fbpx

SUPERDAD! 15 สิ่งที่คุณพ่อขอเป็นฮีโร่ เมื่อต้องเลี้ยงและดูแลลูกน้อยแทนคุณแม่

Writer : Mneeose
: 28 พฤศจิกายน 2561

ความฝันของคุณพ่อทุกคนคงจะหนีไม่พ้นการที่ได้ทำหน้าที่พ่อที่ดีให้กับลูก และสร้างครอบครัวที่อบอุ่นใช่ไหมละคะ ส่วนมากคุณแม่มักจะเป็นคนที่เลี้ยงลูกมากที่สุด แต่บางสถานการณ์ที่คุณพ่อก็ต้องทำหน้าที่ฮีโร่ของครอบครัว คอยช่วยเหลือและดูแลลูกๆ เมื่อยามจำเป็น เราไปดูกันว่าจะมีเหตุการณ์ไหนที่คุณพ่อได้เป็นฮีโร่ได้เลี้ยงลูกสมใจกันเลยค่ะ

1.ขับรถพาลูกไปโรงเรียนทันเวลา

เชื่อว่าเป็นกันทุกบ้านแน่นอนค่ะ สำหรับการพาลูกไปส่งโรงเรียนให้ทันเวลา ที่คุณพ่อจะต้องรีบกินข้าว หรือบางทีก็ไม่ได้กิน แต่ต้องรีบเหยียบคันเร่งซิ่งรถ เพื่อขับรถพาลูกไปโรงเรียนให้ทัน ซึ่งคุณพ่อทุกคนจะต้องมีทักษะนี้เป็นพื้นฐานติดตัวกันทุกคนอย่างแน่นอน

2.นักประดิษฐ์ของเล่นตัวยง

คุณพ่อคนเก่งมักชอบและชำนาญการประดิษฐ์ของเล่นเล็กๆน้อยๆ ให้ลูกได้เล่นกัน และลูกมักจะตื่นเต้นทุกครั้งเมื่อได้ของเล่นที่คุณพ่อทำให้เป็นของขวัญ ซึ่งการทำของเล่นเป็นสิ่งที่ดีมาก เพราะจะช่วยเสริมสร้างพัฒนาการในด้านต่างๆ ให้ลูกรู้จักทักษะต่างๆ และปลดปล่อยความคิดจินตนาการตามช่วงวัย

3.ซ่อมของเล่นที่พังให้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง

ไม่ใช่แค่เฉพาะของเล่น แต่เป็นของทุกๆอย่างในบ้าน เมื่อพังคุณพ่อมักจะทำได้ดีกว่าแม่เสมอ เช่น การเปลี่ยนหลอดไฟ , การซ่อมโต๊ะ เป็นต้น เราจึงขอยกย่องให้คุณพ่อเป็นซุปเปอร์ฮีโร่ในด้านนี้โดยเฉพาะเลยค่ะ ซ่อมได้ทุกอย่างจริงๆ

4.เล่นสนุกแบบผาดโผน

ทุกๆ บ้านมักจะมีกิจกรรมสุดฮา หรือการเล่นผาดโผนจากคุณพ่อตลอดเวลา เมื่อปล่อยให้พ่ออยู่กับลูกตามลำพังก็มักจะเจอการเล่นแบบแปลกๆ ซึ่งดูเหมือนว่าลูกจะสนุกสนานกว่าเล่นกับแม่ด้วยแหละค่ะ เพราะคุณพ่อเล่นสุดจริงๆ

5.ลองทำสิ่งใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลา

พ่อมักมีความกล้ากว่าแม่ในเรื่องของการเปิดรับสิ่งต่างๆ ที่จะเข้ามาให้ลูกได้ลองทำ ดังนั้น ลูกจึงมีประสบการณ์ใหม่ๆ ได้ลองทำสิ่งที่แปลกกว่าตอนอยู่กับแม่นั่นเองค่ะ

6.อดทนรอได้นานมากที่สุด

อย่างที่รู้กันดีอยู่แล้วว่าคุณพ่อทุกคนนอกจากจะแข็งแกร่งด้านร่างกายแล้ว แต่ก็ยังแข็งเเกร่งด้านจิตใจด้วย คุณพ่อมักอดทนรอนานๆ ได้นานกว่าคุณแม่อย่างใจเย็น ไม่ว่าเรื่องที่ต้องรอนั้น จะมีเหตุผลหรือไม่มีก็ตาม เพียงแค่เป็นคนในครอบครัว คุณพ่อก็พร้อมรอได้เสมอ

 

7.เรื่องแกล้งลูก ขอให้บอก

เหล่าคุณพ่อตัวแสบ ที่มักจะแก้เหงา หรือต้องการคลายเครียดโดยการแกล้งลูก ซึ่งเป็นมากกว่าความตลก แต่มันคือความน่ารักอย่างหนึ่งเลยค่ะ เป็นสีสันของบ้านก็ว่าได้ และยิ่งยุคนี้มีสื่อโซเชียลด้วยแล้วด้วย ทุกบ้านก็ยิ่งชื่นชอบการถ่ายคลิปลูกตัวเองลง เพื่อให้คนอื่นอิจฉาในความน่ารักของลูกๆ ค่ะ

8.เมื่อลูกทำผิด พ่อจะควบคุมอารมณ์ได้ดีกว่าแม่

พ่อจะมีการควบคุมอารม์ได้ดีกว่าคุณแม่เสมอ ความใจเย็น และความสุขุม สามารถทำให้คนในบ้านใจเย็นลงได้ การเงียบอาจเป็นตัวเลือกหนึ่งที่ดีที่สุดเมื่อคนในบ้านทะเลาะกัน แต่อย่าปล่อยให้เป็นปัญหายืดเยื้อ

9.การเล่านิทานสุดฮา

การเล่านิทานของคุณพ่อมักจะแตกต่างจากการเล่าของคุณแม่แน่นอน เพราะคุณพ่อจะใส่อารมณ์ เสริมแอคติ้งเพิ่มสีสันเข้าไปในนิทานอีกจึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ลูกๆจะอยากให้พ่อมาเล่านิทานให้เขาฟังบ่อยๆ ค่ะ ที่สำคัญ เมื่อเล่านิทานให้ลูกฟังจบเเล้ว คุณพ่อก็อย่าลืม Goodnight Kiss ลูกด้วยนะคะ ลูกจะนอนหลับฝันหวานแน่นอนค่ะ

10.สอนทริคลัดทำการบ้านให้ลูกเพียบ

อย่างที่รู้ๆ กันค่ะว่า กระบวนการคิดของคุณพ่อและคุณแม่ช่างแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง คุณพ่อจะมีวิธีการคิดที่ลัดเพื่อให้ได้คำตอบที่รวดเร็ว แต่ผ่านกระบวนการคิดซึ่งไม่ซับซ้อน หรือซับซ้อนน้อยกว่าการคิดของคุณแม่นั่นเอง

 

11.คอยปกป้องลูกและแม่จากสัตว์ร้าย

ทุกคนอย่างเพิ่งตกใจค่ะ เพราะว่าสัตว์ร้ายของเรานั้น เช่น แมลงสาบ จิ้งจก งู ค่ะ ทั้งคุณแม่และลูกก็ไม่มีใครชอบสัตว์พวกนี้เลยสักตัว คุณพ่อจึงเป็นฮีโร่จำเป็นคอยปกป้อง และกำจัดไม่ให้สัตว์เหล่านั้นอยู่ใกล้เรานั่นเองค่ะ ถึงแม้ว่าพ่อบางคนจะกลัวก็ตาม

12.ตามใจลูกเป็นที่หนึ่ง

ยิ่งเป็นลูกสาวแล้วด้วยนั้น อ้อนนิดหน่อยคุณพ่อก็ยอมให้ทุกอย่างจนหมดตัวแล้วค่ะ เรียกว่าตามใจและขี้เห่อพอๆกับคุณแม่เลยก็ว่าได้ ตามใจลูกแล้วก็อย่าลืมตามใจภรรยาด้วยนะคะ แล้วจะหาว่าไม่เตือน วิธีการ เช่น ซื้อของกินเยอะๆ กลับไปฝากภรรยาและลูกที่อยู่บ้านค่ะ

13.ชวนลูกเล่นเกมเก่ง

ไม่ว่าจะเวลาไหน หากคุณพ่อได้มีเวลาว่างส่วนตัวของเขาแล้วละก็ สิ่งแรกที่จะทำ ก็คือ การเล่นเกมนั่นเองค่ะ แถมเล่นคนเดียวยังไม่พอ ต้องชวนลูกมาเล่นด้วยอีกต่างหาก การเล่นเกมก็มีทั้งข้อดีและข้อเสียค่ะ ได้รู้จักอีกโลกซึ่งมีแต่คนชอบเล่นเกมนั้นๆ เปิดกว้างสร้างสสรค์ทางความคิด แต่สิ่งที่สำคัญ คือ การจัดสรรแบ่งเวลาให้ดี ไม่ไปกระทบกับงานอื่นก็พอแล้วค่ะ

14.โทรหาลูก เมื่อตัวเองไม่อยู่

เมื่อไปทำงานไกลๆ คุณพ่อทุกคนมักจะคิดถึงเจ้าตัวเล็กอยู่แล้ว อดใจไม่ไหวจนต้องโทรหาลูกให้เห็นหน้าและฟังเสียงกัน แหม! หวานกว่าอยู่กับภรรยาไปอีก ไม่ค่อยจะเห่อลูกเลยนะคะคุณพ่อทั้งหลาย

15.อยากอาบน้ำกับลูกมากที่สุด

การอาบน้ำเมื่อตอนลูกยังเล็กถือเป็นวิธีการดูแลที่คุณพ่อหลายๆ คนอยากทำให้ลูกก่อนที่เขาจะโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ค่ะ พ่อจะรู้วิธีการอาบน้ำให้สนุกสุดเหวี่ยงมากกว่าอาบกับแม่ ดังนั้น เด็กๆ มักจะชอบอาบน้ำกับคุณพ่อมากกว่าค่ะ อาบจนห้องน้ำน้ำท่วมก็มี สนุกขนาดนี้แต่อยากลืมเก็บกวาดด้วยนะคะ ไม่งั้น!! คุณพ่อเละแน่ๆค่ะ

เป็นอย่างไรกันบ้างคะ สำหรับเหตุการณ์ที่ทำให้คุณพ่อเป็นฮีโร่ในสายตาของลูกๆ ได้ ไม่ยากเลยใช่ไหมละ ถ้าอย่างนั้น คุณพ่อคนไหนที่ไม่รู้ว่าจะเล่นกับลูก หรือสนุกกับลูกอย่างไร ลองทำตามสถานการณ์ที่บอกไปสิคะ รับรองลูกติดหนึบแน่นอน

Writer Profile : Mneeose

💙💙💙

  • Blog :
  • Social Media :

  • Official Sponsors :
  • Samitivej Hospital

Generic placeholder image

บทความที่เกี่ยวข้อง



รู้จักกับกระเป๋านักเรียน “รันโดะเซะรุ”
เด็กวัยเข้าโรงเรียน
ชีวิตครอบครัว ชีวิตครอบครัว
2 กุมภาพันธ์ 2564
Update
Banner Banner
เมื่อคุณแม่หลายท่านเป็นกังวลกับเรื่องพัฒนาการสมองและภูมิคุ้มกันที่แตกต่างกันของลูกน้อยที่ผ่าคลอดกับเด็กคลอดธรรมชาติ กลัวว่าลูกน้อยจะมีโอกาสป่วยง่ายหรือมีพัฒนาการสมองช้ากว่าเพื่อนๆ ทำให้คุณแม่ต้องใส่ใจกับการดูแลลูกน้อยมากยิ่งขึ้น เสมือนการเร่งเสริมสร้างเกราะคุ้มกันให้ลูกน้อยเติบโตพร้อมปรับตัวกับโลกยุคใหม่ที่เต็มไปด้วยการเปลี่ยนแปลง วันนี้เราจะพาไปดูเคล็ดไม่ลับ ฉบับการดูแลพัฒนาการสมองของลูกน้อยและภูมิคุ้มกันของเด็กผ่าคลอดที่คุณแม่ไม่ควรมองข้าม ช่วยเติมเต็มในสิ่งที่ลูกผ่าคลอดต้องการได้ ไปดูกันเลย! เกราะคุ้มกันแรกที่หายไปของเด็กผ่าคลอด เด็กผ่าคลอดมักจะป่วยง่ายหรือมีปัญหาสุขภาพมากกว่าเด็กที่คลอดโดยธรรมชาติ เพราะสูญเสียโอกาสในการได้รับเชื้อจุลินทรีย์สุขภาพ ผ่านทางบริเวณช่องคลอดของคุณแม่ ทำให้เกราะคุ้มกันแรกเกิดของลูกน้อยผ่าคลอดหายไปส่งผลให้เด็กมีพัฒนาการทางระบบภูมิคุ้มกันตั้งต้นช้ากว่าเด็กที่คลอดตามธรรมชาติ บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) เป็นจุลินทรีย์ชนิดดีที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันตั้งต้น โดยเฉพาะระบบภูมิคุ้มกันในระบบทางเดินอาหาร คุณแม่จึงต้องเร่งเสริมสร้างเกราะคุ้มกันให้ลูกน้อยมีพื้นฐานที่ดีตั้งแต่เริ่มต้น เพื่อช่วยให้ลูกน้อยของเรามีมีระบบภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้น เสริมสร้างพัฒนาการด้านสมองของเด็กผ่าคลอดด้วย “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” คือสารอาหารที่พบมากในนมแม่ เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้การทำงานสมองของลูกน้อยมีประสิทธิภาพ สร้างสมองไวกว่าเดิม เชื่อมต่อเซลล์สมอง 1 แสนล้านเซล์ อัพเกรดเด็กเจนใหม่ โดยสร้างสารสื่อประสาทในสมอง และเพิ่มความเร็วการส่งสัญญาณประสาทแบบก้าวกระโดด “สฟิงโกไมอีลิน” คือ ไขมันกลุ่มฟอสโฟไลปิด พบได้มากในน้ำนมแม่ที่อุดมไปด้วยสารอาหารกว่า 200 ชนิด ซึ่ง “สฟิงโกไมอีลิน”เป็นองค์ประกอบในการสร้างปลอกไมอีลิน ซึ่งมีผลต่อการทำงานของสมองให้ส่งสัญญาณประสาทได้ไวและประมวลผลอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้เกิดการจดจำเร็ว เรียนรู้ไว สมองของเด็กผ่าคลอดและเด็กที่คลอดตามธรรมชาติ มีการสร้างไมอีลินในสมองแตกต่างกัน โดยเฉพาะที่ส่วนของสมอง ที่ทำหน้าที่เชื่อมโยงระหว่างสมองซีกซ้ายและซีกขวา คุณแม่จึงควรคำนึงถึงจุดเริ่มต้นที่แตกต่าง ของเด็กผ่าคลอดเจนใหม่ ด้วยการเตรียมสมองไวและภูมิคุ้มกันที่ดีด้วย “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” และ บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) จากนมแม่ให้ลูกน้อยยิ่งเริ่มเร็วก็ยิ่งดี เพราะพัฒนาการสมองที่ดีในวัยเด็ก ถือเป็นรากฐานสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการมองเห็น การได้ยิน หรือการเรียนรู้ภาษาสิ่งเหล่านี้ล้วนเกิดจากพัฒนาการของสมองเพราะสมองคือจุดเริ่มต้น ของทุกพัฒนาการของลูกน้อย เตรียมพร้อมเด็กผ่าคลอดให้มีสมองไวและภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้นได้ คุณแม่สามารถเติมเต็มในสิ่งที่ลูกน้อยผ่าคลอดต้องการได้ด้วยสารอาหารที่สำคัญอย่างเช่น “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” ที่ช่วยเพิ่มความเร็วในการส่งสัญญาณประสาทได้เร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น และโพรไบโอติก บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) ตัวช่วยที่ทำให้ลูกน้อยมีภูมิคุ้มกันสุขภาพที่ดี ดังนั้นคุณแม่ก็วางใจได้ หากเราเสริมสร้าง…
3 กันยายน 2568

anal porno zdarma culi nudi al mare free sex videos antalya escort

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save