fbpx

9 คติประจำใจของแม่ เมื่อมีลูกน้อย

Writer : nunzmoko
: 15 มกราคม 2562

เมื่อคุณแม่มีลูกน้อยแล้ว ชีวิตต้องเปลี่ยนไปในหลายๆ เรื่องอย่างแน่นอน วันนี้เรามีคติประจำใจ 9 ข้อที่คุณแม่ควรเตือนตัวเองและท่องไว้วันละ 3 เวลา เพื่อจะได้มีความสุขทั้งตัวคุณแม่เองและลูกน้อยที่น่ารักของเรา จะมีอะไรบ้างไปดูกันเลยค่ะ

1. เป็นคนที่ดีกว่าเดิม

ก่อนมีลูกคุณแม่อาจจะเป็นคนนอนตื่นสาย ทำกับข้าวไม่เป็น ไม่ชอบอ่านหนังสือ หรือขับรถไม่ระวัง พอมีลูกแล้วคุณแม่จะต้องคำนึงถึงลูกน้อยมากขึ้น การระลึกไว้ว่าเราจะเป็นคนที่ดีกว่าเดิมเพื่อเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับลูก จะทำให้ทั้งตัวคุณแม่เองและลูกน้อยมีความสุข

2. ระวังการกระทำและอารมณ์

ลูกจะเลียนแบบสิ่งที่แม่ทำ ไม่ใช่สิ่งที่แม่สอน จงระวังการกระทำหรือการแสดงออกต่างๆ ของคุณแม่เองและคนรอบๆ ตัวลูกโดยเฉพาะคนในครอบครัว เพราะสายตาคู่นั้นของลูก จะจับจ้องและมองดูสิ่งต่างๆ รอบตัวแล้วเลียนแบบ

3. ไม่สปอยล์ลูก

สอนลูกให้ประหยัด อย่าสปอยล์ลูกการที่พ่อแม่ซื้อของเล่นให้บ่อยๆ ตามที่ลูกเรียกร้อง อาจทำให้ลูกน้อยที่น่ารักของคุณกลายเป็นเด็กที่ไม่รู้จักพอ อยากได้ของเล่นใหม่ๆ ตลอดเวลา จึงเป็นหน้าที่ของพ่อแม่ที่จะต้องระวังไม่ให้ความรักความทุ่มเทของตนเองกลายเป็นการสปอยด์ลูกให้เสียคนในที่สุด

4. ไม่ปล่อยตัวเอง

ไม่ปล่อยตัวเองให้เป็นแม่ที่น่าเบื่อเด็ดขาด คุณจะเปลี่ยนแปลงตัวเองให้ไปในทางที่ดีขึ้น เพื่อให้ลูกและสามีมีความสุข

5. เรียนรู้ความไม่สมบูรณ์แบบ

แม้เราจะพยายามให้ลูกได้รับสิ่งที่ดีที่สุดอยู่เสมอ แต่ไม่ได้ความว่าเราจะสามารถหาสิ่งที่ดีที่สุดตามที่เขาต้องการได้ทุกครั้ง บางครั้งเราต้องให้ลูกเรียนรู้ความไม่สมบูรณ์และความผิดหวังบ้าง เพื่อที่เขาจะได้ใช้ชีวิตต่อไปได้เมื่อมีอุปสรรค

6. อย่าชะล่าใจเมื่อลูกป่วย

เมื่อลูกป่วย โดยเฉพาะเด็กเล็กๆ ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องระมัดระวังค่อนข้างมาก จงอย่าชะล่าใจ แต่ก็ไม่ต้องวิตกกังวลมากจนเกินเหตุ

7. ไม่จับผิดลูก

ในบ้านที่มีกัน 3 คนพ่อแม่ลูก หากพ่อแม่ร่วมมือร่วมใจกันจับผิดลูก เด็กน้อยคงรู้สึกหัวเดียวกระเทียมลีบ ในกรณีนี้พ่อแม่ต้องใจกว้างพอที่จะยอมรับว่า ความผิดพลาดนั้นเกิดขึ้นได้ และเป็นสิ่งที่ลูกต้องเรียนรู้ อย่าทำให้ลูกรู้สึกเหมือนพ่อแม่รวมหัวกันกลั่นแกล้งเขาเลย หากพ่อแม่ต้องการวางกฎเกณฑ์ต่างๆ ก็ควรทำด้วยความรักและความเข้าใจในตัวลูก เพราะในท้ายที่สุดแล้ว สิ่งเหล่านี้จะไปทำลายความมั่นใจในตัวลูกของคุณในที่สุด

8. ให้ลูกมีความคิดที่อิสระ

คุณกับลูกคือคนละคน คนละชีวิต อย่าเอาชีวิตลูกมาผูกกับคุณ หรือเอาชีวิตคุณไปผูกกับลูก ปล่อยให้เขามีอิสระในการตัดสินใจ โดยมีแม่คอยดูแลและห่วงใยก็เพียงพอ

9. ไม่ลืมให้เวลากับตัวเองบ้าง

ควรหาโอกาสพักผ่อนบ้างเมื่อเหนื่อยกับการเลี้ยงลูก โดยไม่จำเป็นต้องรู้สึกผิดหรือโทษตัวเองเมื่อแอบลูกไปเที่ยว เพราะลูกก็ต้องการให้แม่มีความสุขเช่นกัน

ที่มา : www.misbook.com

Writer Profile : nunzmoko

  • Blog :
  • Social Media :

  • Official Sponsors :
  • Samitivej Hospital

Generic placeholder image

บทความที่เกี่ยวข้อง



วิธีรับมือเมื่อลูกอาละวาด
เด็กอายุ 2-5 ขวบ
เพลงฮิตที่คุณแม่มักกล่อมลูกน้อยหลับ
กิจกรรมของครอบครัว
12 ข้อดีจากการให้นมแม่
เตรียมตัวเป็นแม่
พาทัวร์โปรโมชั่นเด็ดงาน Baby&Kid Best Buy 1-4 มิ.ย.
เตรียมตัวเป็นแม่
Update
Banner Banner
เมื่อคุณแม่หลายท่านเป็นกังวลกับเรื่องพัฒนาการสมองและภูมิคุ้มกันที่แตกต่างกันของลูกน้อยที่ผ่าคลอดกับเด็กคลอดธรรมชาติ กลัวว่าลูกน้อยจะมีโอกาสป่วยง่ายหรือมีพัฒนาการสมองช้ากว่าเพื่อนๆ ทำให้คุณแม่ต้องใส่ใจกับการดูแลลูกน้อยมากยิ่งขึ้น เสมือนการเร่งเสริมสร้างเกราะคุ้มกันให้ลูกน้อยเติบโตพร้อมปรับตัวกับโลกยุคใหม่ที่เต็มไปด้วยการเปลี่ยนแปลง วันนี้เราจะพาไปดูเคล็ดไม่ลับ ฉบับการดูแลพัฒนาการสมองของลูกน้อยและภูมิคุ้มกันของเด็กผ่าคลอดที่คุณแม่ไม่ควรมองข้าม ช่วยเติมเต็มในสิ่งที่ลูกผ่าคลอดต้องการได้ ไปดูกันเลย! เกราะคุ้มกันแรกที่หายไปของเด็กผ่าคลอด เด็กผ่าคลอดมักจะป่วยง่ายหรือมีปัญหาสุขภาพมากกว่าเด็กที่คลอดโดยธรรมชาติ เพราะสูญเสียโอกาสในการได้รับเชื้อจุลินทรีย์สุขภาพ ผ่านทางบริเวณช่องคลอดของคุณแม่ ทำให้เกราะคุ้มกันแรกเกิดของลูกน้อยผ่าคลอดหายไปส่งผลให้เด็กมีพัฒนาการทางระบบภูมิคุ้มกันตั้งต้นช้ากว่าเด็กที่คลอดตามธรรมชาติ บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) เป็นจุลินทรีย์ชนิดดีที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันตั้งต้น โดยเฉพาะระบบภูมิคุ้มกันในระบบทางเดินอาหาร คุณแม่จึงต้องเร่งเสริมสร้างเกราะคุ้มกันให้ลูกน้อยมีพื้นฐานที่ดีตั้งแต่เริ่มต้น เพื่อช่วยให้ลูกน้อยของเรามีมีระบบภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้น เสริมสร้างพัฒนาการด้านสมองของเด็กผ่าคลอดด้วย “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” คือสารอาหารที่พบมากในนมแม่ เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้การทำงานสมองของลูกน้อยมีประสิทธิภาพ สร้างสมองไวกว่าเดิม เชื่อมต่อเซลล์สมอง 1 แสนล้านเซล์ อัพเกรดเด็กเจนใหม่ โดยสร้างสารสื่อประสาทในสมอง และเพิ่มความเร็วการส่งสัญญาณประสาทแบบก้าวกระโดด “สฟิงโกไมอีลิน” คือ ไขมันกลุ่มฟอสโฟไลปิด พบได้มากในน้ำนมแม่ที่อุดมไปด้วยสารอาหารกว่า 200 ชนิด ซึ่ง “สฟิงโกไมอีลิน”เป็นองค์ประกอบในการสร้างปลอกไมอีลิน ซึ่งมีผลต่อการทำงานของสมองให้ส่งสัญญาณประสาทได้ไวและประมวลผลอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้เกิดการจดจำเร็ว เรียนรู้ไว สมองของเด็กผ่าคลอดและเด็กที่คลอดตามธรรมชาติ มีการสร้างไมอีลินในสมองแตกต่างกัน โดยเฉพาะที่ส่วนของสมอง ที่ทำหน้าที่เชื่อมโยงระหว่างสมองซีกซ้ายและซีกขวา คุณแม่จึงควรคำนึงถึงจุดเริ่มต้นที่แตกต่าง ของเด็กผ่าคลอดเจนใหม่ ด้วยการเตรียมสมองไวและภูมิคุ้มกันที่ดีด้วย “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” และ บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) จากนมแม่ให้ลูกน้อยยิ่งเริ่มเร็วก็ยิ่งดี เพราะพัฒนาการสมองที่ดีในวัยเด็ก ถือเป็นรากฐานสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการมองเห็น การได้ยิน หรือการเรียนรู้ภาษาสิ่งเหล่านี้ล้วนเกิดจากพัฒนาการของสมองเพราะสมองคือจุดเริ่มต้น ของทุกพัฒนาการของลูกน้อย เตรียมพร้อมเด็กผ่าคลอดให้มีสมองไวและภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้นได้ คุณแม่สามารถเติมเต็มในสิ่งที่ลูกน้อยผ่าคลอดต้องการได้ด้วยสารอาหารที่สำคัญอย่างเช่น “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” ที่ช่วยเพิ่มความเร็วในการส่งสัญญาณประสาทได้เร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น และโพรไบโอติก บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) ตัวช่วยที่ทำให้ลูกน้อยมีภูมิคุ้มกันสุขภาพที่ดี ดังนั้นคุณแม่ก็วางใจได้ หากเราเสริมสร้าง…
3 กันยายน 2568

anal porno zdarma culi nudi al mare free sex videos antalya escort

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save