ผ้าอ้อมและผ้าอ้อมสำเร็จรูป (ในที่นี้ขอเรียกว่า ‘แพมเพิส’ นะคะ) เป็นของใช้สำคัญสำหรับเจ้าตัวเล็ก ทั้งช่วยห่อตัวลูก และรองรับของเสียจากร่างกาย เพราะเด็กทารกยังไม่สามารถควบคุมการขับถ่ายรวมไปถึงบอกว่าตัวเองอยากฉี่หรืออึได้ ผ้าอ้อมและแพมเพิสจึงเป็นตัวช่วยสำหรับคุณพ่อคุณแม่ในการรองรับของเสียจากลูกนั่นเอง
วัสดุที่ใช้ในผ้าอ้อมและแพมเพิส
ผ้าอ้อมส่วนใหญ่ทำมาจากผ้าที่ระบายอากาศได้ดี เช่น
- ผ้าสาลู : ทอหลวมๆ ไม่ฟอก ไม่ย้อมสี ซักแล้วไม่เป็นขน ระบายอากาศได้ดี แห้งไว
- ผ้าสำลี : เนื้อแข็งกว่าผ้าสาลู ซักแล้วเป็นขุยง่าย และ เป็นเม็ดตามเนื้อผ้า มีความหนาและซึมซับได้ดี
- ผ้าฝ้าย : ผ้าลื่น มีขนและแข็งกว่าผ้าชนิดอื่นๆ ไม่เหมาะนำมาห่อเพื่อซับฉี่
แพมเพิสผลิตขึ้นมาเพื่อใช้ทดแทนผ้าอ้อมด้วยการนำความรู้ทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้ วัสดุด้านในส่วนใหญ่จะประกอบด้วยแผ่นใยสังเคราะห์ เยื่อกระดาษ โพลิเอทิลีน โพลียูรีเทน และกาว
ข้อดีของผ้าอ้อมและแพมเพิส
ผ้าอ้อม
- ประหยัด ใช้ซ้ำได้หลายรอบ : ผ้าอ้อม 1 ผืนสามารถวนใช้ได้นานตลอดอายุการใช้งาน ใช้แล้วก็ซักนำกลับมาใช้ซ้ำได้อีก
- ระบายอากาศได้ดี : ผ้าย่อมระบายอากาศได้ดี ทำให้ลูกไม่อับชื้น
- มีโอกาสเกิดผื่นแพ้ผ้าอ้อมน้อย : เมื่อไม่อับชื้น ผื่นแพ้ผ้าอ้อมก็เกิดขึ้นได้น้อย
- ช่วยให้ลูกฝึกเข้าห้องน้ำได้ง่ายกว่า : เมื่อลูกฉี่ใส่ผ้าอ้อมจะทำให้เขารู้สึกเปียกแฉะ ไม่สบายตัว และทำให้รู้เปียกแฉะได้ง่ายกว่าการใส่แพมเพิส
แพมเพิส
- ซึมซับได้ดี : ด้วยเทคโนโลยีที่คิดค้นขึ้นมา ทำให้สามารถซึมซับได้ดีมากกว่าผ้าทั่วๆ ไป
- ไม่ต้องเปลี่ยนบ่อย : เมื่อซึมซับได้ดี ความเปียกชื้นก็ไม่ทะลุออกมานอกผ้า ทำให้ไม่ต้องเปลี่ยนบ่อยเมื่อลูกฉี่ เว้นเสียแต่ว่าลูกจะอึ ถึงต้องเปลี่ยน
- ใส่และถอดเปลี่ยนได้ง่าย : สวมใส่ง่ายมาก เพราะมีแถบกาวให้แปะ หรือบางรุ่นก็เป็นกางเกง แถมพอใช้เสร็จแค่ถอดแล้วม้วนทิ้ง ไม่จำเป็นต้องซักเหมือนกับผ้าอ้อม
ข้อเสียของผ้าอ้อมและแพมเพิส
ผ้าอ้อม
- สวมใส่ยาก : ผ้าอ้อมต้องใช้เข็มกลัดและสกิลในการกลัดผ้าให้อยู่ เลยอาจทำให้ลำบาก ยิ่งเวลาลูกดิ้นก็ยิ่งใส่ยากขึ้นไปอีก
- ซึบซับได้ไม่ดีมากนัก : ข้อจำกัดของผ้าก็คือเรื่องการซึมซับ ที่อาจซึมซับได้ไม่ดีเท่าไหร่นัก เมื่อลูกฉี่เพียงครั้งเดียวก็เปียกแฉะจนต้องเปลี่ยนผ้าอ้อมแล้ว
- ไม่สะดวกเวลาใช้งานนอกบ้าน : เมื่อออกไปนอกบ้านหากลูกฉี่หรืออึขึ้นมา ก็ต้องเปลี่ยนผ้าอ้อมเดี๋ยวนั้น ไม่สามารถรอได้จึงค่อนข้างลำบากพอสมควร
- เสียเวลาซัก : ในแต่ละวัน คุณพ่อคุณแม่น่าจะต้องซักผ้าอ้อมจำนวนไม่น้อย เพราะเด็กๆ มักอึและฉี่บ่อยๆ ที่บ้านจึงต้องมีผ้าอ้อมไว้หลายโหลสำหรับสับเปลี่ยน
แพมเพิส
- ราคาสูง : ราคาต่อชิ้นของแพมเพิสค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับผ้าอ้อม อีกทั้งยังใช้แล้วทิ้ง ไม่สามารถมาใช้ซ้ำได้
- ไม่ค่อยระบายอากาศ : แพมเพิสค่อนข้างอบเพราะมีแผ่นซึมซับหลายชั้น
- อาจเกิดการระคายเคืองได้ง่ายกว่า : การอับชื้นเพราะระบายอากาศไม่ดีก็อาจทำให้ก้นของลูกเกิดการระคายเคืองได้
- เกิดขยะได้มากกว่า : เมื่อไม่สามารถใช้ซ่ำได้ก็ย่อมก่อให้เกิดขยะมากกว่า โดยเฉลี่ยแต่ละปีมีขยะที่เกิดจากแพมเพิสมากถึง 3.4 ล้านตันต่อปี
นี่เป็นเพียงข้อเท็จจริงของการใช้ผ้าอ้อมและแพมเพิสเท่านั้นนะคะ จริงๆ แล้วคุณพ่อคุณแม่จะใช้ผ้าอ้อมหรือแพมเพิสก็ขึ้นอยู่กับความสะดวกของแต่ละบ้านนะคะ เลือกใช้ได้ตามความชอบและความเหมาะสมเลยค่า
ข้อมูลอ้างอิง
