fbpx

พ่อแม่ต้องรู้ 8 เทคนิคง่ายๆ สร้างสมาธิให้เจ้าตัวเล็ก

Writer : Lalimay
: 4 เมษายน 2562

สมาธิเป็นสิ่งที่สำคัญที่จะทำให้ลูกจดจ่อกับสิ่งที่ทำ หรืออาจจะช่วยให้ลูกเรียนได้ดีขึ้น เด็กบางคนอาจมีสมาธิดีมาก แต่ในขณะที่บางคนอาจจะซุกซน อยู่เฉยๆ ไม่ได้ วิ่งวุ่นไปมา แต่ไม่ต้องเป็นกังวลไปค่ะ เพราะนั่นอาจจะเป็นพัฒนาการตามช่วงวัยของเขา วันนี้เราจึงมี 8 เทคนิคที่จะช่วยฝึกลูกให้มีสมาธิได้แบบง่ายๆ มาฝากค่ะ

จัดบ้านให้เรียบร้อย

คุณพ่อคุณแม่อาจสงสัยว่าการจัดบ้านมีผลต่อสมาธิของลูกยังไง จริงๆ เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ค่อนข้างสำคัญเลยค่ะ เพราะเวลาส่วนใหญ่ของเด็กเล็กจะจะให้เวลาอยู่ที่บ้านมากที่สุด หากบ้านรกหรือวุ่นวาย มีเสียงดังโครมครามตลอดเวลาก็จะทำให้สมาธิของลูกถูกเบี่ยงเบนความสนใจได้ง่าย ดังนั้นจึงควรจัดบ้านให้เป็นระเบียบ มีชั้นวางของจัดวางของเล่นให้เรียบร้อย เพราะถ้าหากของเล่นวางกระจัดกระจาย เวลาลูกก็จะเลือกไม่ถูกว่าจะเล่นอะไร เลยขาดสมาธิจ่ดจ่อกับสิ่งตรงหน้านั่นเอง

มีมุมสงบส่วนตัวให้ลูก

การที่ให้ลูกมีมุมส่วนตัวจะช่วยให้ลูกรู้สึกว่าตัวเองมีพื้นที่ที่จะจดจ่อกับอะไรบางอย่าง เพราะบางครั้งสภาพแวดล้อมภายในบ้านอาจจะไม่เหมาะสมกับการอ่านหนังสือหรือทำการบ้าน เมื่อมีมุมเฉพาะแล้วลูกก็จะรู้สึกว่ามีความเป็นส่วนตัวและมีสมาธิมากขึ้น

นอนหลับให้เพียงพอ

การนอนเป็นสิ่งสำคัญต่อการพัฒนาการด้านต่างๆ ของร่างกาย รวมไปถึงการสร้างสมาธิด้วย โดยเราควรให้ลูกนอน 7-9 ชั่วโมง ไม่ควรนอนน้อยกว่า 7 ชั่วโมง เพราะจะทำให้ลูกขาดสมาธิและมีความจำที่ไม่ค่อยดีนัก แต่การนอนเกิน 9 ชั่วโมงก็ไม่ใช่เรื่องที่ดี เพราะจะทำให้ลูกซึมเซา เบลอและไม่มีสมาธิ ส่งผลต่อประสิทธิภาพของความจำอีกด้วย

ศิลปะ-ดนตรีดีต่อสมาธิ

ดนตรีและศิลปะจะช่วยให้เกิดความสงบและผ่อนคลาย การทำศิลปะจะช่วยให้เด็กจดจ่อและมีสมาธิกับสิ่งตรงหน้าไม่ว่าจะเป็นการวาดรูป ระบายสี ปั้นดินน้ำมัน ส่วนดนตรีก็จะช่วยให้รู้สึกสงบโดยเฉพาะดนตรีคลาสสิกหรือเพลงบรรเลง ที่จะช่วยสร้างความจำ ทำให้ประสิทธิภาพการเรียนรู้ของลูกดีขึ้น

อ่านหนังสือหรือนิทาน

ขณะที่ลูกอยู่ต่อหน้าหนังสือหรือนิทาน ไม่ว่าจะอ่านให้ลูกฟังหรือลูกจะอ่านเองล้วนสร้างสมาธิทั้งนั้นค่ะ เพราะ การฟังจะทำให้ลูกจะมีสมาธิจดจ่ออยู่กับเรื่องราวและคิดตามสิ่งที่เล่า ส่วนถ้าอ่านเองก็จะเป็นการฝึกการออกเสียงพูด สะกดคำ ทำให้เด็กจดจ่ออยู่กับตัวหนังสือหรือตัวละครค่ะ

สวดมนต์นั่งสมาธิ

อาจเป็นวิธีที่ยากสักหน่อยสำหรับเด็กเล็กๆ แต่แรกเริ่มอาจจะให้ลูกลองนั่งนิ่งๆ สัก 5 นาทีพร้อมกับเปิดเพลงบรรเลงคลอเบาๆ เพื่อช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย ไม่กดดันลูกจนเกินไป หรือจะใช้การสวดมนต์ไหว้พระก่อนนอน การท่องบทสวดมนต์หรือบทอาขยานก็จะช่วยให้ลูกมีสมาธิมากขึ้นค่ะ

ออกกำลังกาย

การออกกำลังกายก็เป็นหนทางหนึ่งที่จะช่วยสร้างสมาธิได้ เพราะลูกจะจดจ่อกับสิ่งที่ทำโดยเฉพาะการเล่นโยคะที่เป็นกิจกรรมที่ต้องมีการควบคุมและจัดระเบียบร่างกาย ซึ่งจะช่วยเสริมพัฒนาการทั้งด้านร่างกาย อารมณ์ และสังคม ช่วยฝึกเรื่องสมาธิ ความนิ่งได้ค่ะ

ไม่เลี้ยงลูกด้วยทีวีหรือสมาร์ทโฟน

ข้อนี้ค่อนข้างสำคัญค่ะ การปล่อยให้ลูกอยู่แต่ที่หน้าจอย่อมส่งผลเสีย เพราะแสงสีในหน้าจอมักจะเคลื่อนไหวเร็ว มีภาพและเสียงที่ดังดึงดูดเด็ก ซึ่งดูเผินๆ เหมือนว่าจะทำให้ลูกนั่งนิ่งๆ หรือจดจ่อ แต่จริงๆ แล้วนั่นเป็นการบั่นทอนสมาธิ เพราะพอหลุดจากหน้าจอแล้ว เขาจะสร้างสมาธิเองได้ยากขึ้น จริงๆ สมาร์ทโฟนหรือทีวีก็มีประโยชน์ค่ะ แต่ควรจำกัดเวลาในการใช้งานคือไม่ควรเกินครึ่งชั่วโมง เพื่อให้ลูกมีเวลาไปทำกิจกรรมอย่างอื่นด้วยเช่นกัน

ข้อมูลอ้างอิงจาก

Writer Profile : Lalimay

  • Blog :

  • Official Sponsors :
  • Samitivej Hospital

Generic placeholder image

บทความที่เกี่ยวข้อง



7 สิ่งที่เด็กวัย 2 ขวบทำเก่ง
ช่วงวัยของเด็ก
ลูกชอบพูดแทรก จะแก้อย่างไร
ชีวิตครอบครัว
Update
Banner Banner
เมื่อคุณแม่หลายท่านเป็นกังวลกับเรื่องพัฒนาการสมองและภูมิคุ้มกันที่แตกต่างกันของลูกน้อยที่ผ่าคลอดกับเด็กคลอดธรรมชาติ กลัวว่าลูกน้อยจะมีโอกาสป่วยง่ายหรือมีพัฒนาการสมองช้ากว่าเพื่อนๆ ทำให้คุณแม่ต้องใส่ใจกับการดูแลลูกน้อยมากยิ่งขึ้น เสมือนการเร่งเสริมสร้างเกราะคุ้มกันให้ลูกน้อยเติบโตพร้อมปรับตัวกับโลกยุคใหม่ที่เต็มไปด้วยการเปลี่ยนแปลง วันนี้เราจะพาไปดูเคล็ดไม่ลับ ฉบับการดูแลพัฒนาการสมองของลูกน้อยและภูมิคุ้มกันของเด็กผ่าคลอดที่คุณแม่ไม่ควรมองข้าม ช่วยเติมเต็มในสิ่งที่ลูกผ่าคลอดต้องการได้ ไปดูกันเลย! เกราะคุ้มกันแรกที่หายไปของเด็กผ่าคลอด เด็กผ่าคลอดมักจะป่วยง่ายหรือมีปัญหาสุขภาพมากกว่าเด็กที่คลอดโดยธรรมชาติ เพราะสูญเสียโอกาสในการได้รับเชื้อจุลินทรีย์สุขภาพ ผ่านทางบริเวณช่องคลอดของคุณแม่ ทำให้เกราะคุ้มกันแรกเกิดของลูกน้อยผ่าคลอดหายไปส่งผลให้เด็กมีพัฒนาการทางระบบภูมิคุ้มกันตั้งต้นช้ากว่าเด็กที่คลอดตามธรรมชาติ บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) เป็นจุลินทรีย์ชนิดดีที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันตั้งต้น โดยเฉพาะระบบภูมิคุ้มกันในระบบทางเดินอาหาร คุณแม่จึงต้องเร่งเสริมสร้างเกราะคุ้มกันให้ลูกน้อยมีพื้นฐานที่ดีตั้งแต่เริ่มต้น เพื่อช่วยให้ลูกน้อยของเรามีมีระบบภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้น เสริมสร้างพัฒนาการด้านสมองของเด็กผ่าคลอดด้วย “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” คือสารอาหารที่พบมากในนมแม่ เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้การทำงานสมองของลูกน้อยมีประสิทธิภาพ สร้างสมองไวกว่าเดิม เชื่อมต่อเซลล์สมอง 1 แสนล้านเซล์ อัพเกรดเด็กเจนใหม่ โดยสร้างสารสื่อประสาทในสมอง และเพิ่มความเร็วการส่งสัญญาณประสาทแบบก้าวกระโดด “สฟิงโกไมอีลิน” คือ ไขมันกลุ่มฟอสโฟไลปิด พบได้มากในน้ำนมแม่ที่อุดมไปด้วยสารอาหารกว่า 200 ชนิด ซึ่ง “สฟิงโกไมอีลิน”เป็นองค์ประกอบในการสร้างปลอกไมอีลิน ซึ่งมีผลต่อการทำงานของสมองให้ส่งสัญญาณประสาทได้ไวและประมวลผลอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้เกิดการจดจำเร็ว เรียนรู้ไว สมองของเด็กผ่าคลอดและเด็กที่คลอดตามธรรมชาติ มีการสร้างไมอีลินในสมองแตกต่างกัน โดยเฉพาะที่ส่วนของสมอง ที่ทำหน้าที่เชื่อมโยงระหว่างสมองซีกซ้ายและซีกขวา คุณแม่จึงควรคำนึงถึงจุดเริ่มต้นที่แตกต่าง ของเด็กผ่าคลอดเจนใหม่ ด้วยการเตรียมสมองไวและภูมิคุ้มกันที่ดีด้วย “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” และ บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) จากนมแม่ให้ลูกน้อยยิ่งเริ่มเร็วก็ยิ่งดี เพราะพัฒนาการสมองที่ดีในวัยเด็ก ถือเป็นรากฐานสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการมองเห็น การได้ยิน หรือการเรียนรู้ภาษาสิ่งเหล่านี้ล้วนเกิดจากพัฒนาการของสมองเพราะสมองคือจุดเริ่มต้น ของทุกพัฒนาการของลูกน้อย เตรียมพร้อมเด็กผ่าคลอดให้มีสมองไวและภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้นได้ คุณแม่สามารถเติมเต็มในสิ่งที่ลูกน้อยผ่าคลอดต้องการได้ด้วยสารอาหารที่สำคัญอย่างเช่น “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” ที่ช่วยเพิ่มความเร็วในการส่งสัญญาณประสาทได้เร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น และโพรไบโอติก บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) ตัวช่วยที่ทำให้ลูกน้อยมีภูมิคุ้มกันสุขภาพที่ดี ดังนั้นคุณแม่ก็วางใจได้ หากเราเสริมสร้าง…
3 กันยายน 2568

anal porno zdarma culi nudi al mare free sex videos antalya escort

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save