fbpx

10 มารยาททางสังคมพื้นฐาน สอนลูกได้ง่ายนิดเดียว

Writer : nunzmoko
: 10 กรกฏาคม 2562

การปลูกฝังมารยาทที่ดีให้ลูก จะเป็นการเสริมสร้างทักษะความฉลาดทางสังคม (SQ) ลูกจะเติบโตและเรียนรู้เรื่องการเข้าสังคม ปรับตัวเข้ากับผู้อื่นได้ง่าย เคารพผู้อื่น และรู้จักทำเพื่อส่วนรวม ทั้ง 10 มารยาทพื้นฐานที่คุณพ่อคุณแม่สอนลูกได้ง่ายๆ จะมีอะไรบ้างไปดูกันค่ะ

1. สอนให้ลูกพูดจาไพเราะ สุภาพอ่อนน้อม ตั้งแต่ลูกเริ่มพูด คุณพ่อคุณแม่ต้องเป็นต้นแบบที่ดีให้กับลูกควรใช้คำที่สุภาพอ่อนโยน ฝึกให้ลูกพูดมีหางเสียง ครับ/ค่ะ ต่อท้ายทุกครั้ง

2. สอนให้ลูกพูดคำว่าขอโทษและขอบคุณ เมื่อเขาทำผิดให้พูดขอโทษ ถ้าได้รับความช่วยเหลือให้พูดขอบคุณกับผู้อื่นเสมอ

3. สอนให้ลูกรู้จักเข้าคิว มีระเบียบวินัย เมื่อพาลูกออกไปนอกบ้าน ไม่ว่าจะพาไปเที่ยวหรือทานอาหารนอกบ้าน ต้องสอนให้เข้าคิว เช่น พาไปต่อแถวซื้อตั๋วขึ้นรถไฟฟ้า ซื้อตั๋วเข้าสวนสัตว์ ซื้ออาหาร จะทำให้เขาเรียนรู้เรื่องระเบียบวินัยของสังคมค่ะ

4. สอนให้ลูกไหว้ผู้ใหญ่อย่างอ่อนน้อม ให้ลูกกล่าวคำทักทายและทำท่าสวัสดีให้ดูไปพร้อมๆ กันทุกครั้ง ลูกจะยกมือทำท่าสวัสดีตาม เวลาเจอใครๆ ก็จะยกมือไหว้สวัสดีทักทายทุกครั้ง

5. สอนให้ลูกไม่ส่งเสียงดังในสถานที่สาธารณะ พ่อแม่ต้องไม่พูดเสียงดังหรือตะโกนคุยกับลูก และบอกลูกเสมอว่าไม่ควรส่งเสียงดังโวยวาย เพราะจะเป็นการรบกวนคนอื่น เป็นกิริยาที่ไม่ดี ไม่ควรทำ

6. สอนให้ลูกไม่โยนของ ขว้างทิ้งของ ไม่ว่าของจะเป็นอะไรควรยื่นส่งให้ดีๆ ต้องอธิบายว่าการโยนเป็นกิริยาที่ไม่ดีและอาจจะทำให้ของตกหล่นเกิดความเสียหายได้

7. สอนมารยาทบนโต๊ะอาหารให้กับลูก ไม่ว่าจะเป็นการใช้ช้อน ส้อม ตะเกียบในการรับประทานอาหาร การเช็ดปาก รวบช้อนเมื่อทานอิ่มแล้ว โดยทำเป็นตัวอย่างให้ลูกเห็นอยู่เสมอ

8. สอนให้ลูกปิดปากเวลาไอหรือจาม เมื่อลูกไม่สบายให้ใส่หน้ากากอนามัยและเมื่อจามหรือไอ ก็สอนให้ลูกปิดปาก

9. สอนให้ลูกรู้จักเคารพสิทธิผู้อื่น ไม่ล้อเลียนหรือไม่วิจารณ์รูปลักษณ์ภายนอกของคนอื่น นอกจากเป็นคำชมที่ดีสามารถทำได้ค่ะ

10. สอนให้ลูกรู้จักมารยาทในการใช้โทรศัพท์ ให้แนะนำตัวเองก่อน แล้วจึงขอสายคนที่ลูกต้องการสนทนาด้วย และไม่เล่นโทรศัพท์ขณะคุยกับผู้อื่นหรือเล่นเวลาอยู่บนโต๊ะอาหาร

การฝึกสอนมารยาทให้ลูกตั้งแต่เล็กๆ เป็นการส่งเสริมพัฒนาการทั้ง ด้านอารมณ์ สังคมให้ลูกได้เป็นอย่างดี ที่สำคัญการเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับลูก ยิ่งทำให้ลูกปฎิบัติตามได้ง่ายกว่าการบอกหรือสั่งเพียงอย่างเดียวค่ะ

ที่มา – rakluke

Writer Profile : nunzmoko

  • Blog :
  • Social Media :

  • Official Sponsors :
  • Samitivej Hospital

Generic placeholder image

บทความที่เกี่ยวข้อง



อ่านก่อนโพสต์รูปลูกลง SOCIAL MEDIA!
เด็กวัยเข้าโรงเรียน
7 วิธีเลิกแพมเพิสฉบับ Little Monster
ช่วงวัยของเด็ก
Update
Banner Banner
เมื่อคุณแม่หลายท่านเป็นกังวลกับเรื่องพัฒนาการสมองและภูมิคุ้มกันที่แตกต่างกันของลูกน้อยที่ผ่าคลอดกับเด็กคลอดธรรมชาติ กลัวว่าลูกน้อยจะมีโอกาสป่วยง่ายหรือมีพัฒนาการสมองช้ากว่าเพื่อนๆ ทำให้คุณแม่ต้องใส่ใจกับการดูแลลูกน้อยมากยิ่งขึ้น เสมือนการเร่งเสริมสร้างเกราะคุ้มกันให้ลูกน้อยเติบโตพร้อมปรับตัวกับโลกยุคใหม่ที่เต็มไปด้วยการเปลี่ยนแปลง วันนี้เราจะพาไปดูเคล็ดไม่ลับ ฉบับการดูแลพัฒนาการสมองของลูกน้อยและภูมิคุ้มกันของเด็กผ่าคลอดที่คุณแม่ไม่ควรมองข้าม ช่วยเติมเต็มในสิ่งที่ลูกผ่าคลอดต้องการได้ ไปดูกันเลย! เกราะคุ้มกันแรกที่หายไปของเด็กผ่าคลอด เด็กผ่าคลอดมักจะป่วยง่ายหรือมีปัญหาสุขภาพมากกว่าเด็กที่คลอดโดยธรรมชาติ เพราะสูญเสียโอกาสในการได้รับเชื้อจุลินทรีย์สุขภาพ ผ่านทางบริเวณช่องคลอดของคุณแม่ ทำให้เกราะคุ้มกันแรกเกิดของลูกน้อยผ่าคลอดหายไปส่งผลให้เด็กมีพัฒนาการทางระบบภูมิคุ้มกันตั้งต้นช้ากว่าเด็กที่คลอดตามธรรมชาติ บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) เป็นจุลินทรีย์ชนิดดีที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันตั้งต้น โดยเฉพาะระบบภูมิคุ้มกันในระบบทางเดินอาหาร คุณแม่จึงต้องเร่งเสริมสร้างเกราะคุ้มกันให้ลูกน้อยมีพื้นฐานที่ดีตั้งแต่เริ่มต้น เพื่อช่วยให้ลูกน้อยของเรามีมีระบบภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้น เสริมสร้างพัฒนาการด้านสมองของเด็กผ่าคลอดด้วย “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” คือสารอาหารที่พบมากในนมแม่ เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้การทำงานสมองของลูกน้อยมีประสิทธิภาพ สร้างสมองไวกว่าเดิม เชื่อมต่อเซลล์สมอง 1 แสนล้านเซล์ อัพเกรดเด็กเจนใหม่ โดยสร้างสารสื่อประสาทในสมอง และเพิ่มความเร็วการส่งสัญญาณประสาทแบบก้าวกระโดด “สฟิงโกไมอีลิน” คือ ไขมันกลุ่มฟอสโฟไลปิด พบได้มากในน้ำนมแม่ที่อุดมไปด้วยสารอาหารกว่า 200 ชนิด ซึ่ง “สฟิงโกไมอีลิน”เป็นองค์ประกอบในการสร้างปลอกไมอีลิน ซึ่งมีผลต่อการทำงานของสมองให้ส่งสัญญาณประสาทได้ไวและประมวลผลอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้เกิดการจดจำเร็ว เรียนรู้ไว สมองของเด็กผ่าคลอดและเด็กที่คลอดตามธรรมชาติ มีการสร้างไมอีลินในสมองแตกต่างกัน โดยเฉพาะที่ส่วนของสมอง ที่ทำหน้าที่เชื่อมโยงระหว่างสมองซีกซ้ายและซีกขวา คุณแม่จึงควรคำนึงถึงจุดเริ่มต้นที่แตกต่าง ของเด็กผ่าคลอดเจนใหม่ ด้วยการเตรียมสมองไวและภูมิคุ้มกันที่ดีด้วย “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” และ บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) จากนมแม่ให้ลูกน้อยยิ่งเริ่มเร็วก็ยิ่งดี เพราะพัฒนาการสมองที่ดีในวัยเด็ก ถือเป็นรากฐานสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการมองเห็น การได้ยิน หรือการเรียนรู้ภาษาสิ่งเหล่านี้ล้วนเกิดจากพัฒนาการของสมองเพราะสมองคือจุดเริ่มต้น ของทุกพัฒนาการของลูกน้อย เตรียมพร้อมเด็กผ่าคลอดให้มีสมองไวและภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้นได้ คุณแม่สามารถเติมเต็มในสิ่งที่ลูกน้อยผ่าคลอดต้องการได้ด้วยสารอาหารที่สำคัญอย่างเช่น “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” ที่ช่วยเพิ่มความเร็วในการส่งสัญญาณประสาทได้เร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น และโพรไบโอติก บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) ตัวช่วยที่ทำให้ลูกน้อยมีภูมิคุ้มกันสุขภาพที่ดี ดังนั้นคุณแม่ก็วางใจได้ หากเราเสริมสร้าง…
3 กันยายน 2568

anal porno zdarma culi nudi al mare free sex videos antalya escort

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save