fbpx

เกร็ดความรู้เรื่องแมงกะพรุนเมื่อจะพาลูกไปเที่ยวทะเล

Writer : OttChan
: 22 กันยายน 2563

เมื่อถึงเวลาการพักผ่อนในช่วงวันหยุดที่เด็กๆ เฝ้ารอ ทะเลก็คงเป็นหนึ่งในสถานที่ที่คุณพ่อคุณแม่ชอบพาไปมากเลยใช่ไหมล่ะคะ แต่..ในช่วงเวลาบางฤดูกาลก็ไม่เหมาะเอาเสียเลยที่จะไปทะเลเพราะเป็นช่วงที่จะมีคุณแมงกะพรุนออกเดินทางจำนวนมากทำให้เกิดปรากฏการณ์กองทัพคุณแมงกะพรุนขึ้น ซึ่งช่วงเวลาที่คุณกะพรุนจะออกเดินทางคือช่วงเข้าใกล้หน้ามรสุมหรือช่วงปลายฝนต้นหนาว ยิ่งระดับน้ำในช่วงนี้มีมากเท่าไหร่ คุณกะพรุนก็จะออกมามากเท่านั้น ดังนั้นช่วงเวลาที่ควรเลี่ยงจากพาเด็กน้อยของเราไปเที่ยวทะเลคือช่วงที่เกิดฝนตกบ่อย, เริ่มมีประกาศแจ้งเตือนตามหาดว่าถึงช่วงที่หาดนี้จะมีคุณแมงกะพรุนมาเกยแล้ว

แมงกะพรุนพิษอ่อน

ไม่ค่อยมีสีสัน เป็นแมงกะพรุนที่สามารถนำมาประกอบอาหารได้หลังการตากแห้งและตัดหนวดออก ซึ่งพันธุ์ที่มีพิษอ่อนหรืออาจก่อให้เกิดเพียงความระคายมีดังนี้

  • แมงกะพรุนลอดช่อง
  • แมงกะพรุนหนัง
  • แมงกะพรุนพระจันทร์
  • แมงกะพรุนหอม

แมงกะพรุนพิษร้ายแรง

จะมีสีสันที่เด่นสะดุดตาแต่บางชนิดก็ใสมากจนแทบมองไม่เห็น, มีความยาวหนวดที่ยาวมาก บางชนิดอาจยาวได้ถึง 3 เมตรเลยทีเดียวซึ่งชนัดของแมงกะพรุนที่ควรระวังคือ

  • แมงกะพรุนไฟ
  • แมงกะพรุนไฟสีชมพู
  • แมงกะพรุนไฟหมวกโปรตุเกส
  • แมงกะพรุนกล่อง

อาการของการถูกแมงกะพรุนสัมผัสโดนร่างกาย

  • เกิดอาการบวมนูนตามผิวหนัง
  • ปวดแสบปวดร้อนอย่างรุนแรง
  • ตัวชา เกิดอาการกล้ามเนื้อเกร็ง
  • หายใจไม่ออก แน่นหน้าอก
  • ปวดหัวอาเจียน, คลื่นไส้
  • หมดสติและอาจหยุดหายใจได้

วิธีปฐมพยาบาลเบื้องต้น

การถูกแมงกะพรุนสัมผัสผิวเอานั้น สามารถเกิดอาการตามมาได้ตั้งแต่แสบคันเล็กน้อยไปจนถึงการหายใจติดขัด ดังนั้นการปฐมพยาบาลจะต้องดูไปตามอาการที่เกิดขึ้นและสามารถปฏิบัติตามได้ต่อไปนี้

  • รีบพาขึ้นจากน้ำกันถูกสัมผัสอีก
  • ไม่จับหนวดหรือชิ้นส่วนแมงกะพรุนโดยตรงแต่ให้ใช้ไม้หรือสิ่งอื่นเขี่ยออกแทน
  • หากมีอาการหน้ามืดหรือหายใจไม่ออก ต้องทำการ CPR ทันทีโดยคนชำนาญเพื่อกระตุ้นให้ระบบหายใจยังทำงาน
  • ใช้น้ำส้มสายชูราดลงบนแผลเพื่อล้างแผล อย่างน้อย 30 วินาที
  • หากไม่มีน้ำส้มสายชูหรือเบคกิ้งโซดา ให้ใช้น้ำทะเลล้างแผล ไม่ควรใช้น้ำเปล่าเพราะพิษจะยิ่งกระจาย
  • เรียกรถพยาบาลให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้

 

ที่มา : pobpad , antijellyfish, taludivingindermnstda

Writer Profile : OttChan

  • Blog :
  • Social Media :

  • Official Sponsors :
  • Samitivej Hospital

Generic placeholder image

บทความที่เกี่ยวข้อง



7  วิธี พิชิตการทานยากของเด็ก
ชีวิตครอบครัว
ลูกชอบพูดแทรก จะแก้อย่างไร
ชีวิตครอบครัว
Update
Banner Banner
เมื่อคุณแม่หลายท่านเป็นกังวลกับเรื่องพัฒนาการสมองและภูมิคุ้มกันที่แตกต่างกันของลูกน้อยที่ผ่าคลอดกับเด็กคลอดธรรมชาติ กลัวว่าลูกน้อยจะมีโอกาสป่วยง่ายหรือมีพัฒนาการสมองช้ากว่าเพื่อนๆ ทำให้คุณแม่ต้องใส่ใจกับการดูแลลูกน้อยมากยิ่งขึ้น เสมือนการเร่งเสริมสร้างเกราะคุ้มกันให้ลูกน้อยเติบโตพร้อมปรับตัวกับโลกยุคใหม่ที่เต็มไปด้วยการเปลี่ยนแปลง วันนี้เราจะพาไปดูเคล็ดไม่ลับ ฉบับการดูแลพัฒนาการสมองของลูกน้อยและภูมิคุ้มกันของเด็กผ่าคลอดที่คุณแม่ไม่ควรมองข้าม ช่วยเติมเต็มในสิ่งที่ลูกผ่าคลอดต้องการได้ ไปดูกันเลย! เกราะคุ้มกันแรกที่หายไปของเด็กผ่าคลอด เด็กผ่าคลอดมักจะป่วยง่ายหรือมีปัญหาสุขภาพมากกว่าเด็กที่คลอดโดยธรรมชาติ เพราะสูญเสียโอกาสในการได้รับเชื้อจุลินทรีย์สุขภาพ ผ่านทางบริเวณช่องคลอดของคุณแม่ ทำให้เกราะคุ้มกันแรกเกิดของลูกน้อยผ่าคลอดหายไปส่งผลให้เด็กมีพัฒนาการทางระบบภูมิคุ้มกันตั้งต้นช้ากว่าเด็กที่คลอดตามธรรมชาติ บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) เป็นจุลินทรีย์ชนิดดีที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันตั้งต้น โดยเฉพาะระบบภูมิคุ้มกันในระบบทางเดินอาหาร คุณแม่จึงต้องเร่งเสริมสร้างเกราะคุ้มกันให้ลูกน้อยมีพื้นฐานที่ดีตั้งแต่เริ่มต้น เพื่อช่วยให้ลูกน้อยของเรามีมีระบบภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้น เสริมสร้างพัฒนาการด้านสมองของเด็กผ่าคลอดด้วย “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” คือสารอาหารที่พบมากในนมแม่ เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้การทำงานสมองของลูกน้อยมีประสิทธิภาพ สร้างสมองไวกว่าเดิม เชื่อมต่อเซลล์สมอง 1 แสนล้านเซล์ อัพเกรดเด็กเจนใหม่ โดยสร้างสารสื่อประสาทในสมอง และเพิ่มความเร็วการส่งสัญญาณประสาทแบบก้าวกระโดด “สฟิงโกไมอีลิน” คือ ไขมันกลุ่มฟอสโฟไลปิด พบได้มากในน้ำนมแม่ที่อุดมไปด้วยสารอาหารกว่า 200 ชนิด ซึ่ง “สฟิงโกไมอีลิน”เป็นองค์ประกอบในการสร้างปลอกไมอีลิน ซึ่งมีผลต่อการทำงานของสมองให้ส่งสัญญาณประสาทได้ไวและประมวลผลอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้เกิดการจดจำเร็ว เรียนรู้ไว สมองของเด็กผ่าคลอดและเด็กที่คลอดตามธรรมชาติ มีการสร้างไมอีลินในสมองแตกต่างกัน โดยเฉพาะที่ส่วนของสมอง ที่ทำหน้าที่เชื่อมโยงระหว่างสมองซีกซ้ายและซีกขวา คุณแม่จึงควรคำนึงถึงจุดเริ่มต้นที่แตกต่าง ของเด็กผ่าคลอดเจนใหม่ ด้วยการเตรียมสมองไวและภูมิคุ้มกันที่ดีด้วย “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” และ บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) จากนมแม่ให้ลูกน้อยยิ่งเริ่มเร็วก็ยิ่งดี เพราะพัฒนาการสมองที่ดีในวัยเด็ก ถือเป็นรากฐานสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการมองเห็น การได้ยิน หรือการเรียนรู้ภาษาสิ่งเหล่านี้ล้วนเกิดจากพัฒนาการของสมองเพราะสมองคือจุดเริ่มต้น ของทุกพัฒนาการของลูกน้อย เตรียมพร้อมเด็กผ่าคลอดให้มีสมองไวและภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้นได้ คุณแม่สามารถเติมเต็มในสิ่งที่ลูกน้อยผ่าคลอดต้องการได้ด้วยสารอาหารที่สำคัญอย่างเช่น “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” ที่ช่วยเพิ่มความเร็วในการส่งสัญญาณประสาทได้เร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น และโพรไบโอติก บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) ตัวช่วยที่ทำให้ลูกน้อยมีภูมิคุ้มกันสุขภาพที่ดี ดังนั้นคุณแม่ก็วางใจได้ หากเราเสริมสร้าง…
3 กันยายน 2568

anal porno zdarma culi nudi al mare free sex videos antalya escort

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save