัยก็มีการพัฒนาที่แตกต่างกันค่ะ

  • 1.5 ขวบ ชอบเรียกเรียกสิ่งอื่นด้วยคำที่ตัวเองจำได้ซ้ำๆ : คุณพ่อคุณแม่หลายคนอาจเคยโดนลูกเรียกว่า “หมา” กันใช่ไหมล่ะคะ นั่นเป็นเพราะเด็กวัยนี้ยังจำคำศัพท์ต่างๆ ได้ไม่มาก เขามักจะเรียกสิ่งที่เห็นด้วยคำศัพท์ที่จำได้ค่ะ
  • 2 ขวบ นักปฏิเสธ ชอบพูดว่าไม่ !! : วัยทองสองขวบ เป็นช่วงเวลาของการปฏิเสธค่ะ เด็กวัยนี้พอที่จะมีความคิดเป็นของตัวเองบ้างแล้ว จึงชอบพูดว่าไม่ เวลาที่เราให้เขาทำอะไรนั่นเองค่ะ
  • 3 ขวบ ชอบเล่าเรื่องซ้ำๆ และถามเก่ง : เด็กวัยนี้จะเริ่มพูดได้ยาวและชัดเจนขึ้น สิ่งที่เขาเคยดูและจดจำได้ก็จะเอามาเล่าวนในช่วงนี้แหละค่ะ ที่สำคัญคือถามเก่งมากกก เป็นเจ้าหนูจำไมสุดๆ
  • 4 ขวบ พูดอวดความสามารถของตัวเอง : 4 ขวบ เป็นวัยที่พูดเป็นประโยคได้อย่างสมบูรณ์ พูดมาก และชอบพูดอวดว่าตัวเองทำอะไรได้ เช่น แปรงฟันเก่งแล้ว กินข้าวเก่งแล้ว

พูดมากดียังไง

ถึงแม้ว่าการที่ลูกพูดมาก อาจทำให้พ่อแม่อย่างเรารู้สึกเหนื่อยใจนิดหน่อย แต่การพูดมากของลูกก็มีประโยชน์ไม่ใช่น้อยเลยนะคะ

  • ทำให้สื่อสารได้ดีในอนาคต : เพราะในช่วงวัยเด็กเขาได้ฝึกฝนด้านการสื่อสารมาโดยตลอด อาจพูดไม่รู้เรื่องบ้างแต่นั่นก็คือเป็นพัฒนาการตามวัยที่ได้ฝึกพูดอยู่บ่อยๆ ค่ะ
  • ทำให้เป็นเด็กกล้าพูด กล้าคิด : เมื่อลูกพูดมากแล้วเราส่งเสริมให้เขาพูดอย่างถูกวิธีก็จะช่วยให้เขารู้สึกมั่นใจที่จะคิดหรือพูดอะไรบางอย่าง เพราะเขาเชื่อว่าพ่อแม่จะรับฟังเขาเสมอ
  • มีทักษะการเข้าสังคมที่ดีกว่า : เด็กพูดเก่งมักจะชอบชวนคนนั้นคนนี้คุยไปเรื่อย จึงทำให้มีเพื่อนใหม่อยู่ตลอด หากสังเกตก็จะเห็นว่าเด็กที่พูดเก่งจะเข้ากับเพื่อนๆ ได้เร็วกว่าด้วยค่ะ
  • ทำให้เป็นเด็กใฝ่รู้ : เด็กพูดเยอะจะเป็นเด็กที่ช่างสงสัย และถามเก่ง ส่งผลให้เขาเป็นเด็กใฝ่รู้ อยากที่จะเรียนรู้เรื่องใหม่ๆ ตลอดเวลา

แต่เด็กพูดมากก็มีเรื่องที่ต้องระวังอยู่เหมือนกันค่ะ นั่นคือลูกอาจไม่ฟังคนอื่น ไม่เปิดโอกาสให้คนอื่นได้พูดบ้าง เพราะมัวแต่พูดอยู่ฝ่ายเดียว เรื่องนี้คุณพ่อแม่ก็ควรใส่ใจเป็นพิเศษนะคะ

วิธีรับมือที่ถูกต้อง

  • อย่าโมโหและหงุดหงิดลูก : ลูกกำลังอยู่ในช่วงที่พูดได้ ก็อยากจะลองวิชาการพูด เลยพูดมากเป็นพิเศษ แต่ถ้าเขาโตขึ้นเมื่อไหร่ บางทีก็อาจพูดน้อยลงจนทำให้เราอยากได้ยินเสียงเขาก็ได้นะคะ
  • อย่าขัดสิ่งที่ลูกกำลังพูด : เวลาที่ลูกกำลังเล่าอะไรก็ตาม การที่เราไปพูดขัดเขาจะทำให้ลูกลูกขัดจังหวะ และรู้สึกว่าสิ่งที่เขาเล่าไม่ได้มีความสำคัญ
  • ตั้งใจฟังในสิ่งที่ลูกเล่า (แม้ว่าจะฟังเรื่องนั้นเป็นรอบที่ล้าน) : การตั้งใจฟังเป็นเรื่องที่ซ้ำคัญมากๆ ค่ะ ให้เรานั่งในระดับเดียวกันกับลูก มองไปที่ตาของเขา ตั้งใจและสนใจในสิ่งที่เขากำลังเล่าไม่ว่าเรื่องนั้นจะธรรมดาแค่ไหนก็ตาม
  • ถามลูกกลับบ้าง : นอกจากฟังอย่างเดียวเราก็ควรมีการโต้ตอบกับลูกด้วย โยนคำถามไปให้เขาตอบ ในบ้างครั้งที่ลูกเล่าเรื่องอะไรซ้ำๆ พอลูกพูดจบก็อาจโยนคำถามเบี่ยงประเด็น ก็จะทำให้เราไม่ต้องฟังเรื่องซ้ำก็ได้ค่ะ

และข้อแนะนำสำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่ทนไม่ไหวแล้วจริงๆ คือให้ชวนลูกเล่นเกมค่ะ นั่นคือ “เกมแข่งกันเงียบ” ใครเงียบได้นานกว่าก็ชนะไปเลย หรือ “เกมซ่อนตาดำ” ก็ได้ผลลัพธ์ที่ดีไม่แพ้กันเลยค่ะ รับรองสบายหูไปสักระยะแน่นอน

ข้อมูลอ้างอิงจาก

Writer Profile : Lalimay

  • Blog :

  • Official Sponsors :
  • Samitivej Hospital

Generic placeholder image

บทความที่เกี่ยวข้อง



Update
Banner Banner
เมื่อคุณแม่หลายท่านเป็นกังวลกับเรื่องพัฒนาการสมองและภูมิคุ้มกันที่แตกต่างกันของลูกน้อยที่ผ่าคลอดกับเด็กคลอดธรรมชาติ กลัวว่าลูกน้อยจะมีโอกาสป่วยง่ายหรือมีพัฒนาการสมองช้ากว่าเพื่อนๆ ทำให้คุณแม่ต้องใส่ใจกับการดูแลลูกน้อยมากยิ่งขึ้น เสมือนการเร่งเสริมสร้างเกราะคุ้มกันให้ลูกน้อยเติบโตพร้อมปรับตัวกับโลกยุคใหม่ที่เต็มไปด้วยการเปลี่ยนแปลง วันนี้เราจะพาไปดูเคล็ดไม่ลับ ฉบับการดูแลพัฒนาการสมองของลูกน้อยและภูมิคุ้มกันของเด็กผ่าคลอดที่คุณแม่ไม่ควรมองข้าม ช่วยเติมเต็มในสิ่งที่ลูกผ่าคลอดต้องการได้ ไปดูกันเลย! เกราะคุ้มกันแรกที่หายไปของเด็กผ่าคลอด เด็กผ่าคลอดมักจะป่วยง่ายหรือมีปัญหาสุขภาพมากกว่าเด็กที่คลอดโดยธรรมชาติ เพราะสูญเสียโอกาสในการได้รับเชื้อจุลินทรีย์สุขภาพ ผ่านทางบริเวณช่องคลอดของคุณแม่ ทำให้เกราะคุ้มกันแรกเกิดของลูกน้อยผ่าคลอดหายไปส่งผลให้เด็กมีพัฒนาการทางระบบภูมิคุ้มกันตั้งต้นช้ากว่าเด็กที่คลอดตามธรรมชาติ บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) เป็นจุลินทรีย์ชนิดดีที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันตั้งต้น โดยเฉพาะระบบภูมิคุ้มกันในระบบทางเดินอาหาร คุณแม่จึงต้องเร่งเสริมสร้างเกราะคุ้มกันให้ลูกน้อยมีพื้นฐานที่ดีตั้งแต่เริ่มต้น เพื่อช่วยให้ลูกน้อยของเรามีมีระบบภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้น เสริมสร้างพัฒนาการด้านสมองของเด็กผ่าคลอดด้วย “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” คือสารอาหารที่พบมากในนมแม่ เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้การทำงานสมองของลูกน้อยมีประสิทธิภาพ สร้างสมองไวกว่าเดิม เชื่อมต่อเซลล์สมอง 1 แสนล้านเซล์ อัพเกรดเด็กเจนใหม่ โดยสร้างสารสื่อประสาทในสมอง และเพิ่มความเร็วการส่งสัญญาณประสาทแบบก้าวกระโดด “สฟิงโกไมอีลิน” คือ ไขมันกลุ่มฟอสโฟไลปิด พบได้มากในน้ำนมแม่ที่อุดมไปด้วยสารอาหารกว่า 200 ชนิด ซึ่ง “สฟิงโกไมอีลิน”เป็นองค์ประกอบในการสร้างปลอกไมอีลิน ซึ่งมีผลต่อการทำงานของสมองให้ส่งสัญญาณประสาทได้ไวและประมวลผลอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้เกิดการจดจำเร็ว เรียนรู้ไว สมองของเด็กผ่าคลอดและเด็กที่คลอดตามธรรมชาติ มีการสร้างไมอีลินในสมองแตกต่างกัน โดยเฉพาะที่ส่วนของสมอง ที่ทำหน้าที่เชื่อมโยงระหว่างสมองซีกซ้ายและซีกขวา คุณแม่จึงควรคำนึงถึงจุดเริ่มต้นที่แตกต่าง ของเด็กผ่าคลอดเจนใหม่ ด้วยการเตรียมสมองไวและภูมิคุ้มกันที่ดีด้วย “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” และ บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) จากนมแม่ให้ลูกน้อยยิ่งเริ่มเร็วก็ยิ่งดี เพราะพัฒนาการสมองที่ดีในวัยเด็ก ถือเป็นรากฐานสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการมองเห็น การได้ยิน หรือการเรียนรู้ภาษาสิ่งเหล่านี้ล้วนเกิดจากพัฒนาการของสมองเพราะสมองคือจุดเริ่มต้น ของทุกพัฒนาการของลูกน้อย เตรียมพร้อมเด็กผ่าคลอดให้มีสมองไวและภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้นได้ คุณแม่สามารถเติมเต็มในสิ่งที่ลูกน้อยผ่าคลอดต้องการได้ด้วยสารอาหารที่สำคัญอย่างเช่น “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” ที่ช่วยเพิ่มความเร็วในการส่งสัญญาณประสาทได้เร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น และโพรไบโอติก บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) ตัวช่วยที่ทำให้ลูกน้อยมีภูมิคุ้มกันสุขภาพที่ดี ดังนั้นคุณแม่ก็วางใจได้ หากเราเสริมสร้าง…
3 กันยายน 2568

anal porno zdarma culi nudi al mare free sex videos antalya escort

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save