fbpx

รับมือยังไงเมื่อลูกน้อยแพ้นมวัว

Writer : Jicko
: 28 กันยายน 2561

นมวัวอุดมไปด้วยสารอาหารที่คุณค่าต่อร่างกาย ซึ่งทำให้เป็นปัญหาที่หนักอกหนักใจคุณแม่มากๆ เลยทีเดียว ซึ่งปัจจุบันโรคแพ้นมวัวมักจะพบอาการตั้งแต่อายุยังน้อย บางคนก็เกิดอาการแพ้อย่างรุนแรง ซึ่งเหล่านี้ก็เป็นอันตรายต่อร่างกายลูกน้อยอีกด้วย งั้นวันนี้เรามาทำความรู้จักกับเจ้าอาการแพ้นมวัวในวัยเด็ก เพื่อเป็นประโยชน์กับคุณแม่ๆ กันเลย

เด็กจะแพ้นมวัวตลอดไปหรือไม่

  • 50% ของเด็กที่มีอาการแพ้นมวัว จะมีอาการแพ้จนถึงช่วงอายุ 1 ขวบ
  • 75% ของเด็กที่มีอาการแพ้นมวัว  จะมีอาการแพ้จนถึงช่วงอายุ 2 ขวบ
  • 85% ของเด็กที่มีอาการแพ้นมวัว  จะมีอาการแพ้จนถึงช่วงอายุ 3-4 ขวบ

สาเหตุ

การที่เด็กๆ ได้รับอาหารอย่างอื่นที่ไม่ใช่นมแม่ อาจจะผผิผะผผผผผผผผิผเสี่ยงต่อการเกิดอาการแพ้อาหาร เนื่องจากโปรตีนแปลกปลอมเหล่านี้ไม่ถูกย่อยหรือทำลาย โดยเฉพาะเด็กวัย 4 – 6 เดือนแรก ที่เยื่อบุทางเดินอาหารระบบภูมิคุ้มกัน และระบบน้ำย่อยต่างๆ ยังไม่เข็งแรงโปรตีนดังกล่าวจึงเข้าสู่ร่างกายได้มาก  เป็นเหตุให้เด็กๆ เกิดอาการแพ้โปรตีนนมวัวได้ค่ะ แต่สาเหตุหลักๆ ที่ทำให้เด็กๆ เกิดอาการแพ้มีดังนี้

  1. พันธุกรรม เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้เด็กๆ เกิดอาการแพ้ได้เมื่อคนในครอบครัวมีประวัติเป็นภูมิแพ้ค่ะ
  2. ในขณะที่คุณแม่ตั้งท้องได้ดื่มนมวัว หรือผลิตภัณฑ์จากนมวัวมากเกินไป ทำให้กระตุ้นให้เด็กๆ เกิดภูมิแพ้ขึ้นได้
  3. เด็กๆ ได้รับสารอาหารเสริมที่เร็วเกินไป  ในช่วงที่ระบบทางเดินอาหารยังไม่แข็งแรง หรือทารกก่อนช่วงอายุ 6 เดือน ซึ่งหากได้รับโปรตีนแปลกปลอมก็อาจจะหลุดหลอดเข้าไปในระบบย่อยอาหารและกระตุ้นให้เด็กๆ เกิดอาการแพ้ได้ค่ะ

อาการ

อาการแพ้นมวัว คือ อาการที่ร่างกายไม่สามารถย่อยโปรตีนในนมวัวได้ อัตราของเด็กที่มีอาการแพ้นมวัว คือ 0.3 – 7.5%  อาการแพ้นมวัว สามารถแสดงออกมาได้หลายระบบของร่างกาย แต่อาการที่พบบ่อยที่สุดได้แก่

  • มีผื่นแพ้

ผื่นจะมีลักษณะเป็นเม็ดๆ เล็กๆ จะขึ้นเป็นเวลานาน เป็นๆ หายๆ ส่วนใหญ่จะขึ้นที่ หน้า ศีรษะ หน้าผาก หรือบางคน อาจจะขึ้นตามแขนตามขา และลำตัวค่ะ

  • ถ่ายเป็นมูกเลือด

เมื่อลูกๆ มีอาการท้องเสีย เวลาถ่ายมาจะมีเลือดผสมอยู่ด้วย คุณพ่อคุณแม่ ต้องคิดเสมอว่าลูกอาจจ  ผอะะแพ้โปรตีนนมวัว เพราะฉะนั้นควรรีบไปพบแพทย์ทันทีค่ะ

  • แหวะนม

สังเกตเมื่อป้อนนมลูกทุกครั้ง หลังจากกินนมเข้าไปเค้าก็จะอาเจียนหรือแหวะนมออก

  • น้ำมูกไหลเรื้อรัง

จริงๆ คุณพ่อคุณแม่อาจจะคิดว่า ลูกๆ เป็นหวัดเฉยๆ จึงทำให้น้ำมูกไหล แต่ถ้าลูกเป็นหลายวันหรือเป็นติดกันเรื้อรังไม่หาย ให้คิดไว้เลยว่าน่าจะเกิดจากการแพ้โปรตีนนมวัวก็ได้ค่ะ

  • งอแงผิดปกติ

หลังจากที่กินนมแล้ว สังเกตได้เลยถ้าลูกๆ ร้องไห้งอแง ทั้งๆ ที่กินอิ่มแล้วก็ตาม แต่ก็ยังร้องไห้งอแงอยู่เป็นประจำ ให้เข้าใจเลยว่าลูกอาจจะปวดท้องจากการกินนม

  • หอบ หายใจไม่สะดวก

สังเกตให้ดี ถ้าเมื่อไหร่ที่ลูกๆ หายใจเหนื่อย หอย หน้าอกกระเพื่อมขึ้นลงแรงผิดปกติ หรืออาจจะมีเสียงหายใจของลูกดังวี้ดๆ แสดงว่าลูกมีปัญหาเรื่องระบบทางเดินหายใจ อาจจะเกิดจากการแพ้โปรตีนนมวัว ให้พาลูกไปพบแพทย์ทันทีเลยค่ะ

  • ท้องเสียเรื้อรัง

หากลูกกินนมเมื่อไหร่ แล้วท้องเสียทันที นั้นแหละค่ะ ลูกอาจจะแพ้โปรตีนนมวัวก็ได้

วิธีการดูแลรักษา

สิ่งสำคัญที่สุดของการรักษาอาการแพ้นมวัวก็คือ  หลีกเลี่ยงการรับประทานผลิตภัณฑ์จากนมวัวทั้งสิ้น เช่น โยเกิร์ต เนย ไอศครีม และอาหารที่มีส่วนผสมของนมวัว นอกจากนี้เลือกทานอาหารประเภทอื่นเพื่อทดแทนสารอาหารที่มาจากนมวัว  หรืออาจจะปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญให้เป็นคนแนะนำซึ่งคุณอาจจะเลือกใช้นมถั่วเหลืองแทนการใช้นมวัวก็ได้ค่ะ แต่ที่สุดแล้วคุณพ่อคุณแม่เมื่อไหร่ที่ลูกมีอาการก็ควรจะพาลูกๆ ไปพบแพทย์เพื่อรรับการรักษาด้วยนะคะ

วิธีการเลือกนมอื่นๆ แทนนมวัว เมื่อลูกแพ้

  • นมถั่วเหลืองหรือน้ำเต้าหู้ เหมาะกับเด็กวัย 1 ปีขึ้นไป เนื่องจากขาดกรดอะมิโนซึ่งสำคัญและจำเป็นมากต่อร่างกายลูกจึงไม่เหมาะกับเด็กเล็กๆ แต่นับว่าเป็นนมที่มีโปรตีนสูงมากเลยทีเดียวค่ะ
  • นมถั่วเหลืองชนิดผงและเติมกรดอะมิโนเข้าไป ใช้ได้ตั้งแต่แรกเกิดเลย เพราะมีคุณค่าเท่าๆ กับนมวัว แต่ราคาค่อนข้างจะแพง แถมรสชาติไม่ค่อยถูกปากลูกน้อยสักเท่าไหร่นัก
  • นมสูตรพิเศษ นมนี้ผลิตขึ้นมาเพื่อใช้แทนนมวัวโดยเฉพาะเพื่อให้เด็กที่แพ้นมวัวเลยค่ะ เพราะนมนี้มีโมเลกุลเล้ก จึงทำให้หมดปัญหาการย่อยของลำไส้ แต่ก็ตามมาด้วยราคาที่สูงอยู่พอสมควรกว่านมประเภทอื่นๆ รสชาติก็ไม่ถูกปากเจ้าตัวน้อยสักเท่าไหร่ด้วยค่ะ

 

ที่มา : maerakluke ,pobpad

Writer Profile : Jicko

  • Social Media :

  • Official Sponsors :
  • Samitivej Hospital

Generic placeholder image

บทความที่เกี่ยวข้อง



ช่วงวัยของเด็ก ช่วงวัยของเด็ก
11 กันยายน 2560
ลูกชอบพูดแทรก จะแก้อย่างไร
ชีวิตครอบครัว
ควรให้ลูกนอนวันละกี่ชั่วโมง?
ชีวิตครอบครัว
Update
Banner Banner
เมื่อคุณแม่หลายท่านเป็นกังวลกับเรื่องพัฒนาการสมองและภูมิคุ้มกันที่แตกต่างกันของลูกน้อยที่ผ่าคลอดกับเด็กคลอดธรรมชาติ กลัวว่าลูกน้อยจะมีโอกาสป่วยง่ายหรือมีพัฒนาการสมองช้ากว่าเพื่อนๆ ทำให้คุณแม่ต้องใส่ใจกับการดูแลลูกน้อยมากยิ่งขึ้น เสมือนการเร่งเสริมสร้างเกราะคุ้มกันให้ลูกน้อยเติบโตพร้อมปรับตัวกับโลกยุคใหม่ที่เต็มไปด้วยการเปลี่ยนแปลง วันนี้เราจะพาไปดูเคล็ดไม่ลับ ฉบับการดูแลพัฒนาการสมองของลูกน้อยและภูมิคุ้มกันของเด็กผ่าคลอดที่คุณแม่ไม่ควรมองข้าม ช่วยเติมเต็มในสิ่งที่ลูกผ่าคลอดต้องการได้ ไปดูกันเลย! เกราะคุ้มกันแรกที่หายไปของเด็กผ่าคลอด เด็กผ่าคลอดมักจะป่วยง่ายหรือมีปัญหาสุขภาพมากกว่าเด็กที่คลอดโดยธรรมชาติ เพราะสูญเสียโอกาสในการได้รับเชื้อจุลินทรีย์สุขภาพ ผ่านทางบริเวณช่องคลอดของคุณแม่ ทำให้เกราะคุ้มกันแรกเกิดของลูกน้อยผ่าคลอดหายไปส่งผลให้เด็กมีพัฒนาการทางระบบภูมิคุ้มกันตั้งต้นช้ากว่าเด็กที่คลอดตามธรรมชาติ บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) เป็นจุลินทรีย์ชนิดดีที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันตั้งต้น โดยเฉพาะระบบภูมิคุ้มกันในระบบทางเดินอาหาร คุณแม่จึงต้องเร่งเสริมสร้างเกราะคุ้มกันให้ลูกน้อยมีพื้นฐานที่ดีตั้งแต่เริ่มต้น เพื่อช่วยให้ลูกน้อยของเรามีมีระบบภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้น เสริมสร้างพัฒนาการด้านสมองของเด็กผ่าคลอดด้วย “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” คือสารอาหารที่พบมากในนมแม่ เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้การทำงานสมองของลูกน้อยมีประสิทธิภาพ สร้างสมองไวกว่าเดิม เชื่อมต่อเซลล์สมอง 1 แสนล้านเซล์ อัพเกรดเด็กเจนใหม่ โดยสร้างสารสื่อประสาทในสมอง และเพิ่มความเร็วการส่งสัญญาณประสาทแบบก้าวกระโดด “สฟิงโกไมอีลิน” คือ ไขมันกลุ่มฟอสโฟไลปิด พบได้มากในน้ำนมแม่ที่อุดมไปด้วยสารอาหารกว่า 200 ชนิด ซึ่ง “สฟิงโกไมอีลิน”เป็นองค์ประกอบในการสร้างปลอกไมอีลิน ซึ่งมีผลต่อการทำงานของสมองให้ส่งสัญญาณประสาทได้ไวและประมวลผลอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้เกิดการจดจำเร็ว เรียนรู้ไว สมองของเด็กผ่าคลอดและเด็กที่คลอดตามธรรมชาติ มีการสร้างไมอีลินในสมองแตกต่างกัน โดยเฉพาะที่ส่วนของสมอง ที่ทำหน้าที่เชื่อมโยงระหว่างสมองซีกซ้ายและซีกขวา คุณแม่จึงควรคำนึงถึงจุดเริ่มต้นที่แตกต่าง ของเด็กผ่าคลอดเจนใหม่ ด้วยการเตรียมสมองไวและภูมิคุ้มกันที่ดีด้วย “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” และ บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) จากนมแม่ให้ลูกน้อยยิ่งเริ่มเร็วก็ยิ่งดี เพราะพัฒนาการสมองที่ดีในวัยเด็ก ถือเป็นรากฐานสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการมองเห็น การได้ยิน หรือการเรียนรู้ภาษาสิ่งเหล่านี้ล้วนเกิดจากพัฒนาการของสมองเพราะสมองคือจุดเริ่มต้น ของทุกพัฒนาการของลูกน้อย เตรียมพร้อมเด็กผ่าคลอดให้มีสมองไวและภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้นได้ คุณแม่สามารถเติมเต็มในสิ่งที่ลูกน้อยผ่าคลอดต้องการได้ด้วยสารอาหารที่สำคัญอย่างเช่น “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” ที่ช่วยเพิ่มความเร็วในการส่งสัญญาณประสาทได้เร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น และโพรไบโอติก บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) ตัวช่วยที่ทำให้ลูกน้อยมีภูมิคุ้มกันสุขภาพที่ดี ดังนั้นคุณแม่ก็วางใจได้ หากเราเสริมสร้าง…
3 กันยายน 2568

anal porno zdarma culi nudi al mare free sex videos antalya escort

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save