นกพิราบเป็นสัตว์ที่พบเห็นได้ทั่วไป ซึ่งบ่อยครั้งที่เราเห็นว่าพ่อแม่มักจะพาเด็กๆ มาให้อาหารนกหรือวิ่งไล่นกที่อยู่บนพื้นให้แตกฝูงนั่นอาจทำให้ลูกเป็นอันตรายจากการเสี่ยงติดโรคคริปโตคอกโคสิสจากการติดเชื้อราในมูลนกได้
นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข และโฆษกกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ช่วงนี้อากาศชื้นเพราะฝนตกบ่อยจึงทำให้เชื้อโรคเจริญเติบโตได้ดี นอกจากโรคในหน้าฝนที่ทุกคนรู้จักกันอยู่แล้ว อีกโรคที่น่าห่วงคือ โรคคริปโตคอกโคสิสจากการติดเชื้อราในมูลนก โดยเฉพาะนกพิราบ ซึ่งมักอาศัยตามที่สาธารณะหรือมาเกาะอาศัย ทำรังอยู่บนหลังคา ฝ้าเพดานบ้าน และยังพบในมูลนกอื่นๆ ที่ผู้คนมักเลี้ยงไว้ เช่น นกหงส์หยก นกแก้ว นกกระตั้ว นกแขกเต้า นกเอี้ยง นกเขา ไก่ อีกด้วย
สำหรับเชื้อราคริปโตคอคคัส นีโอฟอร์แมนส์ (Cryptococcus Neoformans) ที่อยู่ในมูลนกนั้น เมื่อหายใจเอาสปอร์ราหรือเชื้อราในมูลนกที่ถูกพัดกระจายในอากาศเข้าไป จะทำให้เกิดการติดเชื้อที่ปอดและสมอง มีอาการไข้ ไอเป็นเลือด เจ็บหน้าอก มีปัญหาทางการมองเห็น มึนงง หากมีการติดเชื้อที่สมองจะมีอาการสับสน และพฤติกรรมเปลี่ยนแปลงไป
โดยผู้ที่ที่เป็นกลุ่มเสี่ยงติดเชื้อง่ายคือ เด็กเล็ก ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยโรคมะเร็ง คนที่มีภูมิคุ้มกันร่างกายต่ำ อาจมีอาการรุนแรงและรักษายากกว่าคนปกติ พ่อแม่หรือคนดูแลจึงควรป้องกันไม่ให้เข้าใกล้นกหรือบริเวณที่นกอาศัยอยู่ รวมไปถึงกรงนกเลี้ยงที่ไม่ได้ทำความสะอาดอีกทั้งไล่นกพิราบไม่ให้มาอาศัยอยู่ในบ้าน เช่น การกั้นด้วยตาข่าย การใช้เข็มขัดรัดสายไฟมัดที่ระเบียงที่นกชอบเกาะ กำจัดรังนก เพื่อลดความเสี่ยงติดโรคนี้
อ้างอิงจาก
