fbpx

6 มุมแต่งห้องนอนให้ลูกรักในแบบ MONTESSORI

Writer : nunzmoko
: 21 พฤษภาคม 2561

แนวการสอนแบบมอนเตสซอรี่ (Montessori School) เป็นโรงเรียนทางเลือก ที่กำลังได้รับความนิยม มีรูปแบบการเรียนการสอนโดยพัฒนาการความต้องการ ตามธรรมชาติของเด็กแต่ละคน ซึ่งการเตรียมสิ่งแวดล้อมให้กับเด็กจะเรียนเป็นสิ่งที่สำคัญที่ทางโรงเรียนคำนึงถึง การจัดสิ่งแวดล้อมไว้อย่าง มีจุดหมาย มีอิสระจากการควบคุมของผู้ใหญ่ ได้ทำกิจกรรมต่างๆ ตามความคิดของตนเอง ไปดูวิธีการจัดห้องนอนตามแบบมอนเตสซอรี่กันค่ะ

1. มุมที่นอนและโมบาย

มุมนี้สำหรับเด็ก 0-1 ปี โมบายจะช่วยให้เด็กมีการพัฒนาเรื่องสายตาที่ดี ช่วยฝึกการมองตาม การมองสองตาประสานกัน โมบายให้เป็นสีที่ตัดกัน เช่น ขาว ดำ แดง จะช่วยในการมองเห็นได้ชัดเจนขึ้นค่ะ อาจจะมีมุมกระจกให้เด็กด้วยเพื่อช่วยเรื่องการรับรู้ตัวตน ที่นอนเป็นฟูกปูพื้น ผ้าปูสีขาวจะดูเป็นที่ปลอดภัยสำหรับเด็กค่ะ

2. มุมชั้นวางของเล่น

ชั้นวางของเล่น เป็นชั้นไม้สองชั้นขนาด สูง 45 เซนติเมตร ยาว 120 เซนติเมตร กว้าง 30 เซนติเมตร หรือหาขนาดที่ใกล้เคียงกัน แต่ไม่ควรสูงจนเกินไป เพราะจะไม่ปลอดภัยถ้าหล่นลงมาค่ะ ชั้นวางของของเล่น ช่วยทำให้เด็กมีจินตนาการ

3. มุมโต๊ะ เก้าอี้

โต๊ะ เก้าอี้ จำเป็นมากค่ะ ทั้งทำกิจกรรม ฟังนิทาน ทานข้าว ดูหนังสือ ดูขนาดที่พอเหมาะกับเด็กค่ะ

4. มุมหนังสือ

มุมหนังสือ เน้นที่ไม่สูง ให้เด็กหยิบเองถึง หนังสือไม่ต้องมากนะคะคุณแม่ มีสัก 10 เล่มดีๆ พอค่ะ ถ้าเป็นเด็กอายุ 0-1 ปี เน้นเป็นหนังสือภาพ หนังสือสัมผัส บอร์ดบุ๊ค หรือหนังสือมีเสียง สำหรับเด็กอายุ 1-2 ปี ควรเป็นหนังสือที่เริ่มมีเป็นประโยคสั้นๆ ภาพสวยๆ เด็กอายุ 2-3 ปี ควรเป็นประโยคยาวขึ้นอีกหน่อย เป็นเรื่องราวมากขึ้น หนังสือแต่ละเล่มควรเป็นหนังสือจำนวนหน้าน้อยๆ มุมหนังสือปูด้วยหญ้าเทียม หรือหนังสัตว์นุ่มๆ มีตุ๊กตาที่เชื่อมโยงกับเนื้อเรื่องได้จะดีมาก ค่ะ และมีโซฟาเล็กๆ ไว้นั่งให้เป็นมุมพักผ่อนเพื่อมองเห็นหนังสือตลอดเวลา เป็นการปลูกฝังให้เด็กรักการอ่านค่ะ

5. มุมแต่งกาย ตู้เสื้อผ้า

ตู้ไม่สูงมาก ให้เด็กๆ สามารถหยิบเสื้อผ้าถึง มีตะกร้าใส่ผ้าใส่ เวลาถอดเสื้อผ้าก็เอาใส่ตะกร้านี้ เวลารีดผ้ามาแล้วให้น้องช่วยเก็บผ้า พับผ้าได้อีกด้วย

6. ห้องนอนมีห้องน้ำในตัว

มีห้องน้ำไว้ในห้องนอน เมื่อเด็กเริ่มโตขึ้นจะเป็นการช่วยฝึกให้เด็กสามารถเข้าห้องน้ำได้ด้วยตัวเองค่ะ

ที่มา – WestminsterMontessoriSchool

Writer Profile : nunzmoko

  • Blog :
  • Social Media :

  • Official Sponsors :
  • Samitivej Hospital

Generic placeholder image

บทความที่เกี่ยวข้อง



10 อันดับหนังที่เหมาะกับเด็ก
กิจกรรมของครอบครัว
10 วิธี เลี้ยงลูกยังไงให้ฉลาด
ชีวิตครอบครัว
9 อันดับหนังแนะนำ ดูกับลูกได้ในช่วง movie night
กิจกรรมของครอบครัว
7 เทคนิค พูดยังไงให้ลูกฟัง
ชีวิตครอบครัว
ทำอย่างไรเมื่อลูกรัก “ติดจอ”
ชีวิตครอบครัว
Update
Banner Banner
เมื่อคุณแม่หลายท่านเป็นกังวลกับเรื่องพัฒนาการสมองและภูมิคุ้มกันที่แตกต่างกันของลูกน้อยที่ผ่าคลอดกับเด็กคลอดธรรมชาติ กลัวว่าลูกน้อยจะมีโอกาสป่วยง่ายหรือมีพัฒนาการสมองช้ากว่าเพื่อนๆ ทำให้คุณแม่ต้องใส่ใจกับการดูแลลูกน้อยมากยิ่งขึ้น เสมือนการเร่งเสริมสร้างเกราะคุ้มกันให้ลูกน้อยเติบโตพร้อมปรับตัวกับโลกยุคใหม่ที่เต็มไปด้วยการเปลี่ยนแปลง วันนี้เราจะพาไปดูเคล็ดไม่ลับ ฉบับการดูแลพัฒนาการสมองของลูกน้อยและภูมิคุ้มกันของเด็กผ่าคลอดที่คุณแม่ไม่ควรมองข้าม ช่วยเติมเต็มในสิ่งที่ลูกผ่าคลอดต้องการได้ ไปดูกันเลย! เกราะคุ้มกันแรกที่หายไปของเด็กผ่าคลอด เด็กผ่าคลอดมักจะป่วยง่ายหรือมีปัญหาสุขภาพมากกว่าเด็กที่คลอดโดยธรรมชาติ เพราะสูญเสียโอกาสในการได้รับเชื้อจุลินทรีย์สุขภาพ ผ่านทางบริเวณช่องคลอดของคุณแม่ ทำให้เกราะคุ้มกันแรกเกิดของลูกน้อยผ่าคลอดหายไปส่งผลให้เด็กมีพัฒนาการทางระบบภูมิคุ้มกันตั้งต้นช้ากว่าเด็กที่คลอดตามธรรมชาติ บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) เป็นจุลินทรีย์ชนิดดีที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันตั้งต้น โดยเฉพาะระบบภูมิคุ้มกันในระบบทางเดินอาหาร คุณแม่จึงต้องเร่งเสริมสร้างเกราะคุ้มกันให้ลูกน้อยมีพื้นฐานที่ดีตั้งแต่เริ่มต้น เพื่อช่วยให้ลูกน้อยของเรามีมีระบบภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้น เสริมสร้างพัฒนาการด้านสมองของเด็กผ่าคลอดด้วย “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” คือสารอาหารที่พบมากในนมแม่ เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้การทำงานสมองของลูกน้อยมีประสิทธิภาพ สร้างสมองไวกว่าเดิม เชื่อมต่อเซลล์สมอง 1 แสนล้านเซล์ อัพเกรดเด็กเจนใหม่ โดยสร้างสารสื่อประสาทในสมอง และเพิ่มความเร็วการส่งสัญญาณประสาทแบบก้าวกระโดด “สฟิงโกไมอีลิน” คือ ไขมันกลุ่มฟอสโฟไลปิด พบได้มากในน้ำนมแม่ที่อุดมไปด้วยสารอาหารกว่า 200 ชนิด ซึ่ง “สฟิงโกไมอีลิน”เป็นองค์ประกอบในการสร้างปลอกไมอีลิน ซึ่งมีผลต่อการทำงานของสมองให้ส่งสัญญาณประสาทได้ไวและประมวลผลอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้เกิดการจดจำเร็ว เรียนรู้ไว สมองของเด็กผ่าคลอดและเด็กที่คลอดตามธรรมชาติ มีการสร้างไมอีลินในสมองแตกต่างกัน โดยเฉพาะที่ส่วนของสมอง ที่ทำหน้าที่เชื่อมโยงระหว่างสมองซีกซ้ายและซีกขวา คุณแม่จึงควรคำนึงถึงจุดเริ่มต้นที่แตกต่าง ของเด็กผ่าคลอดเจนใหม่ ด้วยการเตรียมสมองไวและภูมิคุ้มกันที่ดีด้วย “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” และ บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) จากนมแม่ให้ลูกน้อยยิ่งเริ่มเร็วก็ยิ่งดี เพราะพัฒนาการสมองที่ดีในวัยเด็ก ถือเป็นรากฐานสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการมองเห็น การได้ยิน หรือการเรียนรู้ภาษาสิ่งเหล่านี้ล้วนเกิดจากพัฒนาการของสมองเพราะสมองคือจุดเริ่มต้น ของทุกพัฒนาการของลูกน้อย เตรียมพร้อมเด็กผ่าคลอดให้มีสมองไวและภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้นได้ คุณแม่สามารถเติมเต็มในสิ่งที่ลูกน้อยผ่าคลอดต้องการได้ด้วยสารอาหารที่สำคัญอย่างเช่น “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” ที่ช่วยเพิ่มความเร็วในการส่งสัญญาณประสาทได้เร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น และโพรไบโอติก บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) ตัวช่วยที่ทำให้ลูกน้อยมีภูมิคุ้มกันสุขภาพที่ดี ดังนั้นคุณแม่ก็วางใจได้ หากเราเสริมสร้าง…
3 กันยายน 2568

anal porno zdarma culi nudi al mare free sex videos antalya escort

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save