fbpx

เมื่อลูกเป็นเด็กขี้หวงของ ควรทำอย่างไรดี

Writer : Jicko
: 22 มกราคม 2562

คุณพ่อคุณแม่มักจะพบเจอพฤติกรรมการหวงสิ่งของของลูกเป็นเรื่องปกติ ยิ่งถ้าเป็นช่วงวัยอนุบาลมักมีพฤติกรรมนั้นได้ง่าย เด็กบางคนหวงของมากชนิดที่เรียกได้ว่า คุณพ่อคุณแม่ห้ามแตะต้องของเลยนะคะ

แต่คุณพ่อคุณแม่ไม่ต้องกลุ้มใจไปเลยค่ะ วันนี้ทาง Parentsone เลยนำข้อมูลเกี่ยวกับพฤติกรรมการหวงสิ่งของของเด็กๆ มาให้คุณพ่อคุณแม่ที่กำลังมีปัญหากันอยู่ เพื่อปรับเปลี่ยนหนูน้อยจากเด็กเอาแต่ใจหวงของ ให้กลายเป็นเด็กดีมีน้ำใจนั้นเอง  สาเหตุ และวิธีแก้ไขจะเป็นยังไงบ้าง ตามไปดูกันเลยค่ะ

ช่วงอายุที่เจอปัญหาการหวงของ

พ.ท.นพ.กมล แสงทองศรีกมล แพทย์สาขากุมารเวชศาสตร์ จิตเวชเด็ก และวัยรุ่น โรงพยาบาลกรุงเทพ กล่าวถึงอาการขี้หวงของในเด็ก กล่าวว่า อาการของเด็กที่มีภาวะทางอารมณ์ประเภทหนึ่ง พบได้บ่อยในเด็กอายุ 3-5 ขวบ หรือวัยกำลังเรียนอนุบาล ซึ่งเป็นพัฒนาการตามวัย ที่มักเกิดขึ้นได้กับเด็กๆ ทุกคน

สาเหตุสำคัญ

  • ส่ิงของนั้นไม่เคยห่างลูกเลย

เด็กๆ มักจะคิดว่า ส่ิงของนั้นทำให้เด็กๆ รู้สึกอบอุ่นและอุ่นใจ มีเพื่อนข้างกายตลอดเวลา สังเกตได้ว่าเขามักจะอุ้มหิ้วไปหิ้วมา ไปไหนต้องเอาไปด้วยตลอดเวลา พอหาไม่เจอก็นอนไม่หลับ ร้องไห้ ซึ่งไม่เหมือนกับพ่อแม่ หรือเพื่อนที่โรงเรียน ซึ่งยังไงก็ต้องหายหน้า ห่างหายกันไปค่ะ

  • เด็กๆ รู้สึกอิสระมากกว่า

เด็กๆ มักจะคิดว่าเขาจะทำอะไรกับเจ้าสิ่งนั้นก็ได้ตามใจชอบ เช่นอุ้มขึ้นรถจักรยาน หวีขนตุ๊กตา หรือแม้แต่จะพูดอะไรกับสิ่งของนั้นได้ตามใจชอบและแสดงอารมณ์กับสิ่งของนั้นได้อย่างเต็มที่ จึงทำให้เขารักและรู้สึกหวงสิ่งของนั้นขึ้นมาทันทีนั้นเองค่ะ

  • มีความเป็นตัวของตัวเอง

เมื่อถึงวัยที่เร่ิมจะหวงของและมีของสิ่งใดสิ่งหนึ่งเป็นของตัวเองขึ้นมา เขาก็มักจะหวงสิ่งนั้นทันที เพราะเมื่อก่อนเขาคิดว่าของทุกอย่างเป็นของคุณแม่ พอโตขึ้นเขาจะรู้ว่าเขามีของของตัวเอง เช่น ผ้าห่ม ตุ๊กตา หมอนข้าง เหล่านี้ อะไรที่เป็นของเขาก็มักจะหวงทันที เด็กมักพูดว่า “ของหนูๆ ” นั้นไงละคะ

  • การเลี้ยงดูของพ่อแม่

เช่น พ่อแม่ส่วนใหญ่มักจะมีลูก 2 คน และคุณพ่อคุณแม่ก็มักจะบอกให้พี่คนโตเสียสละของเล่นให้กับน้องคนเล็ก ทั้งๆ ที่เป็นของของพี่ ทำให้พี่รู้สึกว่าตัวเองถูกละเมิดสิทธิ์ จนทำให้คนที่เป็นพี่กลายเป็นคนอารมณ์หงุดหงิดง่าย และเมื่อเวลามีเพื่อนมายืมของเล่น ก็จะเกิดอาการหวงมากกว่าปกติ เพราะตัวเองถูกน้องที่บ้านละเมิดสิทธิ์เป็นประจำ ส่วนของน้องก็จะกลายเป็นคนเอาแต่ใจและละเมิดสิทธิ์ของคนอื่นได้ง่ายนั้นเองค่ะ

 

วิธีปรับพฤติกรรมเมื่อลูกหวงสิ่งของ

  • ไม่ควรลงโทษให้ลูกรู้สึกอาย

เมื่อลูกงอแง หวงของไม่ยอมแบ่งปัน คุณพ่อคุณแม่ไม่ควรลงโทษให้เด็กๆ รู้สึกอายหรือเสียหน้า เพราะพฤติกรรมนั้นจะทำให้เด็กๆ รู้สึกถูกทอดทิ้ง และเขาจะกลายเป็นเด็กก้าวร้าวมากขึ้นนั้นเองค่ะ หากอยากจะสอนให้ลูกรู้สึกแบ่งปันคุณพ่อคุณแม่ควรต้องใจเย็นๆ แล้วสอนลูกอย่างมีเหตุผลนะคะ

  • คุณพ่อคุณแม่ควรเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับลูก

การเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับลูกไม่ว่าจะเรื่องอะไรก็ตาม เด็กๆ มักจะจดจำพฤติกรรมและเลียนแบบจากผู้ใหญ่ ถ้าคุณพ่อคุณแม่ทำให้ลูกเห็นเป็นประจำว่าคุณพ่อคุณแม่มีน้ำใจ และแบ่งปันเสมอ เด็กๆ ก็จะได้แบบอย่างที่ดีจากคุณพ่อคุณแม่และจดจำการมีน้ำใจและเลียนแบบพฤติกรรมที่ดีนี้นั้นเอง

  • ชื่นชมเมื่อลูกแบ่งปันของให้กับผู้อื่น

เมื่อเด็กๆ รู้จักแบ่งปัน คุณพ่อคุณแม่ควรกล่าวชื่นชมลูก เพื่อให้เขารู้สึกว่าเขาเป็นเด็กดี และจะได้ทำในครั้งต่อๆ ไป แต่ในทางกลับกันคุณพ่อคุณแม่ก็อาจจะชมเชยผู้อื่นให้ลูกเห็นเมื่อลูกได้รับการแบ่งปันจากผู้อื่นด้วยเช่นกันค่ะ

  • สร้างสถานการณ์ให้ลูก

เมื่อคุณพ่อคุณแม่เห็นว่าเด็กๆ เริ่มเอาแต่ใจหรือเริ่มหวงของขึ้นมา คุณพ่อคุณแม่อาจจะสร้างสถานการณ์สอนให้เด็กๆ มีน้ำใจแบ่งปันผู้อื่น อาจจะเริ่มจากการปล่อยให้เด็กๆ ไปเล่นกับเพื่อนๆ และในขณะนั้น คุณพ่อคุณแม่ก็สร้างสถานการณ์การเล่นที่สนุกขึ้นมาอีกจุดหนึ่ง อีกไม่นานเด็กๆ ก็จะมาเล่นด้วย จากนั้นคุณพ่อคุณแม่อาจจะพูดกับลูกว่า “หนูพร้อมที่จะแบ่งของเล่นกับเพื่อนๆ แล้วใช่ไหมคะ ตอนนี้แม่พร้อมที่จะแบ่งให้หนูเล่นเหมือนกัน เรามาเล่นด้วยกันเถอะ” เป็นต้น แค่นี้เด็กๆ ก็จะรู้จักแบ่งปันไม่หวงของอีกต่อไปนั้นเองค่ะ

  • อธิบายเหตุผลเมื่อหยิบของของลูกไป เพื่อให้ลูกเข้าใจ

เด็กๆ ทุกคนมักจะเข้าใจว่าเวลาใครก็ตามที่หยิบของของเขาไป เด็กๆ มักจะเข้าใจว่าคนที่หยิบของไปนั้นคือคนที่แย่งของของเขาไป ดังนั้นเพื่อไม่ให้ลูกของเราเข้าใจผิด คุณพ่อคุณแม่เมื่อเวลาหยิบของของลูกไปทำอะไรก็ตาม ควรบอกเหตุผล เช่น แม่ขอหยิบหมอนของหนูไปทำความสะอาดแปปนึงนะคะลูก เพราะเจ้าหมอนของลูกมันไม่สะอาดมันจะทำให้หนูป่วยได้นะคะ อีกทั้งต้องสอนให้เด็กๆ รู้ว่าของทุกชิ้นในบ้านไม่ได้เป็นของเขาคนเดียว บางอย่างสามารถใช้ร่วมกันได้ เช่น ทีวี เก้าอี้ โซฟา ที่นอน เป็นต้น

  • สอนให้ลูกเคารพสิทธิ์ของคนอื่น

คุณพ่อคุณแม่ควรสอนให้เด็กๆ รู้จักเคารพสิทธิ์ของคนอื่น เช่น เวลาที่น้องจะเล่นของของพี่ ควรสอนให้เขารู้จักขออนุญาตพี่ก่อน หรือรอให้พี่คนโตเล่นเสร็จนก่อน เพื่อไม่ให้พี่คนโตรู้สึกน้อยใจ หรือรู้สึกเสียสละทุกเรื่อง ดังนั้นเมื่อลูกคนโตได้รับการยอมรับตามสถานภาพที่เหมาะสม การแบ่งปันจะตามมาเองค่ะ

 

ข้อมูลอ้างอิงจาก : nestlebabyislammorerakluke

Writer Profile : Jicko

  • Social Media :

  • Official Sponsors :
  • Samitivej Hospital

Generic placeholder image

บทความที่เกี่ยวข้อง



จะรู้ได้ยังไง ว่าลูกเป็น “สมาธิสั้น”
เตรียมตัวเป็นแม่
Update
ไลฟ์สไตล์ ไลฟ์สไตล์
เคยกลับบ้านมาแล้วกรี๊ดลั่นบ้านเพราะเจ้าตัวแสบไปวิ่งเล่นเลอะเทอะกันไหมคะ ? หรือแต่งตัวลูกอย่างดีไปทานข้าวนอกบ้าน แต่คุณลูกก็ทำซอสหกใส่ ไอติมหล่นไปเป็นก้อน เละทั้งตัว วันนี้ ParentsOne มีเสื้อเด็กที่เจ๋งมากๆ จาก GQ : the good day lab™ มาลองรีวิวให้ได้ชมกันค่ะ 🛒 ช้อปเลยที่ -> https://gqsize.link/bZT7Sx แกะกล่อง GQ : the good day lab™ เสื้อเด็ก ฟีเจอร์เพียบ คุณภาพ GQ ขึ้นชื่อว่า GQ ก็มั่นใจได้เรื่องคุณภาพค่ะ ผ้านุ่ม เบาบาง เหมาะกับอากาศเมืองไทย ใส่วิ่งสบายๆ ที่แปลกตาคือเป็นเสื้อที่ไม่มีป้ายแท็กค่ะ ทั้งด้านหลังคอเสื้อ หรือข้างใน ไม่ต้องห่วงว่าจะเคืองหรือคันเลย กระดุมแข็งแรงเอามากๆ ใช้แรงผู้ใหญ่ดึงแรงๆ ก็ไม่มีปัญหาเลย ไฮไลท์สำคัญที่คุณแม่แทบกรี๊ด คือเป็นไม่เปื้อนค่าาาา เทน้ำ เทนมใส่เสื้อ ไม่เปียกเลย สะบัดสองที หายปกติ ซึ่งถ้าใครเคยเห็นโฆษณา GQ ที่เสื้อเชิ้ตขาวไปทำงานคุณพ่อ โดนกาแฟหกใส่ แต่ผ้าไม่เปื้อนเลย เทคโนโลยีผ้าสะท้อนน้ำ ตอนนี้มาอยู่ในเสื้อเด็กแล้ววววว ทีมงานทดสอบเทน้ำสีผสมอาหาร นม หรือแม้แต่ซอสมะเขือเทศลงบนเสื้อ ก็ไม่เปื้อนค่ะ ไม่น่าเชื่อมากๆ ข้อดีที่สุดของผ้าแบบนี้ คือทำให้ชีวิตคุณแม่สบายขึ้นมาก พาลูกไปเที่ยว วิ่งเล่นสนามหญ้า พาไปทานก๋วยเตี๋ยว หรือให้ทานอะไร ก็ไม่ต้องกลัวเสื้อสวยๆ เลอะ แถมประหยัดเวลาซักผ้าด้วย ไม่ต้องมาคอยแช่ผ้าให้คราบมันออกแบบสมัยก่อน สำหรับเสื้อเด็ก the good day lab™…
8 ธันวาคม 2566

anal porno zdarma culi nudi al mare free sex videos antalya escort

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save