fbpx

10 คำถามเช็คลูกว่าติดไข้หวัดมาจากโรงเรียนรึเปล่า?

Writer : giftoun
: 3 มีนาคม 2563

ด้วยสถานการณ์ไข้หวัดที่ระบาดอยู่ตอนนี้ ทำให้เหล่าคุณพ่อคุณแม่นั้นมีความกังวลอยู่มิใช่น้อย ยิ่งลูกอยู่ในวัยที่เข้าโรงเรียนซึ่งเป็นที่สาธารณะแล้วก็ยิ่งมีสิทธิติดไข้หวัดจากเพื่อนได้ทุกเมื่อ คุณพ่อคุณแม่จึงควรตั้งคำถามเพื่อเช็คลูกน้อยว่าได้ติดไข้หวัดมาจากที่โรงเรียนเหรือไม่ดังต่อไปนี้ค่ะ

เพื่อนลูกเป็นหวัดกันมั้ย ?

เพราะในเด็กวัยเรียนนั้นจะมีกิจกรรมที่มีความใกล้ชิดกันมาก เมื่อมีเด็กคนใดคนหนึ่งเริ่มเป็นหวัด เด็กก็จะสามารถติดหวัดได้โดยง่าย ดังนั้นการถามลูกน้อยว่าเพื่อนของลูกเป็นหวัดกันไหมจึงเป็นหนึ่งในคำถามที่คัดกรองผู้ป่วยได้เป็นอย่างดี

เล่นกับเพื่อนบ่อยรึเปล่า ?

การที่ลูกนั้นได้เล่นกับเพื่อน ได้คลุกคลีกับเพื่อน ก็มีส่วนทำให้ติดหวัดได้ง่ายขึ้นมาก คุณพ่อคุณแม่สามารถลองถามลูกเบื้องต้นเพื่อประกอบการเฝ้าระวังหวัดได้เลยค่ะ

โอเคไหมลูก ?

ถึงจะเป็นเพียงคำถามง่ายๆ ที่เหมือนไม่มีอะไร แท้ที่จริงแล้วแฝงไปด้วยความห่วงใยของคนเป็นพ่อเป็นแม่ ถือเป็นการเช็คอาการเบื้องต้นของลูกน้อยได้เป็นอย่างดีค่ะ

ง่วงมั้ยลูก ?

เมื่อลูกน้อยเริ่มเป็นหวัดมักจะมีอาการอ่อนเพลียจนเกิดอาการง่วงนอน การที่คุณแม่ถามลูกว่าง่วงมั้ยจะเป็นการเช็คเบื้องต้นได้ว่าลูกป่วยหรือไม่ค่ะ

ช่วงนี้มีไปค่ายมั้ย ?

การที่ลูกนั้นมีได้มีโอกาสไปค่ายจะทำให้ลุกมีโอกาสติดไข้หวัดได้ง่ายเพราะเวลาลูกไปค่ายจะได้คลุกคลีกับเพื่อนอย่างใกล้ชิด ถ้ามีใครคนใดคนหนึ่งเป็นหวัดก็จะติดได้โดยง่าย

ไม่สบายตัวมั้ยเอ่ย ?

ไข้หวัดในระยะแรกนั้นจะมีอาการไม่สบายเนื้อไม่สบายตัว ดังนั้นการที่ถามลูกน้อยว่าไม่สบายตัวหรือไม่จะทำให้คัดกรองจากโรคไข้หวัดได้ในเบื้องต้นค่ะ

แน่นจมูกมั้ย ?

อาการแน่นจมูกเป็นหนึ่งในสัญญาณแรกของการเป็นหวัด เมื่อลูกน้อยเกิดอาการแน่นจมูก นั่นเป็นสัญญาณที่แสดงให้เห็นว่าลูกน้อยอาจติดหวัดมาจากเพื่อนที่โรงเรียนได้ค่ะ

มีเรื่องไม่สบายใจมั้ยลูก?

เมื่อลูกอยู่ในสภาวะที่ไม่สบายตัวสักเท่าไหร่ ก็จะเกิดเรื่องไม่สบายใจได้โดยง่ายเช่นกัน ถ้าลูกเริ่มมีเรื่องไม่สบายใจมากกว่าปกติก็อาจจะมีสาเหตุมาจากการติดหวัดมาก็เป็นได้ค่ะ

ปวดเมื่อยตัวมั้ยลูก ?

อาการปวดเมื่อยนั้นมีสาเหตุมาจากอาการเป็นหวัดในระยะเบื้องต้นก็เป็นได้ คุณพ่อคุณแม่ควรสังเกตอาการลูกอย่างใกล้ชิดค่ะ

เหนื่อยง่ายมั้ย ?

เมื่อลูกน้อยเริ่มมีอาการเหนื่อยง่ายนั้นอาจเป็นผลมาจากอาการเป็นหวัดก็เป็นได้ค่ะ

ถึงแม้ว่าคำถาม 10 ข้อจะช่วยคัดกรองอาการเป็นหวัดของลูกน้อยได้ก็จริง เหนือสิ่งอื่นใด การที่คุณพ่อคุณแม่สังเกตอาการป่วยของลูกน้อยจะทำให้การวินิจฉัยโรคนั้นแม่นยำยิ่งขึ้นค่ะ

Writer Profile : giftoun


  • Official Sponsors :
  • Samitivej Hospital

Generic placeholder image

บทความที่เกี่ยวข้อง



โรงเรียนอนุบาลทางเลือกที่โดนใจคุณแม่
เด็กวัยเข้าโรงเรียน
ชีวิตครอบครัว ชีวิตครอบครัว
3 กรกฏาคม 2560
เริ่มให้ลูกฝึกปั่นจักรยานตอนไหนดี?
กิจกรรมของครอบครัว
ทำไมลูกชอบร้องไห้ก่อนไปโรงเรียน
เด็กวัยเข้าโรงเรียน
ข้อกังวลเมื่อลูกถนัดซ้าย
เด็กวัยเข้าโรงเรียน
ทำอย่างไรเมื่อลูกแย่งของเล่นกัน
เด็กวัยเข้าโรงเรียน
Update
Banner Banner
เมื่อคุณแม่หลายท่านเป็นกังวลกับเรื่องพัฒนาการสมองและภูมิคุ้มกันที่แตกต่างกันของลูกน้อยที่ผ่าคลอดกับเด็กคลอดธรรมชาติ กลัวว่าลูกน้อยจะมีโอกาสป่วยง่ายหรือมีพัฒนาการสมองช้ากว่าเพื่อนๆ ทำให้คุณแม่ต้องใส่ใจกับการดูแลลูกน้อยมากยิ่งขึ้น เสมือนการเร่งเสริมสร้างเกราะคุ้มกันให้ลูกน้อยเติบโตพร้อมปรับตัวกับโลกยุคใหม่ที่เต็มไปด้วยการเปลี่ยนแปลง วันนี้เราจะพาไปดูเคล็ดไม่ลับ ฉบับการดูแลพัฒนาการสมองของลูกน้อยและภูมิคุ้มกันของเด็กผ่าคลอดที่คุณแม่ไม่ควรมองข้าม ช่วยเติมเต็มในสิ่งที่ลูกผ่าคลอดต้องการได้ ไปดูกันเลย! เกราะคุ้มกันแรกที่หายไปของเด็กผ่าคลอด เด็กผ่าคลอดมักจะป่วยง่ายหรือมีปัญหาสุขภาพมากกว่าเด็กที่คลอดโดยธรรมชาติ เพราะสูญเสียโอกาสในการได้รับเชื้อจุลินทรีย์สุขภาพ ผ่านทางบริเวณช่องคลอดของคุณแม่ ทำให้เกราะคุ้มกันแรกเกิดของลูกน้อยผ่าคลอดหายไปส่งผลให้เด็กมีพัฒนาการทางระบบภูมิคุ้มกันตั้งต้นช้ากว่าเด็กที่คลอดตามธรรมชาติ บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) เป็นจุลินทรีย์ชนิดดีที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันตั้งต้น โดยเฉพาะระบบภูมิคุ้มกันในระบบทางเดินอาหาร คุณแม่จึงต้องเร่งเสริมสร้างเกราะคุ้มกันให้ลูกน้อยมีพื้นฐานที่ดีตั้งแต่เริ่มต้น เพื่อช่วยให้ลูกน้อยของเรามีมีระบบภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้น เสริมสร้างพัฒนาการด้านสมองของเด็กผ่าคลอดด้วย “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” คือสารอาหารที่พบมากในนมแม่ เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้การทำงานสมองของลูกน้อยมีประสิทธิภาพ สร้างสมองไวกว่าเดิม เชื่อมต่อเซลล์สมอง 1 แสนล้านเซล์ อัพเกรดเด็กเจนใหม่ โดยสร้างสารสื่อประสาทในสมอง และเพิ่มความเร็วการส่งสัญญาณประสาทแบบก้าวกระโดด “สฟิงโกไมอีลิน” คือ ไขมันกลุ่มฟอสโฟไลปิด พบได้มากในน้ำนมแม่ที่อุดมไปด้วยสารอาหารกว่า 200 ชนิด ซึ่ง “สฟิงโกไมอีลิน”เป็นองค์ประกอบในการสร้างปลอกไมอีลิน ซึ่งมีผลต่อการทำงานของสมองให้ส่งสัญญาณประสาทได้ไวและประมวลผลอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้เกิดการจดจำเร็ว เรียนรู้ไว สมองของเด็กผ่าคลอดและเด็กที่คลอดตามธรรมชาติ มีการสร้างไมอีลินในสมองแตกต่างกัน โดยเฉพาะที่ส่วนของสมอง ที่ทำหน้าที่เชื่อมโยงระหว่างสมองซีกซ้ายและซีกขวา คุณแม่จึงควรคำนึงถึงจุดเริ่มต้นที่แตกต่าง ของเด็กผ่าคลอดเจนใหม่ ด้วยการเตรียมสมองไวและภูมิคุ้มกันที่ดีด้วย “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” และ บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) จากนมแม่ให้ลูกน้อยยิ่งเริ่มเร็วก็ยิ่งดี เพราะพัฒนาการสมองที่ดีในวัยเด็ก ถือเป็นรากฐานสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการมองเห็น การได้ยิน หรือการเรียนรู้ภาษาสิ่งเหล่านี้ล้วนเกิดจากพัฒนาการของสมองเพราะสมองคือจุดเริ่มต้น ของทุกพัฒนาการของลูกน้อย เตรียมพร้อมเด็กผ่าคลอดให้มีสมองไวและภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้นได้ คุณแม่สามารถเติมเต็มในสิ่งที่ลูกน้อยผ่าคลอดต้องการได้ด้วยสารอาหารที่สำคัญอย่างเช่น “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” ที่ช่วยเพิ่มความเร็วในการส่งสัญญาณประสาทได้เร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น และโพรไบโอติก บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) ตัวช่วยที่ทำให้ลูกน้อยมีภูมิคุ้มกันสุขภาพที่ดี ดังนั้นคุณแม่ก็วางใจได้ หากเราเสริมสร้าง…
3 กันยายน 2568

anal porno zdarma culi nudi al mare free sex videos antalya escort

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save