fbpx

ความชอบของลูกสำคัญกับคุณแค่ไหน? จะเป็นยังไงถ้าเขาชอบอะไรไม่เหมือนใครแต่กลับไปไกลถึงระดับโลก

Writer : Lalimay
: 20 ธันวาคม 2561

– ความชอบของลูกจะพาให้ลูกโบยบินไปในจุดที่เขาต้องการ และความเชื่อมั่นของพ่อแม่คือลมใต้ปีกที่จะเป็นแรงผลักดันให้เขาบินได้ไกลและสูงขึ้นกว่าเดิม –

คุณเชื่อมั่นมากแค่ไหนว่าอนาคตของลูกจะดีได้จากสิ่งที่เขาชอบ? แล้วถ้าสิ่งนั้นเป็นเรื่องที่ออกนอกกรอบ อยู่นอกเหนือจากความคาดหวังของสังคม คุณคิดว่าจะยังสนับสนุนเขาได้อยู่ไหม?

นี่เป็นคำถามที่อาจจะทำให้คุณพ่อคุณแม่หลายคนคิดหนัก ใจหนึ่งก็อยากจะผลักดันให้ลูกไปได้สุดทาง ให้เขาได้ทำในสิ่งที่เขารักและมีความสุขกันเส้นทางที่เลือก แต่ก็มีเสียงหนึ่งที่ดังขึ้นมาอยู่ตลอดว่า ถ้าลูกไม่ประสบความสำเร็จ ถ้าทางที่เขาเลือกมันไม่ได้ดีอย่างที่เขาคิดล่ะ…

เสียงเหล่านั้นเป็นเสียงที่ดังก้องอยู่ในหัวของคนเป็นพ่อแม่ทุกครั้งที่ลูกกำลังจะตัดสินใจเลือกเส้นทางใหม่ แต่เสียงเหล่านั้นกลายเป็นกับดักที่ฉุดรั้งไม่ให้ลูกเดินหน้าต่ออยู่รึเปล่า ลองเปลี่ยนเสียงเหล่านั้นให้กลายเป็นเสียงแห่งกำลังใจและเชื่อมั่นในสิ่งที่ลูกตั้งใจทำดูไหมคะ เริ่มง่ายๆ แค่ 2 ขั้นตอนเท่านั้นเอง

1. ให้ลูกคิดและตัดสินใจอะไรด้วยตัวเอง ปล่อยให้เขาได้ลองเผชิญสิ่งต่างๆ ด้วยตัวเองบ้าง แน่นอนว่าพ่อแม่ทุกคนย่อมหวังดีและอยากปกป้องลูก เพราะความเป็นห่วง ซึ่งจริงๆ ความเป็นห่วงไม่เคยทำร้ายใคร แต่ถ้ามันมากเกินไปก็อาจจะไม่ใช่เรื่องที่ดีนัก การที่ให้ลูกลองคิดเอง เดินตามเส้นทางของตัวเองก็จะทำให้เขาโตขึ้น พร้อมเผชิญหน้ากับโลกแห่งความเป็นจริงในอนาคต

และสิ่งสำคัญที่พ่อแม่ทำได้คือการให้คำแนะนำพร้อมเป็นที่ปรึกษาที่ดี และกล้าที่จะเชื่อมั่นในตัวลูก อยากให้มั่นใจว่าในเมื่อเราสอนลูกมาดีก็ต้องคิดว่าลูกจะทำได้ดีเช่นกัน

2. เอาใจใส่แต่ไม่ใช่แทรกแซง กำลังใจและแรงสนับสนุนคือสิ่งสำคัญที่จะทำให้ลูกสามารถก้าวไปข้างหน้าได้อย่างมั่นคง ถึงแม้ว่าบางครั้งเขาอาจจะทำเป็นไม่อยากให้พ่อแม่สนใจ แต่เชื่อเถอะว่าจริงๆ แล้วเขาก็ยังอยากได้รับความสนใจจากครอบครัวอยู่ดี สิ่งที่พ่อแม่ทำได้คือให้ความสนใจในสิ่งที่เขากำลังทำ ทำให้ลูกเห็นว่านี่คือการเป็นห่วงไม่ใช่การจ้องจับผิดหรือกีดกัน

หากยังไม่มั่นใจว่าจะเชื่อมั่นในตัวของลูกได้มากแค่ไหน ลองมาอ่านและฟังตัวอย่างของพ่อแม่ที่เชื่อในสิ่งที่ลูกชอบกันดีกว่าค่ะ

:: e-Sport เป็นกีฬาหรือข้ออ้างของเด็กติดเกม? ::

เชื่อเลยว่าไม่มีพ่อแม่คนไหนที่อยากให้ลูกเป็น “เด็กติดเกม” แต่ถ้าเกมเหล่านั้นเป็นสิ่งที่ลูกชอบและมันสามารถเป็นอาชีพได้ คุณจะยังมองว่าลูก…เป็นเด็กติดเกมอยู่หรือเปล่า

มีครอบครัวหนึ่งที่คุณแม่เป็นผู้ที่หยิบยื่นเกมให้กับลูกชายด้วยตัวเอง จากเสียงของคนรอบข้างที่บอกว่าลูกชายของเธอเป็นเด็กติดเกม วันนี้ ฮิวโก้ – พงศ์ปณต เรืองอารีรัตน์ ได้ก้าวผ่านคำว่าเด็กติดเกมที่คนแถวบ้านมอบให้ กลายมาเป็นนักกีฬา e-Sport มืออาชีพ

ใครจะคิดว่าการเล่นเกมจะทำให้เด็กคนหนึ่งตั้งใจเรียนมากขึ้นกว่าเดิม เพียงเพราะอยากให้พ่อกับแม่อนุญาตให้ตัวเองเล่นเกมต่อไปได้ จนสามารถสอบเข้าสถาปัต จุฬาฯ พร้อมๆ กับการแข่งขันกีฬา e-Sport จนเป็นแชมป์ในหลายทัวร์นาเมนท์ เรื่องราวจะไม่ดำเนินมาจนถึงจุดนี้ ถ้าแม่บังคับให้เขาเลิกเล่นเกม ถ้าแม่ไม่เชื่อว่าเขาจะสามารถเดินในเส้นทางนี้ได้ ถ้าไม่มีความเข้าใจของแม่ผู้ที่เป็นเหมือนลมใต้ปีก ทำให้ฮิวโก้บินไปได้ไกลและปกป้องแม่จากคำสบประมาทของคนรอบข้างได้

ชมวิดีโอสัมภาษณ์ :

:: สนุกเกอร์ กีฬาสีเทาๆ ที่อาจทำให้ลูก ‘เสียเด็ก’ ? ::

สนุกเกอร์ เป็นกีฬาที่ (คิดไว้ว่า) เหมาะสำหรับผู้ใหญ่ กีฬาสีเทาๆ ดำๆ ที่ถูกมองว่าเล่นเพื่อการพนันมากกว่ากีฬาจริงๆ จังๆ แต่ใครจะไปรู้ว่าเมื่อ 10 กว่าปีก่อน มีเด็กชายอายุ 8 ขวบคนหนึ่ง สนใจที่จะเล่นสนุกเกอร์อย่างจริงจัง โดยมีพ่อเป็นผู้สนับสนุน และร่วมกันก้าวข้ามคำเหยียดหยามดูถูกของคนรอบข้าง จนในวันนี้เด็กชายคนนั้นได้กลายมาเป็นโปรสนุกเกอร์อาชีพโลก…

ซันนี่ – อรรคนิธิ์ ส่งเสริมสวัสดิ์ หรือ ซันนี่ สายล่อฟ้า คือชื่อของเขา

เด็กตัวเล็กๆ คนหนึ่งคงจะไม่สามารถเติบโตขึ้นมาและประสบความสำเร็จในเส้นทางที่ใครๆ ก็มองว่าเป็นสีเทาแก่ได้เลย หากไม่มีคนที่คอยยืนหยัดเคียงข้างและเชื่อในสิ่งที่เขาชอบ คงพูดได้อย่างเต็มปากว่าความสำเร็จครึ่งหนึ่งในสายอาชีพนี้ของซันนี่ มาจากคุณพ่อสรายุทธ ส่งเสริมสวัสดิ์ ผู้ที่เป็นทั้งพ่อและโค้ชที่เรียนรู้การเป็นนักสนุกเกอร์ไปพร้อมกับลูก

ในวันที่ลูกเลือกเส้นทางนี้ และใครๆ ก็ต่างพูดว่า “จะดีหรอ ระวังเสียเด็กนะ” คนเป็นพ่อคนนี้กลับมองว่าเป็นเรื่องที่ดีเสียอีก ให้เขาได้เจอและได้รู้ว่า ไอ้เส้นทางที่ว่ามืดหรือมีสีเทาแก่ๆ มันหน้าตาเป็นยังไง และพ่อคนนี้นี่แหละพร้อมที่จะอยู่เคียงข้างและสนับสนุนทุกความเชื่อในชีวิตของลูก

ชมวิดีโอสัมภาษณ์ :

 

ลองตั้งใจฟังเสียงของลูก เชื่อมั่นและสนับสนุนในสิ่งที่เขาชอบดูสักตั้ง คอยอยู่เคียงข้าง เอาใจใส่ ให้กำลังใจ และปล่อยให้เขาได้ค้นหาศักยภาพของตัวเองอย่างเต็มที่ ถึงจะล้มจะพลาด แต่ยังไงคุณพ่อคุณแม่ก็พร้อมอยู่เคียงข้างลูกอยู่แล้วนี่นา ใช่ไหมคะ?

ขอรับ Booklet ‘สร้างอนาคตที่ใช่ จากสิ่งที่ลูกชอบ เพื่ออ่านเรื่องราวแห่งแรงบันดาลใจในการเลี้ยงลูก จะได้สนุบสนุนในสิ่งที่ลูกรัก เพื่ออนาคตที่ยิ่งใหญ่ในแบบของเขาได้แล้ววันนี้ที่ LINE @s-momclub หรือ 02-640-2288 หากต้องการรูปแบบ e-book สามารถดาวน์โหลดได้ที่นี่ http://bit.ly/2Pgjvlx

Writer Profile : Lalimay

  • Blog :

  • Official Sponsors :
  • Samitivej Hospital

Generic placeholder image

บทความที่เกี่ยวข้อง



Update
Banner Banner
เมื่อคุณแม่หลายท่านเป็นกังวลกับเรื่องพัฒนาการสมองและภูมิคุ้มกันที่แตกต่างกันของลูกน้อยที่ผ่าคลอดกับเด็กคลอดธรรมชาติ กลัวว่าลูกน้อยจะมีโอกาสป่วยง่ายหรือมีพัฒนาการสมองช้ากว่าเพื่อนๆ ทำให้คุณแม่ต้องใส่ใจกับการดูแลลูกน้อยมากยิ่งขึ้น เสมือนการเร่งเสริมสร้างเกราะคุ้มกันให้ลูกน้อยเติบโตพร้อมปรับตัวกับโลกยุคใหม่ที่เต็มไปด้วยการเปลี่ยนแปลง วันนี้เราจะพาไปดูเคล็ดไม่ลับ ฉบับการดูแลพัฒนาการสมองของลูกน้อยและภูมิคุ้มกันของเด็กผ่าคลอดที่คุณแม่ไม่ควรมองข้าม ช่วยเติมเต็มในสิ่งที่ลูกผ่าคลอดต้องการได้ ไปดูกันเลย! เกราะคุ้มกันแรกที่หายไปของเด็กผ่าคลอด เด็กผ่าคลอดมักจะป่วยง่ายหรือมีปัญหาสุขภาพมากกว่าเด็กที่คลอดโดยธรรมชาติ เพราะสูญเสียโอกาสในการได้รับเชื้อจุลินทรีย์สุขภาพ ผ่านทางบริเวณช่องคลอดของคุณแม่ ทำให้เกราะคุ้มกันแรกเกิดของลูกน้อยผ่าคลอดหายไปส่งผลให้เด็กมีพัฒนาการทางระบบภูมิคุ้มกันตั้งต้นช้ากว่าเด็กที่คลอดตามธรรมชาติ บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) เป็นจุลินทรีย์ชนิดดีที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันตั้งต้น โดยเฉพาะระบบภูมิคุ้มกันในระบบทางเดินอาหาร คุณแม่จึงต้องเร่งเสริมสร้างเกราะคุ้มกันให้ลูกน้อยมีพื้นฐานที่ดีตั้งแต่เริ่มต้น เพื่อช่วยให้ลูกน้อยของเรามีมีระบบภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้น เสริมสร้างพัฒนาการด้านสมองของเด็กผ่าคลอดด้วย “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” คือสารอาหารที่พบมากในนมแม่ เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้การทำงานสมองของลูกน้อยมีประสิทธิภาพ สร้างสมองไวกว่าเดิม เชื่อมต่อเซลล์สมอง 1 แสนล้านเซล์ อัพเกรดเด็กเจนใหม่ โดยสร้างสารสื่อประสาทในสมอง และเพิ่มความเร็วการส่งสัญญาณประสาทแบบก้าวกระโดด “สฟิงโกไมอีลิน” คือ ไขมันกลุ่มฟอสโฟไลปิด พบได้มากในน้ำนมแม่ที่อุดมไปด้วยสารอาหารกว่า 200 ชนิด ซึ่ง “สฟิงโกไมอีลิน”เป็นองค์ประกอบในการสร้างปลอกไมอีลิน ซึ่งมีผลต่อการทำงานของสมองให้ส่งสัญญาณประสาทได้ไวและประมวลผลอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้เกิดการจดจำเร็ว เรียนรู้ไว สมองของเด็กผ่าคลอดและเด็กที่คลอดตามธรรมชาติ มีการสร้างไมอีลินในสมองแตกต่างกัน โดยเฉพาะที่ส่วนของสมอง ที่ทำหน้าที่เชื่อมโยงระหว่างสมองซีกซ้ายและซีกขวา คุณแม่จึงควรคำนึงถึงจุดเริ่มต้นที่แตกต่าง ของเด็กผ่าคลอดเจนใหม่ ด้วยการเตรียมสมองไวและภูมิคุ้มกันที่ดีด้วย “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” และ บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) จากนมแม่ให้ลูกน้อยยิ่งเริ่มเร็วก็ยิ่งดี เพราะพัฒนาการสมองที่ดีในวัยเด็ก ถือเป็นรากฐานสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการมองเห็น การได้ยิน หรือการเรียนรู้ภาษาสิ่งเหล่านี้ล้วนเกิดจากพัฒนาการของสมองเพราะสมองคือจุดเริ่มต้น ของทุกพัฒนาการของลูกน้อย เตรียมพร้อมเด็กผ่าคลอดให้มีสมองไวและภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้นได้ คุณแม่สามารถเติมเต็มในสิ่งที่ลูกน้อยผ่าคลอดต้องการได้ด้วยสารอาหารที่สำคัญอย่างเช่น “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” ที่ช่วยเพิ่มความเร็วในการส่งสัญญาณประสาทได้เร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น และโพรไบโอติก บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) ตัวช่วยที่ทำให้ลูกน้อยมีภูมิคุ้มกันสุขภาพที่ดี ดังนั้นคุณแม่ก็วางใจได้ หากเราเสริมสร้าง…
3 กันยายน 2568

anal porno zdarma culi nudi al mare free sex videos antalya escort

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save