พ่อแม่ทุกคนก็หวังเป็นอย่างมากที่จะให้ลูกของเรานั้นเป็นคนที่มีแต่ความสำเร็จ และเป็นคนที่ถูกชื่นชมจากคนรอบข้าง แต่ความสำเร็จบางครั้งก็มาพร้อมความกดดัน และพ่อแม่อย่างเราเองก็มักจะไม่รู้ตัวเลยว่าเผลอทำร้ายลูกด้วยความกัดดันจากการคาดหวังของเราด้วย
เพราะเด็กก็คือเด็ก วันไหนที่เขาทำผิดพลาด เราเองก็คงต้องยอมรับว่า ลูกนั้นก็ไม่ได้จำเป็นที่จะต้องสมบูรณ์ตลอดเวลาจริงไหมคะ
ความหวังดีแบบไหนที่พ่อแม่มักทำร้ายลูกโดยไม่รู้ตัว
1. เลือกความฝันแทนลูก
ในอดีตของเราเองบางครั้งก็อยากทำโน้น อยากเป็นนี่ จนวันนึงพอมีลูกก็อยากที่จะให้เขาทำให้สำเร็จเหมือนที่เราฝันไว้ในอดีตให้ได้ แต่การทำเช่นนี้เหมือนเป็นการยัดเยียดความฝันของเราให้กับลูก สุดท้ายยังไงถ้าความฝันนั้นไม่ใช่สิ่งที่เขาต้องการ มันก็อาจจะกลายเป็นสิ่งที่ทำร้ายลูกได้เช่นกัน เพราะฉะนั้นสิ่งเราพ่อแม่อย่างเราควรทำก็คือ ลองปล่อยให้เขาได้ค้นหาตัวเองจริงๆ และให้เขาเลือกในสิ่งที่ชอบจริงๆ คอยอยู่เคียงข้างเขาแค่นั้นก็พอแล้วค่ะ
2. เปรียบเทียบลูกกับใครๆ
พ่อแม่บางคนตอนเด็กๆ อาจจะเคยเจอกับสถานการณ์การเปรียบเทียบแบบนี้ก็คงจะพอเข้าใจนะคะว่ารู้สึกอย่างไร นอกจากจะบั่นทอนและทำลายความรู้สึกของลูกแล้ว ยังทำให้เด็กๆ รู้สึกว่าตัวเองไม่ดีพอสำหรับใครๆ ได้อีกด้วยนะคะ หรือถ้าหากลูกทำได้ดี พ่อแม่บางคนก็มักจะอวดลูกกับคนอื่นๆ ทำแบบนี้ก็เป็นการกดดันลูกของเราได้เช่นกัน เพราะเขาจะคิดว่าพ่อแม่เชื่อว่าเราเก่ง เราต้องห้ามทำให้ท่านผิดหวัง เพราะฉะนั้นแล้วหยุดพฤติกรรมนี้ และยอมรับในสิ่งที่ลูกเป็นเพราะพวกเขาทำดีที่สุดแล้วค่ะ
3. ฉันเชื่อว่าลูกฉันเก่งกว่าใคร
เพราะพ่อแม่เชื่อว่าลูกเก่ง จนบางครั้งลูกเองก็เกิดความกลัวที่จะทำให้พ่อแม่ของตัวเองต้องผิดหวัง ทำให้พวกเขากดดันตัวเองอย่างมาก เพราะไม่มีเด็กๆ คนไหนหรอกค่ะที่อยากจะทำให้พ่อแม่ตัวเองต้องเสียใจ เพราะฉะนั้นแล้ว หากลูกพลาดหรือไม่ได้ประสบความสำเร็จอะไรก็ตาม เราเองก็ไม่ควรผิดหวัง เพราะเด็กๆ กลัวการที่ทำให้เราผิดหวังและเราเสียใจยิ่งกว่าการพ่ายแพ้ไม่ได้ที่ 1 เสียอีก ฉะนั้นแล้วในวันที่เขาล้ม เราเองก็ต้องคอยเคียงข้างเขา ให้เขาได้มีพลังกายและพลังใจในตัวเองอีกครั้ง เพราะใครๆ ก็ผิดหวังได้และนับหนึ่งใหม่ได้เสมอนั่นเองค่ะ
4. ลูกเก่งด้านนี้ ลูกต้องชอบด้านนี้แน่ๆ
จริงๆ แล้วหากลูกมีพรสวรรค์ด้านใด มันเป็นสิ่งที่ดีนะคะที่พ่อแม่อย่างเราส่งเสริมเขาให้ถูกทางอย่างเหมาะสม แต่บางทีหากเรายัดสิ่งเหล่านี้มากเกินไปเขาอาจจะไม่ชอบด้านนั้นก็ได้นะคะ เพราะบางครั้งด้านที่เขาไม่ถนัด อาจจะเป็นสิ่งที่เขาสนุกกับมันก็ได้ค่ะ พ่อแม่ควรปล่อยให้เขาได้เรียนรู้และลองให้โอกาศในด้านอื่นๆ บ้าง ใช่ว่าจะส่งเสริมให้เขาเรียนๆๆ อย่างเดียว เพราะเด็กก็คือเด็ก เขาควรมีโอกาศได้เล่นตามวัยอย่างที่ควรจะเป็นนะคะ ถึงแม้ว่าเราจะเห็นว่าเขาเก่งแค่ไหน แต่การบังคับลูกและส่งเสริมในด้านที่เขามีพรสวรรค์มากเกินไปอาจจะทำให้กลายเป็นการกดดันลูกได้นั่นเองค่ะ
5. จัดระเบียบกฎเกณฑ์ให้ลูกมากเกินไป
การสอนลูกให้เป็นเด็กมีระเบียบเรียบร้อยถือเป็นเรื่องที่ดีนะคะ แต่หากมากเกินไปก้าวก่ายความเป็นส่วนตัวของลูก เช่น คอยไปตรวจตราห้องส่วนตัวของลูกมากเกินไป วางโน้นนี่ผิดแปลกก็โดนด่า โดยนิสัยนี้หากทำมากไปอาจจะทำให้เขาอึดอัดได้ เพราะพวกเขาไม่พื้นที่ส่วนตัวเป็นของตัวเองเอาซะเลย
6. เชื่อว่ากรอบที่พ่อแม่สร้างเป็นสิ่งที่ดีที่สุด
ความเป็นพ่อแม่เราเองก็เข้าใจได้ถึงการที่อยากจะให้ลูกเราอยู่ในที่ที่ปลอดภัยที่สุด ดีที่สุด โดยตีกรอบกติกาไว้กับชีวิตของลูกอย่างเข้มงวดมากเกินไป ความหวังดีนั้นอาจจะกลายเป็นการสร้างความผิดพลาดให้กับตัวลูกและคุณพ่อคุณแม่เองได้ เพราะเขาจะไม่ได้มีโอกาสได้เรียนรู้สิ่งต่างๆ อย่างที่ควรจะเป็น เมื่อโตขึ้นมาหากเขาได้ไปพบกับโลกภายนอกที่ไม่เหมือนอย่างที่พ่อแม่สร้างกรอบไว้ให้ อาจจะทำให้เขาเข้ากับคนอื่นๆ ในสังคมได้ยาก และไม่สามารถมีความคิดเป็นของตัวเองได้เลย เพราะกลัวผิด และไม่เหมือนอย่างที่พ่อแม่เคยบอกไว้ เพราะฉะนั้นตีกรอบได้แต่ควรเป็นกรอบที่ยืดหยุ่นกับลูกได้จะดีกว่านะคะ