fbpx

อัศจรรย์ผักโขม! กินง่ายได้ประโยชน์กับเจ้าตัวเล็กที่พึ่งฝึกกินผัก

Writer : OttChan
: 17 กุมภาพันธ์ 2564

เมื่อลูกของเราอายุเกิน 6 เดือน ถึงเวลาที่สามารถทานอาหารที่มีเนื้อสัมผัสได้ ผักแข็งที่ใครๆ ก็ต้องนึกถึง คงไม่พ้นผักโขมใช่ไหมล่ะคะ เพราะผักโขมนั้นอุดมด้วยประโยชน์ ทานง่ายและทำได้หลากหลายเมนู วันนี้เราก็เลยจะมาบอกประโยชน์แบบครบถ้วนของผักโขมกันเลย รวมไปถึงเมนูต่างๆ ที่สามารถนำไปทำให้เจ้าตัวเล็กของเราได้ทานกันง่ายๆ

สารอาหารในผักโขม

  • ธาตุเหล็ก
  • วิตามินซี, เอ
  • กรดอะมิโน
  • แมกนีเซียม
  • โพแทสเซียม
  • แคลเซียม

ประโยชน์ที่จะได้รับจากผักโขม

เพราะเป็นผักที่ทานง่าย และมีประโยชน์สูง ดังนั้นข้อดีในการที่เจ้าตัวเล็กของเราได้ทานผักโขมเป็นผักอันดับแรกๆ เลยก็จะช่วยให้เรื่อง

  • บำรุงเลือด, ลดการเกิดภาวะโลหิตจาง
  • ช่วยระบบเผาผลาญให้ดีขึ้น ไม่ก่อให้เกิดไขมันสะสม
  • เสริมสร้างกระดูกและฟัน
  • ช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันให้ลูกน้อย
  • ทำให้ขับถ่ายง่าย
  • ในกรณีที่เจ้าตัวเล็กมีปัญหาเกี่ยวกับไตหรือทางเดินอาหารต้องปรุงอาหารที่มีส่วนผสมของนมจึงจะไม่เป็นไร

เมนูผักโขมแนะนำสำหรับเจ้าตัวเล็ก

อายุ 6 เดือนขึ้นไป

  • ซุปผักโขม สูตร : ผักโขมต้ม +นมแม่ ปั่นรวมเข้าด้วยกันก็ได้ซุปผักแล้ว
  • ข้าวบดผักโขม  สูตร : ผักโขมต้ม + ข้าวสวย + นมแม่ + ไข่แดงสุก  บดทุกอย่างให้เป็นเนื้อละเอียดและนำมารวมกัน

อายุ 1 ขวบขึ้นไป

  • ซุปครีมผักโขม สูตร : ผักโขมต้ม + นมแม่ + เนย + หัวหอมต้ม นำทุกอย่างมาผสมบดรวมกันให้ละเอียดพร้อมอุ่นร้อนก็ทานได้แล้ว
  • ข้าวต้มผักโขม สูตร : ผักโขมซอยให้ละเอียด + ข้าว + เนื้อปลาขาว + เกลือ + งาดำ เริ่มจากต้มข้าวและผักให้นิ่มจนเกือบ, ใส่เนื้อปลาตามลงไปให้สุก ก่อนปรุงรสด้วยเกลือและงาดำ

อายุ 2-3 ขวบ

  • ผักโขมอบชีส สูตร : ผักโขมต้มและบีบน้ำออก (ซอยให้ชิ้นเล็ก ทานง่าย ) + เนย + นม + หัวหอม + เกลือ + ชีสสำหรับเด็ก นำเนยกับหัวหอมผัดให้เข้ากันจนสุกดี และตามด้วยนม, กวนทุกอย่างจนเข้ากันและปรุงรสด้วยเกลือดพร้อมทั้งใส่ผักโขมลงไป หลังจากนั้นตักใส่จานหรือถ้วยและโรยด้วยชีสนำไปเข้าเตาอบหรือไมโครเวฟจนชีสละลายเยิ้มน่าทาน
  • ผักโขมผัดหมูซีอิ๊ว สูตร : ผักโขมหั่นขนาดพอดีคำ + กระเทียม +  หมูสับ + น้ำมัน + ซีอิ๊ว + น้ำตาล วิธีทำก็แสนง่ายเพียงผัดน้ำมันและกระเทียมเข้าด้วยกันก่อนจะนำหมูสับลงไปผัดจนเริ่มสุก ปรุงรสด้วยซีอิ้วและน้ำตาล พอเริ่มเข้าเนื้อดีก็ใส่ผักโขมลงไปผัดด้วยกัน ตักทานพร้อมข้าวสวยนุ่มๆ หรือข้าวต้มอุ่นๆ ก็อร่อยทั้งนั้น

ที่มา : farmforage

Writer Profile : OttChan

  • Blog :
  • Social Media :

  • Official Sponsors :
  • Samitivej Hospital

Generic placeholder image

บทความที่เกี่ยวข้อง



CAR SEAT กับเด็กแต่ละช่วงอายุ
ข้อมูลทางแพทย์
Update
Banner Banner
เมื่อคุณแม่หลายท่านเป็นกังวลกับเรื่องพัฒนาการสมองและภูมิคุ้มกันที่แตกต่างกันของลูกน้อยที่ผ่าคลอดกับเด็กคลอดธรรมชาติ กลัวว่าลูกน้อยจะมีโอกาสป่วยง่ายหรือมีพัฒนาการสมองช้ากว่าเพื่อนๆ ทำให้คุณแม่ต้องใส่ใจกับการดูแลลูกน้อยมากยิ่งขึ้น เสมือนการเร่งเสริมสร้างเกราะคุ้มกันให้ลูกน้อยเติบโตพร้อมปรับตัวกับโลกยุคใหม่ที่เต็มไปด้วยการเปลี่ยนแปลง วันนี้เราจะพาไปดูเคล็ดไม่ลับ ฉบับการดูแลพัฒนาการสมองของลูกน้อยและภูมิคุ้มกันของเด็กผ่าคลอดที่คุณแม่ไม่ควรมองข้าม ช่วยเติมเต็มในสิ่งที่ลูกผ่าคลอดต้องการได้ ไปดูกันเลย! เกราะคุ้มกันแรกที่หายไปของเด็กผ่าคลอด เด็กผ่าคลอดมักจะป่วยง่ายหรือมีปัญหาสุขภาพมากกว่าเด็กที่คลอดโดยธรรมชาติ เพราะสูญเสียโอกาสในการได้รับเชื้อจุลินทรีย์สุขภาพ ผ่านทางบริเวณช่องคลอดของคุณแม่ ทำให้เกราะคุ้มกันแรกเกิดของลูกน้อยผ่าคลอดหายไปส่งผลให้เด็กมีพัฒนาการทางระบบภูมิคุ้มกันตั้งต้นช้ากว่าเด็กที่คลอดตามธรรมชาติ บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) เป็นจุลินทรีย์ชนิดดีที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันตั้งต้น โดยเฉพาะระบบภูมิคุ้มกันในระบบทางเดินอาหาร คุณแม่จึงต้องเร่งเสริมสร้างเกราะคุ้มกันให้ลูกน้อยมีพื้นฐานที่ดีตั้งแต่เริ่มต้น เพื่อช่วยให้ลูกน้อยของเรามีมีระบบภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้น เสริมสร้างพัฒนาการด้านสมองของเด็กผ่าคลอดด้วย “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” คือสารอาหารที่พบมากในนมแม่ เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้การทำงานสมองของลูกน้อยมีประสิทธิภาพ สร้างสมองไวกว่าเดิม เชื่อมต่อเซลล์สมอง 1 แสนล้านเซล์ อัพเกรดเด็กเจนใหม่ โดยสร้างสารสื่อประสาทในสมอง และเพิ่มความเร็วการส่งสัญญาณประสาทแบบก้าวกระโดด “สฟิงโกไมอีลิน” คือ ไขมันกลุ่มฟอสโฟไลปิด พบได้มากในน้ำนมแม่ที่อุดมไปด้วยสารอาหารกว่า 200 ชนิด ซึ่ง “สฟิงโกไมอีลิน”เป็นองค์ประกอบในการสร้างปลอกไมอีลิน ซึ่งมีผลต่อการทำงานของสมองให้ส่งสัญญาณประสาทได้ไวและประมวลผลอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้เกิดการจดจำเร็ว เรียนรู้ไว สมองของเด็กผ่าคลอดและเด็กที่คลอดตามธรรมชาติ มีการสร้างไมอีลินในสมองแตกต่างกัน โดยเฉพาะที่ส่วนของสมอง ที่ทำหน้าที่เชื่อมโยงระหว่างสมองซีกซ้ายและซีกขวา คุณแม่จึงควรคำนึงถึงจุดเริ่มต้นที่แตกต่าง ของเด็กผ่าคลอดเจนใหม่ ด้วยการเตรียมสมองไวและภูมิคุ้มกันที่ดีด้วย “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” และ บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) จากนมแม่ให้ลูกน้อยยิ่งเริ่มเร็วก็ยิ่งดี เพราะพัฒนาการสมองที่ดีในวัยเด็ก ถือเป็นรากฐานสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการมองเห็น การได้ยิน หรือการเรียนรู้ภาษาสิ่งเหล่านี้ล้วนเกิดจากพัฒนาการของสมองเพราะสมองคือจุดเริ่มต้น ของทุกพัฒนาการของลูกน้อย เตรียมพร้อมเด็กผ่าคลอดให้มีสมองไวและภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้นได้ คุณแม่สามารถเติมเต็มในสิ่งที่ลูกน้อยผ่าคลอดต้องการได้ด้วยสารอาหารที่สำคัญอย่างเช่น “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” ที่ช่วยเพิ่มความเร็วในการส่งสัญญาณประสาทได้เร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น และโพรไบโอติก บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) ตัวช่วยที่ทำให้ลูกน้อยมีภูมิคุ้มกันสุขภาพที่ดี ดังนั้นคุณแม่ก็วางใจได้ หากเราเสริมสร้าง…
3 กันยายน 2568

anal porno zdarma culi nudi al mare free sex videos antalya escort

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save