fbpx

7 สิ่งที่ลูกถอดแบบมาจากพ่อแม่เป๊ะๆ!!

Writer : Mneeose
: 3 ตุลาคม 2561

เคยสังเกตไหมคะว่า บางทีลูกก็ทำพฤติกรรมบางอย่างที่ดันไปเหมือนกับคุณพ่อคุณแม่ ทั้งที่พ่อกับแม่ยังไม่ได้สอนเสียด้วยซ้ำ อาจเพราะลูกเกิดการการเลียนแบบพฤติกรรมในวัยเด็ก ที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งมีอิธิพลมาจากพ่อแม่ และสิ่งแวดล้อมโดยตรง สิ่งเล็กๆ พวกนี้มีความน่ารักในตัวของมันเองค่ะ Parents One จึงอยากนำเสนอ 7 สิ่งที่ลูกถอดแบบมาจากพ่อแม่เป๊ะๆ!! จะมีอะไรบ้าง ไปดูกันเลยค่ะ

1. กินอย่างเอร็ดอร่อย

ลูกจะมีพฤติกรรมการกินอาหารที่ถอดแบบมาจากพ่อแม่ เช่น ชอบอ้าปากกว้างๆ สังเกตพฤติกรรมแบบนี้จากลูกได้ไม่ยาก ท่าทางการกินช่างเหมือนกับคุณพ่อซะเหลือเกิน อ้าปากกว้างๆ แม้ตัวเองจะปากเล็ก ขอกินคำใหญ่ๆ ก่อนเหมือนคุณพ่อ ไม่มีผิดเลยค่ะ จะมีบางช่วงที่เมื่อลูกกินแล้วเรามอง จะรู้สึกคล้ายกับคุณพ่อคุณแม่มากๆ

 

2. ท่านอนองศาเดียวกับพ่อเป๊ะๆ

ก่อนนอนไม่ว่าใครจะนอนท่าอะไร แต่เมื่อตื่นเช้าขึ้นมากลับพบว่า คุณพ่อนอนยังไงคุณลูกก็นอนในท่านั้นเหมือนกัน ถอดเเบบกันมาเป๊ะๆ  ทั้งมือ ทั้งขา ไปที่ตำแหน่งเดียวกันไม่มีผิด เป็นภาพน่ารักๆ ในตอนเช้าที่ครอบครัวทุกครอบครัวต้องมี การนอนมักจะบอกอะไรเราได้หลายอย่างทั้งความสัมพันธ์ และความใกล้ชิดของสมาชิกในครอบครัวค่ะ

 

3. ท่วงท่าในการก้าวเดิน

บางคนอาจจะไม่ค่อยได้สังเกตลูกของตัวเองมากเท่าไหร่ แต่การเดินหรือวิธีเดินนั้น มีผลมาจากคุณพ่อคุณแม่ แต่ข้อนี้ลูกไม่ได้ตั้งใจจะเลียนแบบพฤติกรรม ส่วนมากจะเป็นไปตามสัญชาตญาณมากกว่า เช่น เด็กบางคนโตขึ้น ชอบเดินแบบย่างก้าว ค่อยๆเดิน ไม่รีบร้อน เดินแบบก้าวเยื้อง แต่เด็กบางคนก็ชอบเดินเร็ว เป็นต้น

 

4. ชอบพูดคำซ้ำๆที่ตัวเองได้ยินบ่อยๆ

ลูกจะชอบพูดคำซ้ำๆ ที่คุณพ่อคุณแม่ชอบพูดติดปากอยู่บ่อยๆ  ลูกจะพูดซ้ำไปซ้ำมา เพื่อดึงดูดให้พ่อแม่สนใจให้มาเล่นด้วย

 

5. ท่านั่งที่ถ่ายทอดกันมา

ท่านั่ง จะเห็นได้ชัดเจนมากจากลูกวัยอนุบาลและวัยประถม  ที่เขาหัดทำเลียนแบบคนรอบข้าง และเริ่มกล้าแสดงความเป็นตัวเองออกมา เช่น นั่งท่าไขว่ห้าง นั่งท่าขัดสมาธิ 2 ชั้น

 

6. ลูกตอนงอแง สายตาจะเหมือนพ่อแม่ตอนโกรธ

อย่าให้ลูกเห็นตอนที่คุณมีอารมณ์โมโห เพราะพวกเขาจะเลียนแบบอารมณ์โกรธของคุณแน่นอนทีเดียว ดังนั้นเมื่อโมโหลูกให้เก็บอารมณ์ และอาการไว้ก่อน ลูกจะได้ไม่กลัว และไปเลียนแบบเป็นนิสัยตอนพวกเขาโตกันนะคะคุณพ่อคุณแม่

 

7. รอยยิ้มเล็กๆ ของเจ้าตัวน้อย

รอยยิ้มที่เล็ก แต่ร้ายๆ แบบคุณแม่ ที่ชวนให้หลงใหลของเจ้าลูกน้อยตัวแสบ ที่คิดแต่เรื่องที่สนุกอยู่ในหัวตลอดเวลา คงกำลังคิดว่าจะขอซื้อของเล่นจากคุณพ่อคุณแม่อยู่แน่นอน ซึ่งรอยยิ้มเล็กๆเป็นสิ่งที่บ่งบอกในสิ่งที่ลูกนั้นกำลังคิดได้จริงๆ ค่ะ

Writer Profile : Mneeose

💙💙💙

  • Blog :
  • Social Media :

  • Official Sponsors :
  • Samitivej Hospital

Generic placeholder image

บทความที่เกี่ยวข้อง



7 สิ่งที่เด็กวัย 2 ขวบทำเก่ง
ช่วงวัยของเด็ก
9 วิธีแก้ทางเด็กดื้อเด็กซน
เด็กอายุ 2-5 ขวบ
Update
Banner Banner
เมื่อคุณแม่หลายท่านเป็นกังวลกับเรื่องพัฒนาการสมองและภูมิคุ้มกันที่แตกต่างกันของลูกน้อยที่ผ่าคลอดกับเด็กคลอดธรรมชาติ กลัวว่าลูกน้อยจะมีโอกาสป่วยง่ายหรือมีพัฒนาการสมองช้ากว่าเพื่อนๆ ทำให้คุณแม่ต้องใส่ใจกับการดูแลลูกน้อยมากยิ่งขึ้น เสมือนการเร่งเสริมสร้างเกราะคุ้มกันให้ลูกน้อยเติบโตพร้อมปรับตัวกับโลกยุคใหม่ที่เต็มไปด้วยการเปลี่ยนแปลง วันนี้เราจะพาไปดูเคล็ดไม่ลับ ฉบับการดูแลพัฒนาการสมองของลูกน้อยและภูมิคุ้มกันของเด็กผ่าคลอดที่คุณแม่ไม่ควรมองข้าม ช่วยเติมเต็มในสิ่งที่ลูกผ่าคลอดต้องการได้ ไปดูกันเลย! เกราะคุ้มกันแรกที่หายไปของเด็กผ่าคลอด เด็กผ่าคลอดมักจะป่วยง่ายหรือมีปัญหาสุขภาพมากกว่าเด็กที่คลอดโดยธรรมชาติ เพราะสูญเสียโอกาสในการได้รับเชื้อจุลินทรีย์สุขภาพ ผ่านทางบริเวณช่องคลอดของคุณแม่ ทำให้เกราะคุ้มกันแรกเกิดของลูกน้อยผ่าคลอดหายไปส่งผลให้เด็กมีพัฒนาการทางระบบภูมิคุ้มกันตั้งต้นช้ากว่าเด็กที่คลอดตามธรรมชาติ บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) เป็นจุลินทรีย์ชนิดดีที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันตั้งต้น โดยเฉพาะระบบภูมิคุ้มกันในระบบทางเดินอาหาร คุณแม่จึงต้องเร่งเสริมสร้างเกราะคุ้มกันให้ลูกน้อยมีพื้นฐานที่ดีตั้งแต่เริ่มต้น เพื่อช่วยให้ลูกน้อยของเรามีมีระบบภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้น เสริมสร้างพัฒนาการด้านสมองของเด็กผ่าคลอดด้วย “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” คือสารอาหารที่พบมากในนมแม่ เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้การทำงานสมองของลูกน้อยมีประสิทธิภาพ สร้างสมองไวกว่าเดิม เชื่อมต่อเซลล์สมอง 1 แสนล้านเซล์ อัพเกรดเด็กเจนใหม่ โดยสร้างสารสื่อประสาทในสมอง และเพิ่มความเร็วการส่งสัญญาณประสาทแบบก้าวกระโดด “สฟิงโกไมอีลิน” คือ ไขมันกลุ่มฟอสโฟไลปิด พบได้มากในน้ำนมแม่ที่อุดมไปด้วยสารอาหารกว่า 200 ชนิด ซึ่ง “สฟิงโกไมอีลิน”เป็นองค์ประกอบในการสร้างปลอกไมอีลิน ซึ่งมีผลต่อการทำงานของสมองให้ส่งสัญญาณประสาทได้ไวและประมวลผลอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้เกิดการจดจำเร็ว เรียนรู้ไว สมองของเด็กผ่าคลอดและเด็กที่คลอดตามธรรมชาติ มีการสร้างไมอีลินในสมองแตกต่างกัน โดยเฉพาะที่ส่วนของสมอง ที่ทำหน้าที่เชื่อมโยงระหว่างสมองซีกซ้ายและซีกขวา คุณแม่จึงควรคำนึงถึงจุดเริ่มต้นที่แตกต่าง ของเด็กผ่าคลอดเจนใหม่ ด้วยการเตรียมสมองไวและภูมิคุ้มกันที่ดีด้วย “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” และ บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) จากนมแม่ให้ลูกน้อยยิ่งเริ่มเร็วก็ยิ่งดี เพราะพัฒนาการสมองที่ดีในวัยเด็ก ถือเป็นรากฐานสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการมองเห็น การได้ยิน หรือการเรียนรู้ภาษาสิ่งเหล่านี้ล้วนเกิดจากพัฒนาการของสมองเพราะสมองคือจุดเริ่มต้น ของทุกพัฒนาการของลูกน้อย เตรียมพร้อมเด็กผ่าคลอดให้มีสมองไวและภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้นได้ คุณแม่สามารถเติมเต็มในสิ่งที่ลูกน้อยผ่าคลอดต้องการได้ด้วยสารอาหารที่สำคัญอย่างเช่น “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” ที่ช่วยเพิ่มความเร็วในการส่งสัญญาณประสาทได้เร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น และโพรไบโอติก บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) ตัวช่วยที่ทำให้ลูกน้อยมีภูมิคุ้มกันสุขภาพที่ดี ดังนั้นคุณแม่ก็วางใจได้ หากเราเสริมสร้าง…
3 กันยายน 2568

anal porno zdarma culi nudi al mare free sex videos antalya escort

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save