fbpx

วิธีรับมือเมื่อลูกตัวดีออกอาการ อาละวาด

Writer : blahblahboong
: 15 เมษายน 2562

ร้องไห้ – ลงไปดิ้นกับพื้น – อาละวาด สเตปสุดโหดที่เด็กๆ มักใช้เวลาที่ไม่ได้อะไรดั่งใจตัวเอง พ่อแม่อย่างเราเจอแบบนี้เข้าไป เป็นอันต้องปวดหัวไปตามๆ กันใช่ไหมคะ

เรามารู้ถึงต้นเหตุ ผลเสียของพฤติกรรมอาละวาดในเด็ก รวมไปถึงวิธีรับมือเมื่อตัวดีออกอาการ อาละวาด กันค่ะ

การร้องอาละวาด

  • เกิดในเด็กวัย 1 – 3 ปี
  • สื่อสารด้วยคำพูดไม่เก่ง
  • ใช้พฤติกรรมก้าวร้าวแสดงถึงความต่อต้าน

ผลเสียที่ตามมาจากการอาละวาด

  • ทำลายข้าวของ
  • ทำร้ายร่างกายผู้อื่น
  • ขัดขวางการเรียนรู้
  • มีปัญหาด้านความสัมพันธ์

วิธีรับมือ

ควบคุมอารมณ์ และวิธีพูดของตัวเอง

อันดับแรก คุณพ่อคุณแม่ต้องควบคุมอารมณ์ของตัวให้ได้ก่อน อย่าเดือดตามลูก แล้วค่อยๆ สอนอย่าใจเย็น อย่าแสดงพฤติกรรมที่เหมือนว่าคุณกำลังอาละวาดเช่นเดียวกับลูกเด็ดขาด เพราะจะทำให้เด็กรู้สึกว่า “ในเมื่อพ่อ/แม่ทำได้ ตัวเค้าก็ต้องทำได้เช่นกัน”

ให้เด็กได้ทำในสิ่งที่ต้องการ

แต่จะให้ทำทุกอย่างเลยก็ไม่ดีนะคะ อย่างน้อยคุณพ่อคุณแม่ควรจะสร้างข้อตกลง หรือทางเลือกให้เด็กๆ ได้มีโอกาสเลือกทำในสิ่งที่ต้องการ โดยไม่รู้สึกว่าเป็นการบังคับมากจนเกินไป

กำหนดขอบเขตที่ชัดเจน

กำหนดสิ่งที่เค้าสามารถทำได้และไม่ได้ให้ชัดเจน พูดคุยตกลงกันอย่างจริงจัง สม่ำเสมอ

เพิกเฉย ไม่สนใจ

สำหรับเด็กเล็กมากๆ (1 – 3 ขวบ) อาจจะไม่สามารถสอนเค้าได้ด้วยวิธีที่ซับซ้อนมากนัก ดังนั้นเมื่อเค้าเริ่มเอาแต่ใจ งอแง เรียกร้องอะไรสักอย่าง และเริ่มอาละวาด ให้คุณพ่อคุณแม่ทำเป็นไม่สนใจ แกล้งทำเป็นไม่ได้ยินไปเลย เมื่อเค้าเริ่มรู้ตัวว่าไม่ได้ผล ก็จะหยุดไปเอง

Time Out

ในกรณีที่เด็กเริ่มโตแล้ว (4 ขวบขึ้นไป) ให้ใช้วิธี “แยกเด็กออกมาจากความสนใจรอบข้างชั่วคราว” หรือ Time Out

สามารถอ่านเรื่อง Time Out เพิ่มเติมได้ที่ : Time Out สอนให้นิ่ง รับมือกับอารมณ์ลูกแบบไม่ต้องเจ็บตัว

ข้อมูลจาก

The Asian Parent

 

Writer Profile : blahblahboong

  • Blog :
  • Social Media :

  • Official Sponsors :
  • Samitivej Hospital

Generic placeholder image

บทความที่เกี่ยวข้อง



วิธีรับมือเมื่อลูกอาละวาด
เด็กอายุ 2-5 ขวบ
7 วิธีเลิกแพมเพิสฉบับ Little Monster
ช่วงวัยของเด็ก
Sometime…บางครั้งของลูก
ชีวิตครอบครัว
รอยยิ้ม ที่ไม่มีวันจางหายไป
ชีวิตครอบครัว
Update
Banner Banner
เมื่อคุณแม่หลายท่านเป็นกังวลกับเรื่องพัฒนาการสมองและภูมิคุ้มกันที่แตกต่างกันของลูกน้อยที่ผ่าคลอดกับเด็กคลอดธรรมชาติ กลัวว่าลูกน้อยจะมีโอกาสป่วยง่ายหรือมีพัฒนาการสมองช้ากว่าเพื่อนๆ ทำให้คุณแม่ต้องใส่ใจกับการดูแลลูกน้อยมากยิ่งขึ้น เสมือนการเร่งเสริมสร้างเกราะคุ้มกันให้ลูกน้อยเติบโตพร้อมปรับตัวกับโลกยุคใหม่ที่เต็มไปด้วยการเปลี่ยนแปลง วันนี้เราจะพาไปดูเคล็ดไม่ลับ ฉบับการดูแลพัฒนาการสมองของลูกน้อยและภูมิคุ้มกันของเด็กผ่าคลอดที่คุณแม่ไม่ควรมองข้าม ช่วยเติมเต็มในสิ่งที่ลูกผ่าคลอดต้องการได้ ไปดูกันเลย! เกราะคุ้มกันแรกที่หายไปของเด็กผ่าคลอด เด็กผ่าคลอดมักจะป่วยง่ายหรือมีปัญหาสุขภาพมากกว่าเด็กที่คลอดโดยธรรมชาติ เพราะสูญเสียโอกาสในการได้รับเชื้อจุลินทรีย์สุขภาพ ผ่านทางบริเวณช่องคลอดของคุณแม่ ทำให้เกราะคุ้มกันแรกเกิดของลูกน้อยผ่าคลอดหายไปส่งผลให้เด็กมีพัฒนาการทางระบบภูมิคุ้มกันตั้งต้นช้ากว่าเด็กที่คลอดตามธรรมชาติ บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) เป็นจุลินทรีย์ชนิดดีที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันตั้งต้น โดยเฉพาะระบบภูมิคุ้มกันในระบบทางเดินอาหาร คุณแม่จึงต้องเร่งเสริมสร้างเกราะคุ้มกันให้ลูกน้อยมีพื้นฐานที่ดีตั้งแต่เริ่มต้น เพื่อช่วยให้ลูกน้อยของเรามีมีระบบภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้น เสริมสร้างพัฒนาการด้านสมองของเด็กผ่าคลอดด้วย “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” คือสารอาหารที่พบมากในนมแม่ เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้การทำงานสมองของลูกน้อยมีประสิทธิภาพ สร้างสมองไวกว่าเดิม เชื่อมต่อเซลล์สมอง 1 แสนล้านเซล์ อัพเกรดเด็กเจนใหม่ โดยสร้างสารสื่อประสาทในสมอง และเพิ่มความเร็วการส่งสัญญาณประสาทแบบก้าวกระโดด “สฟิงโกไมอีลิน” คือ ไขมันกลุ่มฟอสโฟไลปิด พบได้มากในน้ำนมแม่ที่อุดมไปด้วยสารอาหารกว่า 200 ชนิด ซึ่ง “สฟิงโกไมอีลิน”เป็นองค์ประกอบในการสร้างปลอกไมอีลิน ซึ่งมีผลต่อการทำงานของสมองให้ส่งสัญญาณประสาทได้ไวและประมวลผลอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้เกิดการจดจำเร็ว เรียนรู้ไว สมองของเด็กผ่าคลอดและเด็กที่คลอดตามธรรมชาติ มีการสร้างไมอีลินในสมองแตกต่างกัน โดยเฉพาะที่ส่วนของสมอง ที่ทำหน้าที่เชื่อมโยงระหว่างสมองซีกซ้ายและซีกขวา คุณแม่จึงควรคำนึงถึงจุดเริ่มต้นที่แตกต่าง ของเด็กผ่าคลอดเจนใหม่ ด้วยการเตรียมสมองไวและภูมิคุ้มกันที่ดีด้วย “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” และ บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) จากนมแม่ให้ลูกน้อยยิ่งเริ่มเร็วก็ยิ่งดี เพราะพัฒนาการสมองที่ดีในวัยเด็ก ถือเป็นรากฐานสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการมองเห็น การได้ยิน หรือการเรียนรู้ภาษาสิ่งเหล่านี้ล้วนเกิดจากพัฒนาการของสมองเพราะสมองคือจุดเริ่มต้น ของทุกพัฒนาการของลูกน้อย เตรียมพร้อมเด็กผ่าคลอดให้มีสมองไวและภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้นได้ คุณแม่สามารถเติมเต็มในสิ่งที่ลูกน้อยผ่าคลอดต้องการได้ด้วยสารอาหารที่สำคัญอย่างเช่น “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” ที่ช่วยเพิ่มความเร็วในการส่งสัญญาณประสาทได้เร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น และโพรไบโอติก บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) ตัวช่วยที่ทำให้ลูกน้อยมีภูมิคุ้มกันสุขภาพที่ดี ดังนั้นคุณแม่ก็วางใจได้ หากเราเสริมสร้าง…
3 กันยายน 2568

anal porno zdarma culi nudi al mare free sex videos antalya escort

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save