fbpx

5 วิธี Work from home ให้มีประสิทธิภาพ เมื่ออยู่กับลูกที่บ้าน

Writer : Lalimay
: 26 มีนาคม 2563

Work from Home กลายเป็นเรื่องปกติในช่วงนี้ไปแล้ว เพราะการทำงานที่บ้านจะลดความเสี่ยงในการติดเชื้อ COVID-19 ได้มากขึ้น การทำงานที่บ้านก็ทำให้เรารู้สึกสะดวกสบายมากขึ้นเพราะไม่ต้องเดินทาง แถมยังรู้สึกสบายๆ มากกว่า แต่สำหรับคนเป็นพ่อเป็นแม่แล้ว การ Work from Home ก็แอบเหนื่อยไม่ใช่น้อย เพราะเรามีเจ้าตัวป่วนที่คอยกวนจนเราอาจทำงานได้ไม่เต็มที่ วันนี้เราจึงมี 5 วิธีที่ทำให้คุณพ่อคุณแม่ทำงานที่บ้านได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น เมื่อที่บ้านมีเจ้าตัวยุ่งมาฝากค่ะ

1. มีตารางเวลาที่ชัดเจน 

ตารางเวลาคือสิ่งที่สำคัญที่สุดเมื่อเราทำงานที่บ้าน นอกจากเรื่องของเวาลาในการทำงานของเราแล้ว ตารางเวลาที่ทุกคนใช้ร่วมกันในบ้านก็เป็นสิ่งจำเป็นค่ะ เราอาจจะทำตารางขึ้นมาสักอันเพื่อเป็นการกำหนดเวลาในการทำอะไรแต่ละช่วง เช่น ตื่นกี่โมง ทานข้าวเช้ากี่โมง เรามีประชุมกี่โมง เพื่อให้ลูกรับรู้ว่าเวลาไหนที่เขาควรทำอะไร เราจะได้ไม่ต้องเป็นกังวลมากนัก เพราะเขาจะรู้เวลาของตัวเองได้เป็นอย่างดี

2. กำหนดขอบเขตกับลูก

พอเราอยู่บ้าน ลูกก้ต้องดีใจเป็นธรรมดา เพราะเขาจะได้ใช้เวลาในการอยู่กับเรามากขึ้น มีเพื่อนเล่นเยอะขึ้น ยิ่งบ้านไหนที่ทำงานทั้งคุณพ่อคุณแม่ ช่วงเวลานี้จึงเปรียบเหมือนสวรรค์ของลูกเลยทีเดียว และเพื่อไม่ให้ลูกมารบกวนเวลาที่เราทำงาน อาจมีข้อตกลงร่วมกัน โดยให้ลูกมีส่วนร่วมในข้อตกลงนั้น เช่น ให้ลูกช่วยทำสัญลักษณ์ว่าเข้าห้องได้หรือไม่ได้ เพราะเมื่อเขาเป็นคนทำสัญลักษณ์นั้นเอง ก็จะจดจำได้ว่า เมื่อมีสัญลักษณ์นี้แปะอยู่หน้าห้อง ห้ามเข้าไปรบกวน หรือให้ลูกช่วยกำหนดเวลาว่าช่วงไหนที่ต้องมาเล่นกับเขา เพื่อที่ให้เขาไม่รู้สีกว้าเหว่จนเกินไปค่ะ

3. การสื่อสารคือเรื่องสำคัญมากๆ

นอกจากเรื่องที่เราต้องตกลงกับลูกให้เรียบร้อยถึงช่วงเวลาในการทำงานของเราแล้ว การสื่อสารกับเพื่อนร่วมงานคือสิ่งสำคัญเช่นกัน เพราะเมื่อเราห่างกัน การพูดคุยเรื่องต่างๆ อาจเป็นไปได้ยาก ดังนั้นเราอาจจะต้องมี Sheet ที่ลงตารางงานไว้อย่างชัดเจน ว่าใครทำอะไรบ้าง เพื่อที่เวลาเราคุยงานกัน จะได้มีเอกสารประกอบการพูดคุย เพื่อไม่ให้เกิดข้อผิดพลาด หรือเข้าใจผิดเกินขึ้น

4. ต้องพักบ้าง

เมื่อทำงานอยู่ที่บ้าน แน่นอนว่าหลายครั้งที่มักจะทำงานเพลินจนลืมเวลา ลืมทั้งเวลากินข้าว เวลาไปเล่นกับลูก รวมถึงเวลาพักผ่อน ดังนั้นเมื่อได้ทำงานอยู่ที่บ้านแล้ว ก็จงหาเวลาให้ตัวเองได้พักบ้าง อาจจะมากินของว่าง เดินมาเล่นกับลูก พักสายตานิดหน่อย หรือขยับเขยื้อนร่างกายบ้าง เพราะถ้าเกิดเราไม่ยอมพัก ย่อมเกิดผลเสียกับร่างกายทั้งสุขภาพกาย สุขภาพใจ รวมไปถึงความสัมพันธ์ในครอบครัวด้วยค่ะ

5. แบ่งหน้าที่ระหว่างสามี-ภรรยา 

ในช่วงเวลาปกติ ถ้าบ้านไหนที่คุณแม่เป็นคุณแม่ฟูลไทม์ เราก็ต้องเข้าใจว่าช่วงเวลานี้ถึงแม้สามีจะอยู่ที่บ้านแต่เขาก็กำลังทำงาน เราคงไม่สามารถให้เข้ามาช่วยทำงานบ้านหรือช่วยเลี้ยงลูกได้มากนัก ส่วนคุณสามีก็อาจจะช่วยหยิบจับอะไรเล็กๆ น้อยที่ตัวเองสามารถทำได้ เพื่อไม่ให้งานบ้านมาหนักคุณภรรยามากเกินไป เพราะเมื่อเราอยู่บ้าน หน้าที่ในการดูแลของภรรยาก็มากขึ้นเช่นกัน

ส่วนบ้านไหนที่ทำงานนอกบ้านด้วยกันทั้งคู่ ช่วงเวลานี้เราก็จะต้องแบ่งหน้าที่กันดีๆ ว่าใครทำอะไรช่วงไหน หรือแบ่งหน้าที่อะไรกันบ้าง เพราะถ้าเราไม่แบ่งให้ดี ก็อาจทำให้ผิดใจกัน และกลายเป็นเรื่องใหญ่ได้ ในช่วงที่เราใช้เวลาอยู่ด้วยกันทั้งวัน ในหลายครั้งก็อาจรู้สึกไม่สบอารมณ์ในบางเรื่อง ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่จะต้องเข้าอกเข้าใจและประนีประนอมต่อกันและกันให้มากขึ้นนะคะ 

Writer Profile : Lalimay

  • Blog :

  • Official Sponsors :
  • Samitivej Hospital

Generic placeholder image

บทความที่เกี่ยวข้อง



กำลังใจที่ไม่เคยสังเกต
ชีวิตครอบครัว
Update
Banner Banner
เมื่อคุณแม่หลายท่านเป็นกังวลกับเรื่องพัฒนาการสมองและภูมิคุ้มกันที่แตกต่างกันของลูกน้อยที่ผ่าคลอดกับเด็กคลอดธรรมชาติ กลัวว่าลูกน้อยจะมีโอกาสป่วยง่ายหรือมีพัฒนาการสมองช้ากว่าเพื่อนๆ ทำให้คุณแม่ต้องใส่ใจกับการดูแลลูกน้อยมากยิ่งขึ้น เสมือนการเร่งเสริมสร้างเกราะคุ้มกันให้ลูกน้อยเติบโตพร้อมปรับตัวกับโลกยุคใหม่ที่เต็มไปด้วยการเปลี่ยนแปลง วันนี้เราจะพาไปดูเคล็ดไม่ลับ ฉบับการดูแลพัฒนาการสมองของลูกน้อยและภูมิคุ้มกันของเด็กผ่าคลอดที่คุณแม่ไม่ควรมองข้าม ช่วยเติมเต็มในสิ่งที่ลูกผ่าคลอดต้องการได้ ไปดูกันเลย! เกราะคุ้มกันแรกที่หายไปของเด็กผ่าคลอด เด็กผ่าคลอดมักจะป่วยง่ายหรือมีปัญหาสุขภาพมากกว่าเด็กที่คลอดโดยธรรมชาติ เพราะสูญเสียโอกาสในการได้รับเชื้อจุลินทรีย์สุขภาพ ผ่านทางบริเวณช่องคลอดของคุณแม่ ทำให้เกราะคุ้มกันแรกเกิดของลูกน้อยผ่าคลอดหายไปส่งผลให้เด็กมีพัฒนาการทางระบบภูมิคุ้มกันตั้งต้นช้ากว่าเด็กที่คลอดตามธรรมชาติ บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) เป็นจุลินทรีย์ชนิดดีที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันตั้งต้น โดยเฉพาะระบบภูมิคุ้มกันในระบบทางเดินอาหาร คุณแม่จึงต้องเร่งเสริมสร้างเกราะคุ้มกันให้ลูกน้อยมีพื้นฐานที่ดีตั้งแต่เริ่มต้น เพื่อช่วยให้ลูกน้อยของเรามีมีระบบภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้น เสริมสร้างพัฒนาการด้านสมองของเด็กผ่าคลอดด้วย “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” คือสารอาหารที่พบมากในนมแม่ เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้การทำงานสมองของลูกน้อยมีประสิทธิภาพ สร้างสมองไวกว่าเดิม เชื่อมต่อเซลล์สมอง 1 แสนล้านเซล์ อัพเกรดเด็กเจนใหม่ โดยสร้างสารสื่อประสาทในสมอง และเพิ่มความเร็วการส่งสัญญาณประสาทแบบก้าวกระโดด “สฟิงโกไมอีลิน” คือ ไขมันกลุ่มฟอสโฟไลปิด พบได้มากในน้ำนมแม่ที่อุดมไปด้วยสารอาหารกว่า 200 ชนิด ซึ่ง “สฟิงโกไมอีลิน”เป็นองค์ประกอบในการสร้างปลอกไมอีลิน ซึ่งมีผลต่อการทำงานของสมองให้ส่งสัญญาณประสาทได้ไวและประมวลผลอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้เกิดการจดจำเร็ว เรียนรู้ไว สมองของเด็กผ่าคลอดและเด็กที่คลอดตามธรรมชาติ มีการสร้างไมอีลินในสมองแตกต่างกัน โดยเฉพาะที่ส่วนของสมอง ที่ทำหน้าที่เชื่อมโยงระหว่างสมองซีกซ้ายและซีกขวา คุณแม่จึงควรคำนึงถึงจุดเริ่มต้นที่แตกต่าง ของเด็กผ่าคลอดเจนใหม่ ด้วยการเตรียมสมองไวและภูมิคุ้มกันที่ดีด้วย “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” และ บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) จากนมแม่ให้ลูกน้อยยิ่งเริ่มเร็วก็ยิ่งดี เพราะพัฒนาการสมองที่ดีในวัยเด็ก ถือเป็นรากฐานสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการมองเห็น การได้ยิน หรือการเรียนรู้ภาษาสิ่งเหล่านี้ล้วนเกิดจากพัฒนาการของสมองเพราะสมองคือจุดเริ่มต้น ของทุกพัฒนาการของลูกน้อย เตรียมพร้อมเด็กผ่าคลอดให้มีสมองไวและภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้นได้ คุณแม่สามารถเติมเต็มในสิ่งที่ลูกน้อยผ่าคลอดต้องการได้ด้วยสารอาหารที่สำคัญอย่างเช่น “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” ที่ช่วยเพิ่มความเร็วในการส่งสัญญาณประสาทได้เร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น และโพรไบโอติก บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) ตัวช่วยที่ทำให้ลูกน้อยมีภูมิคุ้มกันสุขภาพที่ดี ดังนั้นคุณแม่ก็วางใจได้ หากเราเสริมสร้าง…
3 กันยายน 2568

anal porno zdarma culi nudi al mare free sex videos antalya escort

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save