fbpx

7วิธีสร้างให้พ่อลูกผูกพันกันมากขึ้น

Writer : giftoun
: 2 สิงหาคม 2561

คำถามที่คุณพ่อหลายคนมักสงสัยและเป็นกังวลก็คือคุณพ่อจะสนิทกับลูกมั้ย ลูกจะรักเราหรือเปล่านะ แต่อยากบอกว่าคุณพ่อไม่ต้องกังวลไปค่ะ เพราะวันนี้มีวิธีที่จะสร้างให้พ่อลูกผูกพันกันมากขึ้นมาฝากกัน

อ่านนิทานให้ลูกฟังตั้งแต่อยู่ในท้อง

การอ่านนิทานให้ลูกฟังมีประโยชน์มาก เพราะจะทำให้ลูกจำเสียงของคุณพ่อได้ตั้งแต่อยู่ในท้อง และเมื่อลูกคลอดออกมาลูกก็จะคุ้นชินกับเสียงคุณพ่อ พอเกิดงอแงก็สามารถสงบลงได้ด้วยเสียงของคุณพ่อนี่แหละ

เรียนรู้วิธีดูแลลูกเพื่อจะได้ทำให้ลูก

ตั้งแต่ที่คุณแม่ตั้งครรภ์นั้น คุณพ่อสามารถเตรียมตัวเพื่อช่วยคุณแม่ดูแลลูกได้ด้วยการหาเวลาไปฝึกการอุ้มลูก จับเรอ ล้างก้น และเปลี่ยนผ้าอ้อม จากคุณพยาบาล ซึ่งนอกจากจะช่วยแบ่งเบาภาระจากคุณแม่ได้แล้ว ยังทำให้ได้ใจลูกอีกด้วย

สัมผัสลูกบ่อยๆ ช่วงเวลา 2-3 สัปดาห์แรก

การสัมผัสลูกบ่อยๆ จะช่วยให้คุณพ่อและลูกใกล้ชิดกันมากขึ้น ทางที่ดีขอให้คุณพ่อนั้นอุ้มลูกให้บ่อยที่สุด แล้วลูบหลังลูกเบาๆ พน้อมกับโยกตัวไปมาอย่างแผ่วเบาเพื่อกล่อมลูก ยิ่งคุณพ่อสัมผัสลูกมากเท่าไร ความผูกพันจะเกิดมากขึ้นเท่านั้นค่ะ

จงหัวเราะกับทุกเรื่องที่เกิดขึ้น

การหัวเราะถือเป็นยาวิเศษที่ช่วยให้ฟื้นฟูจิตใจได้เป็นอย่างดี ดังนั้นหากทำอะไรไม่ถูกต้องตามที่หมอบอกก็หัวเราะเสียบ้างและแก้ไขให้ดีขึ้น อย่าไปเครียดเดี๋ยวลูกจะสัมผัสได้ว่าพ่อเครียดอยู่ นอกจากนั้นพอหัวเราะแล้วคนในบ้านก็จะสัมผัสได้ถึงความสุขอยู่มิใช่น้อยเลยนะคะ

ใช้เวลาอยู่กับลูกให้มากที่สุด

คุณพ่อกับคุณแม่ต้องทำงานเป็นทีม ให้กำลังใจกันและกัน คุณพ่อต้องเป็นผู้นำที่ช่วยให้คุณแม่รู้สึกผ่อนคลาย ไม่เครียด พร้อมทำทุกช่วงเวลาที่อยู่ร่วมกันกับลูกให้มีความสุข เพราะลูกไม่ได้ตัวเล็กแบบนี้เสมอไป แต่โตขึ้นอย่างรวดเร็วขึ้นทุกๆ วัน อยากให้คุณพ่อเก็บเกี่ยวเวลาแห่งความสุขนี้ให้นานที่สุดค่ะ

ใช้คุณสมบัติพิเศษของคุณพ่อ

ถึงแม้คุณพ่อจะไม่มีนมให้ลูกกินไม่เป็นไรนะคะ เพราะคุณพ่อมีมือที่ใหญ่กว่าและแข็งแรงกว่าจึงมีความสามารถในการห่อตัวลูกด้วยผ้าได้อย่างกระชับ อุ้มลูกได้นานกว่า รู้สึกเหนื่อยยากกว่า คุณพ่อสามารถช่วยคุณแม่ได้สบายเลยค่ะ

หากิจกรรมสร้างความสัมพันธ์กับลูก

หากิจกรรมสร้างความสัมพันธ์กับลูก เช่น อาสาพาลูกเข้านอนทุกวัน หรือหลังจากที่ลูกดูดนมคุณแม่เสร็จ ก็อาสาพาลูกอาบน้ำ เปลี่ยนชุดนอน เล่านิทานก่อนนอน ร้องเพลงกล่อมนอน ซึ่งจะกลายเป็นช่วงเวลาพิเศษที่จะทำให้คุณพ่อและลูกผูกพันกันอย่างแน่นแฟ้นทีเดียวค่ะ

และข้างบนนี้ก็คือวิธีสร้างให้พ่อลูกผูกพันกันมากยิ่งขึ้น ซึ่งเมื่อมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันแล้ว จะช่วยทำให้คนในบ้านมีความสุขมากขึ้นไปอีกค่ะ 😀

ที่มา – rakluke

Writer Profile : giftoun


  • Official Sponsors :
  • Samitivej Hospital

Generic placeholder image

บทความที่เกี่ยวข้อง



กิจกรรมของครอบครัว กิจกรรมของครอบครัว
26 กันยายน 2562
รวมกิจกรรมช่วงปิดเทอมสำหรับลูก
กิจกรรมของครอบครัว
5 ขั้นตอนฝึกลูกนอนหลับให้เป็นเวลา
กิจกรรมของครอบครัว
กิจกรรมของครอบครัว กิจกรรมของครอบครัว
21 สิงหาคม 2561
10 วิธี เลี้ยงลูกยังไงให้ฉลาด
ชีวิตครอบครัว
Update
Banner Banner
เมื่อคุณแม่หลายท่านเป็นกังวลกับเรื่องพัฒนาการสมองและภูมิคุ้มกันที่แตกต่างกันของลูกน้อยที่ผ่าคลอดกับเด็กคลอดธรรมชาติ กลัวว่าลูกน้อยจะมีโอกาสป่วยง่ายหรือมีพัฒนาการสมองช้ากว่าเพื่อนๆ ทำให้คุณแม่ต้องใส่ใจกับการดูแลลูกน้อยมากยิ่งขึ้น เสมือนการเร่งเสริมสร้างเกราะคุ้มกันให้ลูกน้อยเติบโตพร้อมปรับตัวกับโลกยุคใหม่ที่เต็มไปด้วยการเปลี่ยนแปลง วันนี้เราจะพาไปดูเคล็ดไม่ลับ ฉบับการดูแลพัฒนาการสมองของลูกน้อยและภูมิคุ้มกันของเด็กผ่าคลอดที่คุณแม่ไม่ควรมองข้าม ช่วยเติมเต็มในสิ่งที่ลูกผ่าคลอดต้องการได้ ไปดูกันเลย! เกราะคุ้มกันแรกที่หายไปของเด็กผ่าคลอด เด็กผ่าคลอดมักจะป่วยง่ายหรือมีปัญหาสุขภาพมากกว่าเด็กที่คลอดโดยธรรมชาติ เพราะสูญเสียโอกาสในการได้รับเชื้อจุลินทรีย์สุขภาพ ผ่านทางบริเวณช่องคลอดของคุณแม่ ทำให้เกราะคุ้มกันแรกเกิดของลูกน้อยผ่าคลอดหายไปส่งผลให้เด็กมีพัฒนาการทางระบบภูมิคุ้มกันตั้งต้นช้ากว่าเด็กที่คลอดตามธรรมชาติ บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) เป็นจุลินทรีย์ชนิดดีที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันตั้งต้น โดยเฉพาะระบบภูมิคุ้มกันในระบบทางเดินอาหาร คุณแม่จึงต้องเร่งเสริมสร้างเกราะคุ้มกันให้ลูกน้อยมีพื้นฐานที่ดีตั้งแต่เริ่มต้น เพื่อช่วยให้ลูกน้อยของเรามีมีระบบภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้น เสริมสร้างพัฒนาการด้านสมองของเด็กผ่าคลอดด้วย “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” คือสารอาหารที่พบมากในนมแม่ เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้การทำงานสมองของลูกน้อยมีประสิทธิภาพ สร้างสมองไวกว่าเดิม เชื่อมต่อเซลล์สมอง 1 แสนล้านเซล์ อัพเกรดเด็กเจนใหม่ โดยสร้างสารสื่อประสาทในสมอง และเพิ่มความเร็วการส่งสัญญาณประสาทแบบก้าวกระโดด “สฟิงโกไมอีลิน” คือ ไขมันกลุ่มฟอสโฟไลปิด พบได้มากในน้ำนมแม่ที่อุดมไปด้วยสารอาหารกว่า 200 ชนิด ซึ่ง “สฟิงโกไมอีลิน”เป็นองค์ประกอบในการสร้างปลอกไมอีลิน ซึ่งมีผลต่อการทำงานของสมองให้ส่งสัญญาณประสาทได้ไวและประมวลผลอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้เกิดการจดจำเร็ว เรียนรู้ไว สมองของเด็กผ่าคลอดและเด็กที่คลอดตามธรรมชาติ มีการสร้างไมอีลินในสมองแตกต่างกัน โดยเฉพาะที่ส่วนของสมอง ที่ทำหน้าที่เชื่อมโยงระหว่างสมองซีกซ้ายและซีกขวา คุณแม่จึงควรคำนึงถึงจุดเริ่มต้นที่แตกต่าง ของเด็กผ่าคลอดเจนใหม่ ด้วยการเตรียมสมองไวและภูมิคุ้มกันที่ดีด้วย “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” และ บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) จากนมแม่ให้ลูกน้อยยิ่งเริ่มเร็วก็ยิ่งดี เพราะพัฒนาการสมองที่ดีในวัยเด็ก ถือเป็นรากฐานสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการมองเห็น การได้ยิน หรือการเรียนรู้ภาษาสิ่งเหล่านี้ล้วนเกิดจากพัฒนาการของสมองเพราะสมองคือจุดเริ่มต้น ของทุกพัฒนาการของลูกน้อย เตรียมพร้อมเด็กผ่าคลอดให้มีสมองไวและภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้นได้ คุณแม่สามารถเติมเต็มในสิ่งที่ลูกน้อยผ่าคลอดต้องการได้ด้วยสารอาหารที่สำคัญอย่างเช่น “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” ที่ช่วยเพิ่มความเร็วในการส่งสัญญาณประสาทได้เร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น และโพรไบโอติก บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) ตัวช่วยที่ทำให้ลูกน้อยมีภูมิคุ้มกันสุขภาพที่ดี ดังนั้นคุณแม่ก็วางใจได้ หากเราเสริมสร้าง…
3 กันยายน 2568

anal porno zdarma culi nudi al mare free sex videos antalya escort

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save