fbpx

บทบาท “พ่อ” ของในหลวงรัชกาลที่ 9

Writer : blahblahboong
: 13 ตุลาคม 2560

ครบรอบ ๑ ปี วันสวรรคต พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร เพื่อเป็นการรำลึกถึงพระองค์ท่าน ทาง Parents One ได้รวบรวมความทรงจำที่น่าประทับใจ ในบทบาทความเป็น “พ่อ” ของพระองค์ท่านนอกเหนือจากความเป็นพระมหากษัตริย์มาไว้ ณ ที่นี้

พ่อแม่เขาต้องถ่ายรูปวันที่สำเร็จการศึกษาใช่ไหม เค้าไปถ่ายที่ไหน พาเราไปสิ

๑๕ กรกฎาคม ๒๕๒๐ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงรับพระราชทานปริญญาบัตร จากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๙ และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ในวันนั้นท่านได้ทรงถามสมเด็จพระเทพฯ ว่า พ่อแม่เขาต้องถ่ายรูปวันที่สำเร็จการศึกษาใช่ไหม เค้าไปถ่ายที่ไหน พาเราไปสิ” 

สร้างความปลาบปลื้มปิติแก่พสกนิกร ด้วยทรงเป็น “สมเด็จเจ้าฟ้าฯ บัณฑิตพระองค์แรก เมื่อเสด็จพระราชดำเนินไปทรงฉายพระรูปกับองค์บัณฑิตใหม่ พร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ พระราชวงศ์ และพระประยูรญาติเช่นเดียวกับครอบครัวของบัณฑิตอื่นๆ

เพราะว่า พ่อก็อยากรู้เหมือนกัน

เมื่อสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ยังทรงพระเยาว์ ทรงทูลถามพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ว่า  ข้าวสาร กระสอบมีกี่เมล็ดเพคะ?” พระองค์ทรงตอบว่า 

ข้าวสาร กระสอบมีน้ำหนัก ๑๐๐ กิโลกรัม กิโลกรัมหนึ่งมีเครื่องชั่งวัดได้ ๑๐ ขีด
ดังนั้นก็เอาภาชนะไปตวงข้าวสารมาชั่งได้
ขีด แล้วนับข้าวสารที่ตวงมานั้นว่ามีกี่เมล็ด แล้วก็เอา ๑๐ คูณ
เสร็จแล้วก็เอา ๑๐๐ คูณผลลัพธ์อีกที ก็จะได้จำนวนเมล็ดข้าวสารใน กระสอบ” 

เพราะว่า พ่อก็อยากรู้เหมือนกัน

พ่อดุเรา บอกให้เราไปถ่ายที่อื่น ให้เราสำรวม และให้ไปบอกคนข้างหลังให้เงียบ ด้วย

ภาพที่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงยกกล้องถ่ายรูปขึ้นมาทรงฉาย เป็นหนึ่งในภาพประวัติศาสตร์ที่พสกนิกรชาวไทยได้เห็นและยังคงจดจำได้เป็นอย่างดี 

ซึ่งสมเด็จพระเทพฯ เคยรับสั่งเกี่ยวกับภาพนี้ว่า ในหลวงทรงตำหนิที่พระองค์ทำตัวเหมือนเด็ก และตรัสต่อนักข่าวว่าพ่อดุเรา บอกให้เราไปถ่ายที่อื่น ให้เราสำรวม และให้ไปบอกคนข้างหลังให้เงียบ ด้วยซึ่งสมเด็จพระเทพฯ ตรัสเล่าและทรงพระสรวลอย่างมีความสุข

วันนี้มีซุปผักโขม มาดวลกันไหม

มีหนึ่งเหตุการณ์ที่ได้กล่าวไว้ว่า สมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าจุฬาภรณ์วลัยลักษณ์ฯ ทรงไม่เสวยผักมาตั้งแต่ทรงพระเยาว์ แต่เมื่อหลายปีก่อนขณะทรงเสด็จฯขึ้นเฝ้าพระอาการของทูลกระหม่อมพ่อ โรงพยาบาลศิริราช โดยในครั้งนั้น ได้พระราชทานสัมภาษณ์ว่า 

ตัวข้าพเจ้านี่เองขึ้นไปเฝ้าพระอาการ บางครั้งขึ้นไปเฝ้าตอนเสวยข้าว ท่านก็ทรงท้า บอกมาดวลกันไหมท่านรู้ว่าข้าพเจ้าตั้งแต่เล็กมาแล้ว กินผักไม่เป็น ไม่กินผัก แล้วท่านก็บอกว่าวันนี้มีซุปผักโขม มาดวลกันไหมก็เลยทูลท่านบอกว่าดวลก็ดวล” คือว่ารับประทานถวายพ่อองค์เดียวนะ เพราะกับคนอื่น แหม จะให้กล้ำกลืนทานซุปผักนี้ก็คงแย่เหมือนกัน แต่วันนั้นก็ได้ทานซุปผักถวายท่านไป ๑ ชาม ท่านก็เสวยซุปผักเหมือนกัน ๑ ชาม

สลาตันของพ่อ

สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงวิ่งเร็วและซนมาก พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๙ จึงทรงตั้งฉายาให้ว่า สลาตัน

ครั้งหนึ่งพระองค์ไม่ยอมบรรทม ทูลกระหม่อมพ่อจึงทรงอุ้มสมเด็จพระเทพฯ ไว้ในอ้อมพระกรข้างหนึ่ง ส่วนอีกข้างนั้นทรงอิเล็กโทน เพลงพระราชนิพนธ์ Lullaby ในที่สุดสลาตันของทูลกระหม่อมพ่อก็ทรงผล็อยหลับไป

ขอบคุณข้อมูลจาก

 

Writer Profile : blahblahboong

  • Blog :
  • Social Media :

  • Official Sponsors :
  • Samitivej Hospital

Generic placeholder image

บทความที่เกี่ยวข้อง



Update
Banner Banner
เมื่อคุณแม่หลายท่านเป็นกังวลกับเรื่องพัฒนาการสมองและภูมิคุ้มกันที่แตกต่างกันของลูกน้อยที่ผ่าคลอดกับเด็กคลอดธรรมชาติ กลัวว่าลูกน้อยจะมีโอกาสป่วยง่ายหรือมีพัฒนาการสมองช้ากว่าเพื่อนๆ ทำให้คุณแม่ต้องใส่ใจกับการดูแลลูกน้อยมากยิ่งขึ้น เสมือนการเร่งเสริมสร้างเกราะคุ้มกันให้ลูกน้อยเติบโตพร้อมปรับตัวกับโลกยุคใหม่ที่เต็มไปด้วยการเปลี่ยนแปลง วันนี้เราจะพาไปดูเคล็ดไม่ลับ ฉบับการดูแลพัฒนาการสมองของลูกน้อยและภูมิคุ้มกันของเด็กผ่าคลอดที่คุณแม่ไม่ควรมองข้าม ช่วยเติมเต็มในสิ่งที่ลูกผ่าคลอดต้องการได้ ไปดูกันเลย! เกราะคุ้มกันแรกที่หายไปของเด็กผ่าคลอด เด็กผ่าคลอดมักจะป่วยง่ายหรือมีปัญหาสุขภาพมากกว่าเด็กที่คลอดโดยธรรมชาติ เพราะสูญเสียโอกาสในการได้รับเชื้อจุลินทรีย์สุขภาพ ผ่านทางบริเวณช่องคลอดของคุณแม่ ทำให้เกราะคุ้มกันแรกเกิดของลูกน้อยผ่าคลอดหายไปส่งผลให้เด็กมีพัฒนาการทางระบบภูมิคุ้มกันตั้งต้นช้ากว่าเด็กที่คลอดตามธรรมชาติ บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) เป็นจุลินทรีย์ชนิดดีที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันตั้งต้น โดยเฉพาะระบบภูมิคุ้มกันในระบบทางเดินอาหาร คุณแม่จึงต้องเร่งเสริมสร้างเกราะคุ้มกันให้ลูกน้อยมีพื้นฐานที่ดีตั้งแต่เริ่มต้น เพื่อช่วยให้ลูกน้อยของเรามีมีระบบภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้น เสริมสร้างพัฒนาการด้านสมองของเด็กผ่าคลอดด้วย “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” คือสารอาหารที่พบมากในนมแม่ เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้การทำงานสมองของลูกน้อยมีประสิทธิภาพ สร้างสมองไวกว่าเดิม เชื่อมต่อเซลล์สมอง 1 แสนล้านเซล์ อัพเกรดเด็กเจนใหม่ โดยสร้างสารสื่อประสาทในสมอง และเพิ่มความเร็วการส่งสัญญาณประสาทแบบก้าวกระโดด “สฟิงโกไมอีลิน” คือ ไขมันกลุ่มฟอสโฟไลปิด พบได้มากในน้ำนมแม่ที่อุดมไปด้วยสารอาหารกว่า 200 ชนิด ซึ่ง “สฟิงโกไมอีลิน”เป็นองค์ประกอบในการสร้างปลอกไมอีลิน ซึ่งมีผลต่อการทำงานของสมองให้ส่งสัญญาณประสาทได้ไวและประมวลผลอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้เกิดการจดจำเร็ว เรียนรู้ไว สมองของเด็กผ่าคลอดและเด็กที่คลอดตามธรรมชาติ มีการสร้างไมอีลินในสมองแตกต่างกัน โดยเฉพาะที่ส่วนของสมอง ที่ทำหน้าที่เชื่อมโยงระหว่างสมองซีกซ้ายและซีกขวา คุณแม่จึงควรคำนึงถึงจุดเริ่มต้นที่แตกต่าง ของเด็กผ่าคลอดเจนใหม่ ด้วยการเตรียมสมองไวและภูมิคุ้มกันที่ดีด้วย “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” และ บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) จากนมแม่ให้ลูกน้อยยิ่งเริ่มเร็วก็ยิ่งดี เพราะพัฒนาการสมองที่ดีในวัยเด็ก ถือเป็นรากฐานสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการมองเห็น การได้ยิน หรือการเรียนรู้ภาษาสิ่งเหล่านี้ล้วนเกิดจากพัฒนาการของสมองเพราะสมองคือจุดเริ่มต้น ของทุกพัฒนาการของลูกน้อย เตรียมพร้อมเด็กผ่าคลอดให้มีสมองไวและภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้นได้ คุณแม่สามารถเติมเต็มในสิ่งที่ลูกน้อยผ่าคลอดต้องการได้ด้วยสารอาหารที่สำคัญอย่างเช่น “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” ที่ช่วยเพิ่มความเร็วในการส่งสัญญาณประสาทได้เร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น และโพรไบโอติก บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) ตัวช่วยที่ทำให้ลูกน้อยมีภูมิคุ้มกันสุขภาพที่ดี ดังนั้นคุณแม่ก็วางใจได้ หากเราเสริมสร้าง…
3 กันยายน 2568

anal porno zdarma culi nudi al mare free sex videos antalya escort

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save