fbpx

7 ความเชื่อเกี่ยวกับการเลี้ยงลูก ที่คุณเเม่มักเข้าใจกันผิด

Writer : Mookky TCN
: 6 กุมภาพันธ์ 2561

ในการเลี้ยงลูกบางทีก็มีหลายความเชื่อที่เเปลกๆ บางอย่างได้ยินเเล้วก็อดสงสัยไม่ได้ว่ามันจริงเหรอ ซึ่งหลายอย่างก็มีคุณเเม่หลายคนที่เชื่อ เเละนำมาใช้ในการเลี้ยงลูกกันเยอะเลย มาดูกันว่าจะมีความเชื่อไหนที่ไม่ควรทำตามบ้าง

1. หลังคลอดต้องบ้วนน้ำลายใส่สะดือเด็ก

เป็นความเชื่อทื่ฟังเเล้วรู้สึกอี๋เลยน้อย โดยเชื่อกันมาเเต่โบราณว่าเเม่ต้องบ้วนน้ำลายในตอนเช้าใส่สะดือลูกหลังจากที่ลูกคลอดได้ประมาณ 3 วัน เพราะเชื่อกันว่าช่วงเช้าน้ำลายของเราจะมีเเบคทีเรียเยอะ ซึ่งช่วยให้สะดือเน่าหลุดไปจากตัวเด็ก

ความจริง : ในปกเเล้วสายสะดือจะหลุดออกจากตัวเด็กไปเอง ซึ่งสายสะดือจะเป็นเเผลเปิดที่ถ้าเราบ้วนน้ำลายใส่ลงไปก็อาจทำให้ลูกติดเชื้อในกระเเสเลือดได้ ถ้าอยากทำความสะอาดสะดือลูกก็ควรเอาแอลกอฮอล์มาเช็ดสะดือให้ลูกจนกว่าจะหลุดไปแทนค่ะ

2. ทารกควรกินกล้วยบดเป็นอาหารเสริม

ข้อนี้เรามักเห็นกันบ่อยๆ ว่าหลายคนนำกล้วยบดละเอียดมาให้ลูกทาน นอกเหนือจากการทานนมเเม่แบบปกติ

ความจริง : ช่วงอายุเเรกเกิดถึง 6  เดือน ควรใหเลูกทานนมเเม่ ยังไม่ควรให้ทานอาหารอื่นๆ เพราะนมเเม่กห็เพียงพอต่อความต้องการของลูกเเล้ว ยิ่งไปกว่านั้นการให้ลูกทานกล้วยบดก็มีโทษมากกว่าประโยชน์ เพราะทำให้เด็กสำลักได้ง่าย ลำไส้มีปัญหา เเละทำให้เด็กนอนไม่หลับเพราะมีอาการท้องอืดได้

3. ใส่ผ้าอ้อมเเล้วอุ้มลูกเข้าเอว ทำให้เด็กขาโก่ง

เรื่องลูกขาโก่งก็เป็นความกังวลสำหรับคุณเเม่หลายๆ คน เพราะกลัวว่าลูกโตมาเเล้วขาจะไม่สวย ซึ่งเชื่อกันว่าถ้าใส่ผ้าอ้อมสำเร็จรูป เเล้วอุ้มลูกเข้าเอวก็จะยิ่งทำให้ลูกขาโก่งมากขึ้น

ความจริง: ลูกจะขาโก่งหรือไม่นั้นเกี่ยวกับเรื่องกรรมพันธ์ุเเละความผิดปกติทางร่างกาย ตามปกติเด็กทารกจะมีขาโค้งนิดๆ อยู่เเล้ว การจะตัดสินว่าลูกขาโก่งหรือไม่ต้องดูตอยอายุ 2  ขวบขึ้นไป เเละไม่ควรดัดขาให้ลูกเเรงๆ เพราะจะเสี่ยงต่อการบาดเจ็บได้

4. แม่ควรหยุดให้กินนมแม่ เมื่อทารกท้องเสียหรืออาเจียน

เมื่อทารกท้องเสียหรือมีอาการอาเจียน คุณเเม่หลายคนก็มีความกังวลจนให้ลูกหยุดดื่มนมเเม่ เพราะกังวลว่าลูกจะท้องเสียมากขึ้นไปอีก

ความจริง : นมเเม่ช่วยรักษาอาการท้องร่วง ท้องเสีย อาเจียน เเละเป็นอาหารที่ลูกต้องการเมื่อมีอาการเเบบนี้ ดังนั้นคุณเเม่ไม่ควรหยุดให้ลูกทานนมเเม่เเล้วให้นมผสมกับทารกเเทน เเต่ควรพาลูกไปพบเเพทย์แทน

5. การตีเป็นวิธีลงโทษที่ได้ผลที่สุด

หลายคนใช้วิธีลงโทษเเบบรุนเเรงกับลูกด้วยการตี เพราะคิดว่าเป็นสิ่งที่ได้ผลดี เเละได้ผลเร็วที่สุดด้วย

ความจริง : ในความเป็นจริงเเล้วเป็นการทำร้ายจิตใจลูก ซึ่งอาจสร้างปมในใจกับเด็ก เด็กๆ ที่ถูกลงโทษด้วยการตีเเบบรุนเเรงจะทำตามคำสั่งในตอนที่อยู่ต่อหน้า เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ถูกตีอีก ดังนั้นจะไม่เป็นการปรับพฤติกรรมเเบบถาวรให้กับลูก ควรใช้วิธีอื่นในการลงโทษแทน

6. เลี้ยงลูกให้อ้วนๆ เพราะถ้าผอมจะเป็นเด็กขี้โรค

คุณเเม่บางคนเชื่อว่าเด็กอ้วนเป็นเด็กเเข็งเเรง ส่วนถ้าลูกผอมเกินไปก็จะขี้โรค ป่วยง่าย เลยพยายามให้ลูกทานเยอะๆ เข้าไว้ เเละบางรายก็ยังเข้าใจผิดว่าลูกผอมเกินไปทั้งๆ ที่ความจริงเเล้วน้ำหนักนั้นอยู่ในเกณฑ์ปกติดี

ความจริง : ขอเเค่เพียงน้ำหนักลูกน้อยตรงตามเกณฑ์มาตรฐานก็พอเเล้ว ไม่จำเป็นต้องอ้วนจ้ำม่ำเสมอไป เพราะในความเป็นจริงเด็กอ้วนบางคนก็ป่วยบ่อย ส่วนเด็กที่น้ำหนักปกติมักจะเเข็งเเรงดีค่ะ

7. อุ้มลูกพาดบ่าทำให้เด็กตัวเตี้ย

มีความเชื่อว่าในช่วง 1-6 เดือนเเรก การอุ้มลูกแบบเเนวตั้ง หรืออุ้มลูกพาดบ่าทำให้กระดูกลูกไม่เเข็งเเรง เเละอาจจะย่นได้ ซึ่งเมื่อกระดูกไม่เเข็งเเรงก็จะทำให้ลูกโตมาเป็นเด็กตัวเตี้ย

ความจริง : การอุ้มแบบพาดบ่าไม่มีผลกระทบกับเด็ก อาจมีข้อเสียนิดหน่อยที่ทำให้คนอุ้มเมื่อยเท่านั้น ซึ่งที่จริงการอุ้มลูกพาดบ่าเเนวตั้งจนหลับช่วยไล่ลม แก้ปัญหาท้องอืด ท้องเฟ้อ ให้กับลูก เเละยังทำให้รู้สึกอบอุ่น ไม่รู้สึกตกใจง่ายอีกด้วย

maerakluke

breastfeedingthai

bangkokhospital

Writer Profile : Mookky TCN

  • Blog :
  • Social Media :

  • Official Sponsors :
  • Samitivej Hospital

Generic placeholder image

บทความที่เกี่ยวข้อง



20 เหตุผลที่เราควรพาลูก(และแม่)เที่ยว
กิจกรรมของครอบครัว
Update
Banner Banner
เมื่อคุณแม่หลายท่านเป็นกังวลกับเรื่องพัฒนาการสมองและภูมิคุ้มกันที่แตกต่างกันของลูกน้อยที่ผ่าคลอดกับเด็กคลอดธรรมชาติ กลัวว่าลูกน้อยจะมีโอกาสป่วยง่ายหรือมีพัฒนาการสมองช้ากว่าเพื่อนๆ ทำให้คุณแม่ต้องใส่ใจกับการดูแลลูกน้อยมากยิ่งขึ้น เสมือนการเร่งเสริมสร้างเกราะคุ้มกันให้ลูกน้อยเติบโตพร้อมปรับตัวกับโลกยุคใหม่ที่เต็มไปด้วยการเปลี่ยนแปลง วันนี้เราจะพาไปดูเคล็ดไม่ลับ ฉบับการดูแลพัฒนาการสมองของลูกน้อยและภูมิคุ้มกันของเด็กผ่าคลอดที่คุณแม่ไม่ควรมองข้าม ช่วยเติมเต็มในสิ่งที่ลูกผ่าคลอดต้องการได้ ไปดูกันเลย! เกราะคุ้มกันแรกที่หายไปของเด็กผ่าคลอด เด็กผ่าคลอดมักจะป่วยง่ายหรือมีปัญหาสุขภาพมากกว่าเด็กที่คลอดโดยธรรมชาติ เพราะสูญเสียโอกาสในการได้รับเชื้อจุลินทรีย์สุขภาพ ผ่านทางบริเวณช่องคลอดของคุณแม่ ทำให้เกราะคุ้มกันแรกเกิดของลูกน้อยผ่าคลอดหายไปส่งผลให้เด็กมีพัฒนาการทางระบบภูมิคุ้มกันตั้งต้นช้ากว่าเด็กที่คลอดตามธรรมชาติ บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) เป็นจุลินทรีย์ชนิดดีที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันตั้งต้น โดยเฉพาะระบบภูมิคุ้มกันในระบบทางเดินอาหาร คุณแม่จึงต้องเร่งเสริมสร้างเกราะคุ้มกันให้ลูกน้อยมีพื้นฐานที่ดีตั้งแต่เริ่มต้น เพื่อช่วยให้ลูกน้อยของเรามีมีระบบภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้น เสริมสร้างพัฒนาการด้านสมองของเด็กผ่าคลอดด้วย “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” คือสารอาหารที่พบมากในนมแม่ เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้การทำงานสมองของลูกน้อยมีประสิทธิภาพ สร้างสมองไวกว่าเดิม เชื่อมต่อเซลล์สมอง 1 แสนล้านเซล์ อัพเกรดเด็กเจนใหม่ โดยสร้างสารสื่อประสาทในสมอง และเพิ่มความเร็วการส่งสัญญาณประสาทแบบก้าวกระโดด “สฟิงโกไมอีลิน” คือ ไขมันกลุ่มฟอสโฟไลปิด พบได้มากในน้ำนมแม่ที่อุดมไปด้วยสารอาหารกว่า 200 ชนิด ซึ่ง “สฟิงโกไมอีลิน”เป็นองค์ประกอบในการสร้างปลอกไมอีลิน ซึ่งมีผลต่อการทำงานของสมองให้ส่งสัญญาณประสาทได้ไวและประมวลผลอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้เกิดการจดจำเร็ว เรียนรู้ไว สมองของเด็กผ่าคลอดและเด็กที่คลอดตามธรรมชาติ มีการสร้างไมอีลินในสมองแตกต่างกัน โดยเฉพาะที่ส่วนของสมอง ที่ทำหน้าที่เชื่อมโยงระหว่างสมองซีกซ้ายและซีกขวา คุณแม่จึงควรคำนึงถึงจุดเริ่มต้นที่แตกต่าง ของเด็กผ่าคลอดเจนใหม่ ด้วยการเตรียมสมองไวและภูมิคุ้มกันที่ดีด้วย “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” และ บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) จากนมแม่ให้ลูกน้อยยิ่งเริ่มเร็วก็ยิ่งดี เพราะพัฒนาการสมองที่ดีในวัยเด็ก ถือเป็นรากฐานสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการมองเห็น การได้ยิน หรือการเรียนรู้ภาษาสิ่งเหล่านี้ล้วนเกิดจากพัฒนาการของสมองเพราะสมองคือจุดเริ่มต้น ของทุกพัฒนาการของลูกน้อย เตรียมพร้อมเด็กผ่าคลอดให้มีสมองไวและภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้นได้ คุณแม่สามารถเติมเต็มในสิ่งที่ลูกน้อยผ่าคลอดต้องการได้ด้วยสารอาหารที่สำคัญอย่างเช่น “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” ที่ช่วยเพิ่มความเร็วในการส่งสัญญาณประสาทได้เร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น และโพรไบโอติก บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) ตัวช่วยที่ทำให้ลูกน้อยมีภูมิคุ้มกันสุขภาพที่ดี ดังนั้นคุณแม่ก็วางใจได้ หากเราเสริมสร้าง…
3 กันยายน 2568

anal porno zdarma culi nudi al mare free sex videos antalya escort

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save