fbpx

ลาแล้วน้ำยาปรับผ้านุ่ม มาใช้น้ำส้มสายชูกันเถอะ!

: 4 พฤศจิกายน 2565

ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของสิ่งแวดล้อม หรือต้องการลดค่าใช้จ่ายในการซื้อของ หลายบ้านก็เริ่มนำน้ำส้มสายชูมาเป็นส่วนหนึ่งในการทำความสะอาดบ้าน ด้วยฤทธิ์กรดของน้ำส้มสายชู (Acetc acid) ที่สามารถขจัดคราบสกปรกและน้ำมันได้ แรงพอที่จะฆ่าแบคทีเรีย และนอกจากจะเป็นตัวเลือกที่รักษ์โลกแล้ว ยังมีราคาถูกกว่าน้ำยาทำความสะอาดทั่วไปอีกด้วยค่ะ

แต่รู้รึเปล่า ว่าน้ำส้มสายชูยังใช้แทนน้ำยาปรับผ้านุ่มได้ด้วยนะ! ด้วยฤทธิ์กรดอ่อน ๆ ดังกล่าวที่ช่วยขจัดคราบและสิ่งสกปรกนี่แหละ ที่ช่วยขจัดคราบอัลคาไลน์จากสบู่ ทำให้ผ้าของเรานุ่มขึ้นนั่นเองค่ะ นอกจากนี้แล้วยังช่วยขจัดกลิ่นอับชื้น ทำให้ผ้าของเราสะอาด ไร้กลิ่นอับให้ระคายใจ

สำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่ปวดหัวกับการล้างถังเครื่องซักผ้า การใช้น้ำส้มสายชูแทนน้ำยาปรับผ้านุ่มนั้นไม่ทิ้งคราบสบู่บนถังซักผ้า ทำให้การทำความสะอาดเครื่องซักผ้าเป็นเรื่องง่าย ๆ ไปเลยค่ะ

วิธีใช้น้ำส้มสายชูแทนน้ำยาปรับผ้านุ่ม

  • ใส่น้ำส้มสายชูกลั่นปริมาณ 1/2 ถ้วยลงในช่องใส่น้ำยาปรับผ้านุ่ม
  • หากเครื่องซักผ้าไม่มีช่องใส่น้ำยาปรับผ้านุ่ม ผสมน้ำส้มสายชู 1/2 ถ้วยกับน้ำสะอาด 1 ถ้วย แล้วเทลงใส่ถังซักผ้าเลยค่ะ

หากกังวลเรื่องกลิ่นเปรี้ยวของน้ำส้มสายชู คุณพ่อคุณแม่สามารถเพิ่มกลิ่นหอมให้ได้หลากวิธี ดังนี้ค่ะ:

  • ใส่เปลือกส้ม / มะกรูด / มะนาวลงไปแช่ในน้ำส้มสายชูกลั่น บ่มไว้อย่างน้อย 1 อาทิตย์ แล้วกรองใส่ขวดสะอาด หรือตักใช้แต่ส่วนของน้ำส้มสายชูค่ะ 
  • หยดน้ำมันหอมระเหย (แนะนำกลิ่นลาเวนเดอร์) 1 หยดใส่ขวดน้ำส้มสายชูกลั่น แต่หากใช้น้ำมันหอมระเหย คุณพ่อคุณแม่พึงระวังห้ามใช้ในปริมาณมาก เพราะจะทำให้ผิวของลูกน้อยระคายเคืองได้ค่ะ

เท่านี้ก็ได้น้ำยาปรับผ้านุ่มที่มีราคาถูกและปลอดภัยต่อผิวหนังของลูกน้อยแล้วค่ะ แต่นอกจากจะทำให้ผ้านุ่มแล้ว น้ำส้มสายชูยังมีบทบาทในการซักผ้าอีกมากเลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็น

  • ลดกลิ่นอับจากเชื้อราและกลิ่นกาย
  • ทำให้ผ้าสีสดใส และผ้าขาวสว่าง
  • ขจัดคราบฝังลึก
  • ทำความสะอาดเสื้อผ้าบอบบาง

Writer Profile : phanthirapuyou

  • Blog :
  • Social Media :

  • Official Sponsors :
  • Samitivej Hospital

Generic placeholder image

บทความที่เกี่ยวข้อง



Update
Banner Banner
เมื่อคุณแม่หลายท่านเป็นกังวลกับเรื่องพัฒนาการสมองและภูมิคุ้มกันที่แตกต่างกันของลูกน้อยที่ผ่าคลอดกับเด็กคลอดธรรมชาติ กลัวว่าลูกน้อยจะมีโอกาสป่วยง่ายหรือมีพัฒนาการสมองช้ากว่าเพื่อนๆ ทำให้คุณแม่ต้องใส่ใจกับการดูแลลูกน้อยมากยิ่งขึ้น เสมือนการเร่งเสริมสร้างเกราะคุ้มกันให้ลูกน้อยเติบโตพร้อมปรับตัวกับโลกยุคใหม่ที่เต็มไปด้วยการเปลี่ยนแปลง วันนี้เราจะพาไปดูเคล็ดไม่ลับ ฉบับการดูแลพัฒนาการสมองของลูกน้อยและภูมิคุ้มกันของเด็กผ่าคลอดที่คุณแม่ไม่ควรมองข้าม ช่วยเติมเต็มในสิ่งที่ลูกผ่าคลอดต้องการได้ ไปดูกันเลย! เกราะคุ้มกันแรกที่หายไปของเด็กผ่าคลอด เด็กผ่าคลอดมักจะป่วยง่ายหรือมีปัญหาสุขภาพมากกว่าเด็กที่คลอดโดยธรรมชาติ เพราะสูญเสียโอกาสในการได้รับเชื้อจุลินทรีย์สุขภาพ ผ่านทางบริเวณช่องคลอดของคุณแม่ ทำให้เกราะคุ้มกันแรกเกิดของลูกน้อยผ่าคลอดหายไปส่งผลให้เด็กมีพัฒนาการทางระบบภูมิคุ้มกันตั้งต้นช้ากว่าเด็กที่คลอดตามธรรมชาติ บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) เป็นจุลินทรีย์ชนิดดีที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันตั้งต้น โดยเฉพาะระบบภูมิคุ้มกันในระบบทางเดินอาหาร คุณแม่จึงต้องเร่งเสริมสร้างเกราะคุ้มกันให้ลูกน้อยมีพื้นฐานที่ดีตั้งแต่เริ่มต้น เพื่อช่วยให้ลูกน้อยของเรามีมีระบบภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้น เสริมสร้างพัฒนาการด้านสมองของเด็กผ่าคลอดด้วย “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” คือสารอาหารที่พบมากในนมแม่ เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้การทำงานสมองของลูกน้อยมีประสิทธิภาพ สร้างสมองไวกว่าเดิม เชื่อมต่อเซลล์สมอง 1 แสนล้านเซล์ อัพเกรดเด็กเจนใหม่ โดยสร้างสารสื่อประสาทในสมอง และเพิ่มความเร็วการส่งสัญญาณประสาทแบบก้าวกระโดด “สฟิงโกไมอีลิน” คือ ไขมันกลุ่มฟอสโฟไลปิด พบได้มากในน้ำนมแม่ที่อุดมไปด้วยสารอาหารกว่า 200 ชนิด ซึ่ง “สฟิงโกไมอีลิน”เป็นองค์ประกอบในการสร้างปลอกไมอีลิน ซึ่งมีผลต่อการทำงานของสมองให้ส่งสัญญาณประสาทได้ไวและประมวลผลอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้เกิดการจดจำเร็ว เรียนรู้ไว สมองของเด็กผ่าคลอดและเด็กที่คลอดตามธรรมชาติ มีการสร้างไมอีลินในสมองแตกต่างกัน โดยเฉพาะที่ส่วนของสมอง ที่ทำหน้าที่เชื่อมโยงระหว่างสมองซีกซ้ายและซีกขวา คุณแม่จึงควรคำนึงถึงจุดเริ่มต้นที่แตกต่าง ของเด็กผ่าคลอดเจนใหม่ ด้วยการเตรียมสมองไวและภูมิคุ้มกันที่ดีด้วย “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” และ บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) จากนมแม่ให้ลูกน้อยยิ่งเริ่มเร็วก็ยิ่งดี เพราะพัฒนาการสมองที่ดีในวัยเด็ก ถือเป็นรากฐานสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการมองเห็น การได้ยิน หรือการเรียนรู้ภาษาสิ่งเหล่านี้ล้วนเกิดจากพัฒนาการของสมองเพราะสมองคือจุดเริ่มต้น ของทุกพัฒนาการของลูกน้อย เตรียมพร้อมเด็กผ่าคลอดให้มีสมองไวและภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้นได้ คุณแม่สามารถเติมเต็มในสิ่งที่ลูกน้อยผ่าคลอดต้องการได้ด้วยสารอาหารที่สำคัญอย่างเช่น “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” ที่ช่วยเพิ่มความเร็วในการส่งสัญญาณประสาทได้เร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น และโพรไบโอติก บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) ตัวช่วยที่ทำให้ลูกน้อยมีภูมิคุ้มกันสุขภาพที่ดี ดังนั้นคุณแม่ก็วางใจได้ หากเราเสริมสร้าง…
3 กันยายน 2568

anal porno zdarma culi nudi al mare free sex videos antalya escort

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save