fbpx

7 วิธี สอนเด็กๆ ว่ายน้ำอย่างไรให้ปลอดภัย

Writer : nunzmoko
: 10 กรกฏาคม 2561

อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นบ่อยของเด็กๆ ส่วนใหญ่มาจากอุบัติเหตุจากการว่ายน้ำ ไม่ว่าจะเด็กเล็กหรือเด็กโตก็เกิดได้ทั้งนั้น ฉะนั้นคุณพ่อคุณแม่ควรสอนลูกๆ ให้ระมัดระวังอันตรายจากการว่ายน้ำ จะมีเทคนิคการสอนเด็กๆ ให้ว่ายน้ำอย่างปลอดภัยอย่างไร ไปดูกันเลยค่ะ

1. ให้ลูกเล่นน้ำได้ต่อเมื่อมีผู้ใหญ่ดูแล

ให้ลูกเล่นน้ำหรือว่ายน้ำจะทำได้ก็ต่อเมื่อมีผู้ใหญ่ดูแลเท่านั้น อย่าไว้ใจคนอื่น ไม่มีใครดูแลลูกหลานของเราได้ดีเท่าเรา และเด็กๆ ควรได้รับการสอนโดยครูผู้มีเชี่ยวชาญการว่ายน้ำก่อนปล่อยให้ลงไปเล่นน้ำกันค่ะ

2. ฝึกให้ลูกลอยตัวให้คล่อง

ให้ลูกเรียนรู้การลอยตัวและหมั่นฝึกฝนทักษะการลอยตัวไว้ใช้ยามฉุกเฉิน เพราะคนที่ว่ายน้ำเป็นหลายคนก็จมน้ำได้ เพราะตกใจ และหมดแรง อุบัติเหตุมักเกิดในแหล่งน้ำธรรมชาติที่อาจเกินแรงของเด็กในการว่ายเข้าฝั่ง ฝึกฝนการลอยตัวอย่างถูกวิธี ไว้พัก ไว้ผ่อนแรงบ้าง ช่วยลดโอกาสที่จะจมน้ำ

3. ระวังอันตรายจากห่วงยาง

ห่วงยางอาจจะเป็นตัวช่วยป้องกันเด็กจมน้ำได้ก็จริง แต่ก็มีหลายเหตุการณ์ไม่คาดคิด อย่างการเล่นสไลเดอร์น้ำ ขณะที่ลงมาถึงผิวน้ำ ห่วงยางอาจพลิกคว่ำ ทำให้หน้าเด็กคว่ำไปด้วย ถ้าเด็กไม่สามารถพลิกตัวกลับมาได้ ก็อาจทำให้เด็กหายใจไม่ออก อันตรายถึงชีวิต ดังนั้น ควรสอนให้ลูกระมัดระวังและผู้ปกครองควรดูบุตรหลานตลอดเวลาที่เด็กเล่นน้ำค่ะ

4. สำรวจสิ่งกีดขวางก่อนลงน้ำ

ก่อนที่จะกระโดดลงเล่นน้ำ ให้ลูกสำรวจดูว่า ลึกไหม บริเวณพื้นบ่อ หรือใต้น้ำ มีกรวดหิน แก้วแตก หรือมีสิ่งอันตรายกีดขวางอยู่หรือไม่

5. ว่ายน้ำในบริเวณที่มีคน

บอกลูก ให้ว่ายน้ำในบริเวณที่มีคน หรือผู้ดูแลความปลอดภัย อย่าเล่นหรือว่ายน้ำเข้าไปในระหว่างเรือที่ทอดสมอเรืองจอดอยู่ หรือเล่นในบริเวณที่มีเรือยนต์ หรือเรือเร็วแล่นอยู่

6. คู่หูสำคัญ

อย่าปล่อยให้เด็กว่ายน้ำคนเดียว ควรมีคู่หูว่ายน้ำไปด้วย ไม่ว่าจะเป็นพี่น้อง พี่ ป้า น้า อา พยายามคอยดูเพื่อนเล่น หรือว่ายน้ำด้วยกัน ยังไงก็ไม่ควรปล่อยให้ลูกว่ายน้ำคนเดียวตามลำพังค่ะ

7. ไม่ให้ลูกเล่นน้ำตอนกลางคืน

ช่วงเวลาที่เหมาะให้ลูกเล่นน้ำคือช่วงเช้า หรือช่วงเย็นที่อากาศไม่ร้อน และมีแสงสว่างธรรมชาติพอที่จะทำให้คุณพ่อคุณแม่ หรือผู้คุมมองเห็นและดูแลความปลอดภัยได้ง่ายและทั่วถึง

การว่ายน้ำ เป็นกิจกรรมกีฬาที่ดีต่อสุขภาพ ฝึกให้เด็กรู้จักพัฒนาตัวเองทั้งร่างกายและจิตใจ ไม่ว่าลูกจะอยู่ในช่วงอายุเท่าไหร่ สิ่งสำคัญที่สุดคือ การฝึกให้ลูกว่ายน้ำอย่างปลอดภัยเป็นสิ่งสำคัญที่คุณพ่อคุณแม่ไม่ควรละเลย และไม่ลืมเลือกสระที่ได้มาตรฐานความสะอาด และความปลอดภัยด้วยนะคะ

ที่มา – www.doctor.or.th

Writer Profile : nunzmoko

  • Blog :
  • Social Media :

  • Official Sponsors :
  • Samitivej Hospital

Generic placeholder image

บทความที่เกี่ยวข้อง



8 กีฬาฝึกลูกไว้ไม่มีเชย
กิจกรรมของครอบครัว
ชีวิตครอบครัว ชีวิตครอบครัว
26 กรกฏาคม 2560
CAR SEAT กับเด็กแต่ละช่วงอายุ
ข้อมูลทางแพทย์
10 วิธี เลี้ยงลูกยังไงให้ฉลาด
ชีวิตครอบครัว
9 อันดับหนังแนะนำ ดูกับลูกได้ในช่วง movie night
กิจกรรมของครอบครัว
Update
Banner Banner
เมื่อคุณแม่หลายท่านเป็นกังวลกับเรื่องพัฒนาการสมองและภูมิคุ้มกันที่แตกต่างกันของลูกน้อยที่ผ่าคลอดกับเด็กคลอดธรรมชาติ กลัวว่าลูกน้อยจะมีโอกาสป่วยง่ายหรือมีพัฒนาการสมองช้ากว่าเพื่อนๆ ทำให้คุณแม่ต้องใส่ใจกับการดูแลลูกน้อยมากยิ่งขึ้น เสมือนการเร่งเสริมสร้างเกราะคุ้มกันให้ลูกน้อยเติบโตพร้อมปรับตัวกับโลกยุคใหม่ที่เต็มไปด้วยการเปลี่ยนแปลง วันนี้เราจะพาไปดูเคล็ดไม่ลับ ฉบับการดูแลพัฒนาการสมองของลูกน้อยและภูมิคุ้มกันของเด็กผ่าคลอดที่คุณแม่ไม่ควรมองข้าม ช่วยเติมเต็มในสิ่งที่ลูกผ่าคลอดต้องการได้ ไปดูกันเลย! เกราะคุ้มกันแรกที่หายไปของเด็กผ่าคลอด เด็กผ่าคลอดมักจะป่วยง่ายหรือมีปัญหาสุขภาพมากกว่าเด็กที่คลอดโดยธรรมชาติ เพราะสูญเสียโอกาสในการได้รับเชื้อจุลินทรีย์สุขภาพ ผ่านทางบริเวณช่องคลอดของคุณแม่ ทำให้เกราะคุ้มกันแรกเกิดของลูกน้อยผ่าคลอดหายไปส่งผลให้เด็กมีพัฒนาการทางระบบภูมิคุ้มกันตั้งต้นช้ากว่าเด็กที่คลอดตามธรรมชาติ บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) เป็นจุลินทรีย์ชนิดดีที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันตั้งต้น โดยเฉพาะระบบภูมิคุ้มกันในระบบทางเดินอาหาร คุณแม่จึงต้องเร่งเสริมสร้างเกราะคุ้มกันให้ลูกน้อยมีพื้นฐานที่ดีตั้งแต่เริ่มต้น เพื่อช่วยให้ลูกน้อยของเรามีมีระบบภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้น เสริมสร้างพัฒนาการด้านสมองของเด็กผ่าคลอดด้วย “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” คือสารอาหารที่พบมากในนมแม่ เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้การทำงานสมองของลูกน้อยมีประสิทธิภาพ สร้างสมองไวกว่าเดิม เชื่อมต่อเซลล์สมอง 1 แสนล้านเซล์ อัพเกรดเด็กเจนใหม่ โดยสร้างสารสื่อประสาทในสมอง และเพิ่มความเร็วการส่งสัญญาณประสาทแบบก้าวกระโดด “สฟิงโกไมอีลิน” คือ ไขมันกลุ่มฟอสโฟไลปิด พบได้มากในน้ำนมแม่ที่อุดมไปด้วยสารอาหารกว่า 200 ชนิด ซึ่ง “สฟิงโกไมอีลิน”เป็นองค์ประกอบในการสร้างปลอกไมอีลิน ซึ่งมีผลต่อการทำงานของสมองให้ส่งสัญญาณประสาทได้ไวและประมวลผลอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้เกิดการจดจำเร็ว เรียนรู้ไว สมองของเด็กผ่าคลอดและเด็กที่คลอดตามธรรมชาติ มีการสร้างไมอีลินในสมองแตกต่างกัน โดยเฉพาะที่ส่วนของสมอง ที่ทำหน้าที่เชื่อมโยงระหว่างสมองซีกซ้ายและซีกขวา คุณแม่จึงควรคำนึงถึงจุดเริ่มต้นที่แตกต่าง ของเด็กผ่าคลอดเจนใหม่ ด้วยการเตรียมสมองไวและภูมิคุ้มกันที่ดีด้วย “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” และ บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) จากนมแม่ให้ลูกน้อยยิ่งเริ่มเร็วก็ยิ่งดี เพราะพัฒนาการสมองที่ดีในวัยเด็ก ถือเป็นรากฐานสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการมองเห็น การได้ยิน หรือการเรียนรู้ภาษาสิ่งเหล่านี้ล้วนเกิดจากพัฒนาการของสมองเพราะสมองคือจุดเริ่มต้น ของทุกพัฒนาการของลูกน้อย เตรียมพร้อมเด็กผ่าคลอดให้มีสมองไวและภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้นได้ คุณแม่สามารถเติมเต็มในสิ่งที่ลูกน้อยผ่าคลอดต้องการได้ด้วยสารอาหารที่สำคัญอย่างเช่น “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” ที่ช่วยเพิ่มความเร็วในการส่งสัญญาณประสาทได้เร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น และโพรไบโอติก บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) ตัวช่วยที่ทำให้ลูกน้อยมีภูมิคุ้มกันสุขภาพที่ดี ดังนั้นคุณแม่ก็วางใจได้ หากเราเสริมสร้าง…
3 กันยายน 2568

anal porno zdarma culi nudi al mare free sex videos antalya escort

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save