fbpx

ทำไมคุณแม่ต้องดูแลตัวเองให้ดีก่อนดูแลลูกและสามี

Writer : giftoun
: 11 พฤศจิกายน 2562

คุณแม่หลายคนเมื่อมีลูกแล้วมักจะคิดว่าจะดูแลลูกให้ดีที่สุด รวมถึงดูแลคุณสามีที่ทำงานนอกบ้านอย่างเหน็ดเหนื่อยให้สบายที่สุดอีกด้วย โดยหารู้ไม่ว่าก่อนที่จะดูแลคนอื่นนั้น คุณแม่ควรจะต้องดูแลตัวเองให้ดีก่อน แล้วทำไมคุณแม่ต้องดูแลตัวเองให้ดีก่อนดูแลลูและสามีด้วย มาดูกันเลยค่ะ

คนรอบข้างก็มีความสุขไปด้วย

เพราะคุณแม่เองก็มีส่วนที่จะกระจายความสุขไปสู่ครอบครัว ถ้าคุณแม่มีความสุข ลูก คุณสามี และคนรอบข้างก็มีความสุขตามไปด้วย แทนที่คุณแม่จะทุ่มเทให้ลูกแบบสุดๆ ก็ต้องทุ่มเทดูแลตัวเองด้วยเช่นกัน ครอบครัวจึงจะมีความสุขได้ค่ะ

สร้างสมดุลให้ดี มีความสุขระยะยาว

สำหรับคุณแม่แล้วการสร้างความสมดุให้ดี จะมีความสุขขึ้นในระยะยาว นั่นไม่ได้แปลว่าคุณแม่จะเอาแต่ตัวเองก่อนตลอดเวลา อยู่ที่การแบ่งเวลา การเลือก ถ้าคุณแม่ไม่เลือกก็จะต้องอยู่ในวังวนนั้นตลอดเวลา รับส่งลูก ทำอาหาร แค่หาเวลาและเลือกทำในสิ่งที่อยากทำ ถ้าคุณแม่เกิดเครียด เศร้า ไม่มีความสุข ก็จะอยู่กับลูกอย่างมีความสุขไม่ได้เลยค่ะ

ไม่ส่งต่อความคาดหวังให้ลูกโดยที่ไม่รู้ตัว

เมื่อคุณแม่ทุ่มเทให้ลูกมากจนเกินไปจะทำให้ส่งต่อความคาดหวังให้ลูกโดยที่ไม่รู้ตัว ทำให้ลูกนั้นรู้สึกกดดัน เวลาทำไม่ได้ตามที่คุณแม่ตั้งเป้าไว้ ลูกก็จะรู้สึกผิดและคิดว่าตัวเองเป็นสาเหตุ ถ้าคุณแม่ดูแลตัวเองให้ดีก่อนดูแลลูกและครอบครัวก็จะลดความคาดหวังที่มีกับลูกลงได้ค่ะ

ถ้าร่างกายแข็งแรง ดูแลใครก็ไม่เหนื่อย

เมื่อคุณแม่หันมาใส่ใจสุขภาพของตัวเองจนแข็งแรงแล้ว ก็มีพละกำลังมากพอที่จะทำสิ่งอื่นๆ ได้เป็นอย่างดี รวมถึงดูแลคนอื่นๆ ได้อย่างไม่เหนื่อยจนเกินไป เหมือนที่ใครบอกไว้ว่าการไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐค่ะ

แสดงออกได้อย่างเหมาะสม

ถ้าคุณแม่นั้นดูแลตัวเองได้เป็นอย่างดีแล้ว ก็จะมีความสุข เมื่อมีความสุขแล้วก็จะแสดงออกต่อคนรอบข้างได้อย่างเหมาะสม ทำให้บรรยากาศในบ้านนั้นดีตามไปด้วยค่ะ

จะเห็นได้ว่าเมื่อคุณแม่ดูแลตัวเองให้ดีก่อนที่จะดูแลลูกแล้วคุณสามีแล้ว ส่งผลทางบวกได้มากกว่าที่คิดเสียอีก เพราะเมื่อตัวเองมีความสุขแล้ว การส่งต่อความสุขให้กับคนอื่นจะไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไปค่ะ

ที่มา – thepotential 

Writer Profile : giftoun


  • Official Sponsors :
  • Samitivej Hospital

Generic placeholder image

บทความที่เกี่ยวข้อง



เตรียมตัวเป็นแม่ เตรียมตัวเป็นแม่
14 สิงหาคม 2561
20 คำที่ไม่ควรพูดกับลูก
กิจกรรมของครอบครัว
เตรียมตัวเป็นแม่ เตรียมตัวเป็นแม่
13 พฤศจิกายน 2562
เลี้ยงลูกด้วยเสียงดนตรีดียังไง ?
กิจกรรมของครอบครัว
Update
Banner Banner
เมื่อคุณแม่หลายท่านเป็นกังวลกับเรื่องพัฒนาการสมองและภูมิคุ้มกันที่แตกต่างกันของลูกน้อยที่ผ่าคลอดกับเด็กคลอดธรรมชาติ กลัวว่าลูกน้อยจะมีโอกาสป่วยง่ายหรือมีพัฒนาการสมองช้ากว่าเพื่อนๆ ทำให้คุณแม่ต้องใส่ใจกับการดูแลลูกน้อยมากยิ่งขึ้น เสมือนการเร่งเสริมสร้างเกราะคุ้มกันให้ลูกน้อยเติบโตพร้อมปรับตัวกับโลกยุคใหม่ที่เต็มไปด้วยการเปลี่ยนแปลง วันนี้เราจะพาไปดูเคล็ดไม่ลับ ฉบับการดูแลพัฒนาการสมองของลูกน้อยและภูมิคุ้มกันของเด็กผ่าคลอดที่คุณแม่ไม่ควรมองข้าม ช่วยเติมเต็มในสิ่งที่ลูกผ่าคลอดต้องการได้ ไปดูกันเลย! เกราะคุ้มกันแรกที่หายไปของเด็กผ่าคลอด เด็กผ่าคลอดมักจะป่วยง่ายหรือมีปัญหาสุขภาพมากกว่าเด็กที่คลอดโดยธรรมชาติ เพราะสูญเสียโอกาสในการได้รับเชื้อจุลินทรีย์สุขภาพ ผ่านทางบริเวณช่องคลอดของคุณแม่ ทำให้เกราะคุ้มกันแรกเกิดของลูกน้อยผ่าคลอดหายไปส่งผลให้เด็กมีพัฒนาการทางระบบภูมิคุ้มกันตั้งต้นช้ากว่าเด็กที่คลอดตามธรรมชาติ บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) เป็นจุลินทรีย์ชนิดดีที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันตั้งต้น โดยเฉพาะระบบภูมิคุ้มกันในระบบทางเดินอาหาร คุณแม่จึงต้องเร่งเสริมสร้างเกราะคุ้มกันให้ลูกน้อยมีพื้นฐานที่ดีตั้งแต่เริ่มต้น เพื่อช่วยให้ลูกน้อยของเรามีมีระบบภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้น เสริมสร้างพัฒนาการด้านสมองของเด็กผ่าคลอดด้วย “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” คือสารอาหารที่พบมากในนมแม่ เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้การทำงานสมองของลูกน้อยมีประสิทธิภาพ สร้างสมองไวกว่าเดิม เชื่อมต่อเซลล์สมอง 1 แสนล้านเซล์ อัพเกรดเด็กเจนใหม่ โดยสร้างสารสื่อประสาทในสมอง และเพิ่มความเร็วการส่งสัญญาณประสาทแบบก้าวกระโดด “สฟิงโกไมอีลิน” คือ ไขมันกลุ่มฟอสโฟไลปิด พบได้มากในน้ำนมแม่ที่อุดมไปด้วยสารอาหารกว่า 200 ชนิด ซึ่ง “สฟิงโกไมอีลิน”เป็นองค์ประกอบในการสร้างปลอกไมอีลิน ซึ่งมีผลต่อการทำงานของสมองให้ส่งสัญญาณประสาทได้ไวและประมวลผลอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้เกิดการจดจำเร็ว เรียนรู้ไว สมองของเด็กผ่าคลอดและเด็กที่คลอดตามธรรมชาติ มีการสร้างไมอีลินในสมองแตกต่างกัน โดยเฉพาะที่ส่วนของสมอง ที่ทำหน้าที่เชื่อมโยงระหว่างสมองซีกซ้ายและซีกขวา คุณแม่จึงควรคำนึงถึงจุดเริ่มต้นที่แตกต่าง ของเด็กผ่าคลอดเจนใหม่ ด้วยการเตรียมสมองไวและภูมิคุ้มกันที่ดีด้วย “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” และ บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) จากนมแม่ให้ลูกน้อยยิ่งเริ่มเร็วก็ยิ่งดี เพราะพัฒนาการสมองที่ดีในวัยเด็ก ถือเป็นรากฐานสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการมองเห็น การได้ยิน หรือการเรียนรู้ภาษาสิ่งเหล่านี้ล้วนเกิดจากพัฒนาการของสมองเพราะสมองคือจุดเริ่มต้น ของทุกพัฒนาการของลูกน้อย เตรียมพร้อมเด็กผ่าคลอดให้มีสมองไวและภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้นได้ คุณแม่สามารถเติมเต็มในสิ่งที่ลูกน้อยผ่าคลอดต้องการได้ด้วยสารอาหารที่สำคัญอย่างเช่น “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” ที่ช่วยเพิ่มความเร็วในการส่งสัญญาณประสาทได้เร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น และโพรไบโอติก บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) ตัวช่วยที่ทำให้ลูกน้อยมีภูมิคุ้มกันสุขภาพที่ดี ดังนั้นคุณแม่ก็วางใจได้ หากเราเสริมสร้าง…
3 กันยายน 2568

anal porno zdarma culi nudi al mare free sex videos antalya escort

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save