fbpx

อาการผิดปกติที่ไม่ควรมองข้าม หากลูกเป็นต้องรีบพาไปหาหมอ

Writer : nunzmoko
: 17 มิถุนายน 2562

เด็กๆ เมื่อป่วยไข้หรือไม่สบายบางครั้งเขาอาจไม่รู้ตัว ซึ่งบางทีกว่าเราจะรู้ว่าลูกป่วยหนักก็อาจจะไม่ทันเวลา ดังนั้นการดูแลเอาใจใส่เด็กๆ สังเกตอาการของลูกจะทำให้คุณพ่อคุณแม่ได้เห็นความผิดปกติอย่างทันท่วงทีและหาทางแก้ไขได้ทันเวลา ในบทความนี้จะบอกถึงอาการของลูก 5 อาการที่พ่อแม่ไม่ควรมองข้าม เมื่อลูกมีอาการเหล่านี้ควรรีบพาไปพบแพทย์ค่ะ

1. ลูกนอนกรนเสียงดัง

  • กรนเสียงดังผิดปกติ หรือโตแล้วยังไม่หายกรนอาจจะมาจากอาการแพ้
  • กรนไม่หายเป็นสัญญาณของการติดเชื้อบางอย่างได้เช่นกัน
  • ลูกอาจเป็นต่อมทอนซิลโต ต่อมอดีนอยด์โต
  • ความอ้วนก็เป็นอีกหนึ่งปัยจัยที่ทำให้กรนเสียงดัง
  • กรณีที่ร้ายแรงเช่น มีความผิดปกติของระบบทางเดินหายใจหรือสมอง อาการกล้ามเนื้ออ่อนแรง โรคปอดเรื้อรัง
  • มาจากความผิดปกติทางพันธุกรรมได้จึงควรพาลูกไปให้คุณหมอตรวจดูค่ะ

2. มีอาการผมร่วง

  • ผมร่วงเยอะเกินไป อาจจะบ่งบอกว่าร่างกายของลูกขาดวิตามิน
  • เช็ดผมไม่แห้งหรือหนังศีรษะเป็นเชื้อรา
  • อาจจะมาสาเหตุอื่นดังนั้นควรรีบพาไปไปคุณหมอค่ะ

3. มีไข้สูงนานติดต่อเกิน 3 วัน

  • หากเด็กมีไข้สูงเกินกว่าอุณหภูมิปกติ หรือมีไข้ติดต่อกันนานเกิน 3 วัน
  • ควรรีบพาเด็กไปหาหมอเพราะอาจเป็นอาการของโรคบางอย่าง
  • คอยสังเกตอาการจะทำให้เราเห็นความผิดปกติชัดขึ้น

4. ปานขยายโตขึ้น 

  • หากมีปานขนาดใหญ่ โดยเฉพาะเส้นผ่านศูนย์กลางใหญ่กว่า 7 ซม.
  • มีความเสี่ยงต่อการกลายเป็นมะเร็งผิวหนังได้
  • หากพบปานขนาดใหญ่ หรือมีสีที่เปลี่ยน ควรพาไปพบแพทย์ เพื่อการตรวจติดตามและรับการรักษาที่เหมาะสม

5. มีอาการหิวน้ำตลอดเวลา

  • เกิดจากภายในร่างกายมีอาการร้อนใน จึงทำให้ในร่ายกายมีปริมาณน้ำไม่เพียงพอ
  • ลูกหิวน้ำบ่อยจนผิดสังเกต เช่น ทุกๆ 15 นาที
  • ลูกดื่มน้ำคราวละมากๆ
  • อาจจะมีปัญหาสุขภาพแฝงอยู่จึงควรไปตรวจให้แน่ชัดกับคุณหมอ

คุณพ่อคุณแม่หรือผู้ปกครอง ควรให้ความใส่ใจ ดูแลเอาใจใส่อย่างใกล้ชิด คอยสังเกตอาการผิดปกติต่างๆ ซึ่งหากเราอยู่กับเด็กตลอด เมื่อเด็กมีอาการผิดปกติเราจะรับรู้ได้ในทันที และสามารถช่วยเด็กได้ทันเวลา ดังนั้น เราไม่ควรมองข้ามอาการแปลกๆ ดังกล่าวมานี้ เพื่อความปลอดภัยของลูกรักค่ะ

ที่มา – theasianparent

Writer Profile : nunzmoko

  • Blog :
  • Social Media :

  • Official Sponsors :
  • Samitivej Hospital

Generic placeholder image

บทความที่เกี่ยวข้อง



Update
Banner Banner
เมื่อคุณแม่หลายท่านเป็นกังวลกับเรื่องพัฒนาการสมองและภูมิคุ้มกันที่แตกต่างกันของลูกน้อยที่ผ่าคลอดกับเด็กคลอดธรรมชาติ กลัวว่าลูกน้อยจะมีโอกาสป่วยง่ายหรือมีพัฒนาการสมองช้ากว่าเพื่อนๆ ทำให้คุณแม่ต้องใส่ใจกับการดูแลลูกน้อยมากยิ่งขึ้น เสมือนการเร่งเสริมสร้างเกราะคุ้มกันให้ลูกน้อยเติบโตพร้อมปรับตัวกับโลกยุคใหม่ที่เต็มไปด้วยการเปลี่ยนแปลง วันนี้เราจะพาไปดูเคล็ดไม่ลับ ฉบับการดูแลพัฒนาการสมองของลูกน้อยและภูมิคุ้มกันของเด็กผ่าคลอดที่คุณแม่ไม่ควรมองข้าม ช่วยเติมเต็มในสิ่งที่ลูกผ่าคลอดต้องการได้ ไปดูกันเลย! เกราะคุ้มกันแรกที่หายไปของเด็กผ่าคลอด เด็กผ่าคลอดมักจะป่วยง่ายหรือมีปัญหาสุขภาพมากกว่าเด็กที่คลอดโดยธรรมชาติ เพราะสูญเสียโอกาสในการได้รับเชื้อจุลินทรีย์สุขภาพ ผ่านทางบริเวณช่องคลอดของคุณแม่ ทำให้เกราะคุ้มกันแรกเกิดของลูกน้อยผ่าคลอดหายไปส่งผลให้เด็กมีพัฒนาการทางระบบภูมิคุ้มกันตั้งต้นช้ากว่าเด็กที่คลอดตามธรรมชาติ บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) เป็นจุลินทรีย์ชนิดดีที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันตั้งต้น โดยเฉพาะระบบภูมิคุ้มกันในระบบทางเดินอาหาร คุณแม่จึงต้องเร่งเสริมสร้างเกราะคุ้มกันให้ลูกน้อยมีพื้นฐานที่ดีตั้งแต่เริ่มต้น เพื่อช่วยให้ลูกน้อยของเรามีมีระบบภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้น เสริมสร้างพัฒนาการด้านสมองของเด็กผ่าคลอดด้วย “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” คือสารอาหารที่พบมากในนมแม่ เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้การทำงานสมองของลูกน้อยมีประสิทธิภาพ สร้างสมองไวกว่าเดิม เชื่อมต่อเซลล์สมอง 1 แสนล้านเซล์ อัพเกรดเด็กเจนใหม่ โดยสร้างสารสื่อประสาทในสมอง และเพิ่มความเร็วการส่งสัญญาณประสาทแบบก้าวกระโดด “สฟิงโกไมอีลิน” คือ ไขมันกลุ่มฟอสโฟไลปิด พบได้มากในน้ำนมแม่ที่อุดมไปด้วยสารอาหารกว่า 200 ชนิด ซึ่ง “สฟิงโกไมอีลิน”เป็นองค์ประกอบในการสร้างปลอกไมอีลิน ซึ่งมีผลต่อการทำงานของสมองให้ส่งสัญญาณประสาทได้ไวและประมวลผลอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้เกิดการจดจำเร็ว เรียนรู้ไว สมองของเด็กผ่าคลอดและเด็กที่คลอดตามธรรมชาติ มีการสร้างไมอีลินในสมองแตกต่างกัน โดยเฉพาะที่ส่วนของสมอง ที่ทำหน้าที่เชื่อมโยงระหว่างสมองซีกซ้ายและซีกขวา คุณแม่จึงควรคำนึงถึงจุดเริ่มต้นที่แตกต่าง ของเด็กผ่าคลอดเจนใหม่ ด้วยการเตรียมสมองไวและภูมิคุ้มกันที่ดีด้วย “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” และ บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) จากนมแม่ให้ลูกน้อยยิ่งเริ่มเร็วก็ยิ่งดี เพราะพัฒนาการสมองที่ดีในวัยเด็ก ถือเป็นรากฐานสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการมองเห็น การได้ยิน หรือการเรียนรู้ภาษาสิ่งเหล่านี้ล้วนเกิดจากพัฒนาการของสมองเพราะสมองคือจุดเริ่มต้น ของทุกพัฒนาการของลูกน้อย เตรียมพร้อมเด็กผ่าคลอดให้มีสมองไวและภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้นได้ คุณแม่สามารถเติมเต็มในสิ่งที่ลูกน้อยผ่าคลอดต้องการได้ด้วยสารอาหารที่สำคัญอย่างเช่น “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” ที่ช่วยเพิ่มความเร็วในการส่งสัญญาณประสาทได้เร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น และโพรไบโอติก บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) ตัวช่วยที่ทำให้ลูกน้อยมีภูมิคุ้มกันสุขภาพที่ดี ดังนั้นคุณแม่ก็วางใจได้ หากเราเสริมสร้าง…
3 กันยายน 2568

anal porno zdarma culi nudi al mare free sex videos antalya escort

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save