เชื่อว่าการเลี้ยงลูกให้เติบโตขึ้นเป็นเด็กที่มีความสุขเป็นสิ่งที่แม่ทุกคนต้องการ ทำให้เรานึกถึงคุณแม่หนึ่งคนที่ดูแฮปปี้ และมีชีวิตชีวาอยู่ตลอดเวลา นั่นคือคุณแม่น้ำหวาน ภญ. ญาธิป พิริยะพงศ์ศักดิ์ อดีตเภสัชกรสาวที่ตั้งเพจ Happy Mommy Diary ขึ้นมาพูดคุยกับเหล่าแม่ๆ และให้ความรู้ดีๆ ในการเลี้ยงลูก เราลองมาคุยกับเธอกันว่ามีเคล็ดลับอย่างไรให้มีความสุขกับการเลี้ยงลูกได้แบบนี้
อยากเป็น “คุณแม่” มากๆ
คุณแม่น้ำหวาน: ตอนหลังจากแต่งงานเรามั่นใจมากๆ ว่าตัวเองท้องง่าย แต่พอผ่านไปประมาณ 5 เดือนก็ยังไม่ท้องสักที เราก็เริ่มไปกินยาจีน ที่รสชาติแย่มากเหมือนน้ำในคลองก็ติดเลย (หัวเราะ) ซึ่งตอนที่รู้ว่าขึ้นสองขีดก็รู้สึกดีใจ เพราะตัวเราอยากมีลูกมากๆ ตอนนั้นจำได้ว่าขีดจางมากในช่วงแรกๆ ก็ใช้ที่ตรวจครรภ์ไปทั้งหมด 5 อัน แล้วขีดก็เริ่มเข้มขึ้นมาเรื่อยๆ
ทำอย่างไรให้เป็นคุณแม่อารมณ์ดีตลอดเวลา
คุณแม่น้ำหวาน: เหมือนว่าเราอยากจะมีลูกมาก ทำให้ตั้งแต่ลูกเกิดมาเรายังไม่เคยที่จะโมโหใส่เขาเลย ทั้งที่ชีวิตจริงไม่ใช่คนใจเย็นซึ่งก็ทำได้ด้วยการเอาอารมณ์ไปลงที่สามีแทน (หัวเราะ) คิดว่าการควบคุมอารมณ์มาจากความรู้สึกมีสติตลอดเวลาว่าเขาคือเด็ก แล้วถ้าหลุดโมโหใส่ลูกก็ไม่คุ้ม เพราะสุดท้ายแล้วแม่ก็ต้องเสียใจเอง
ชีวิตคู่เปลี่ยนแปลงไปแค่ไหน
คุณแม่น้ำหวาน: เปลี่ยนไปนะ สมัยก่อนที่จะมีลูกเรานอนกันเที่ยงคืน หรือบางทีนอนเช้า แต่ตอนนี้ชีวิตเปลี่ยนไปเลย เพราะสมัยนี้ถ้าสองทุ่มก็หัวถึงหมอนแล้ว (หัวเราะ) เรียกได้ว่าใส่ชุดนอน ปิดไฟ เล่านิทานหนูน้อยหมวกแดงกันเจ็ดพันรอบแล้วก็นอนกันเลย รู้สึกว่าการมีลูกนั้นทำให้ทุกจังหวะชีวิตก็ต้องโฟกัสไปที่เขาเลย ซึ่งรู้สึกว่าสิ่งที่อยู่ตรงหน้าเราเป็นสิ่งสำคัญที่สุด ถ้าวันหนึ่งคุณจะประสบความสำเร็จ แต่ไม่ได้เลี้ยงลูกให้ดีอะไรที่มีก็ไม่สำคัญ และเขาก็ไม่ได้เป็นเด็กแบบนี้ไปตลอด เพราะฉะนั้น “Family comes first”
อีกอย่างคือตอนคบกันเราดูหนังด้วยกันน้อยมาก (เป็นแฟนกันตั้งแต่ ม.3) แต่พอมีลูกก็กลับชอบดูหนัง(หัวเราะ) เพราะรู้สึกว่ามันเป็นที่สบายๆ และเป็นจุดที่เราได้อยู่กันสองคน คิดว่าจุดหนึ่งคืออย่าลืมสามีไปเลยเพราะเขาเป็นคนแรกที่เรารัก ถ้ามีลูกแล้วเราทิ้งสามีไปเลยก็คิดว่าไม่แฟร์เท่าไร
คุณพ่อมีส่วนช่วยในการเลี้ยงลูกเยอะไหม
คุณแม่น้ำหวาน: คุณพ่อมีส่วนมากช่วยดูลูกเยอะมาก จนพูดได้เลยว่าเราเป็นแม่คนหนึ่งที่แฮปปี้ เรามองว่าคนที่สำคัญที่สุดที่จะช่วยแม่ได้คือ “พ่อ” เพราะคุณพ่อเข้าใจความรู้สึกเราทุกเรื่อง จนเหมือนเขาอยู่ทีมเรา ถ้าให้ถามว่าใครคือเพื่อนที่สนิทที่สุดในชีวิตก้ต้องตอบว่าเป็นเขา แบบแค่มองก็เข้าใจแล้วว่าอะไรเป็นอะไร (หัวเราะ)
นมแม่ “ความยาก” แบบมหากาฬ
คุณแม่น้ำหวาน: ช่วงแรกที่ยากที่สุดตอบได้เลยว่าคือ “นมแม่” เพราะตอนแรกคิดว่าแค่เอานมเข้าปากให้ลูกดูดแล้วก็จบ แต่เหมือนนมเรามันเกิดมายี่สิบกว่าปีมันไม่ไดถูกการดูดอย่างนั้น (หัวเราะ) มันเลยเจ็บและหัวนมแตก
ความยากช่วงที่สอง คือตอนที่ลูกโตขึ้น มันเริ่มใช้การคุยแบบเด็กๆ กับเขาไม่ได้ เพราะมันต้องอาศัยจิตวิทยาหลายอย่าง เช่น เขากินแล้วมือเขาเป็นรอยเปื้อน แล้วเราบอกว่านี่คือเชื้อโรคเขาก็โอเค ใช่ๆ แต่เดี๋ยวนี้จะเป็น “มันไม่ใช่นะหม่าม๊า” เหมือนเขารู้แล้วว่าอะไรมันคืออะไร
การมีพี่น้องเป็น “สิ่งพิเศษ” ในชีวิต
คุณแม่น้ำหวาน: พี่ดีใจอย่างหนึ่งคือเขารักกันมาก เพราะเป็นสิ่งที่แม่ทุกคนที่ลูกมีพี่น้องอยากได้ จะชอบถามกันว่า “น้องรักเฮียมั้ย” หรือ “เฮียรักน้องมั้ย” และพี่น้องของเราทุกคนก็รักกัน เราเลยรู้สึกว่าการมีพี่น้องคือสิ่งที่พิเศษไม่ใช่แค่เพื่อนแต่มีสายเลือดเดียวกัน และไม่ว่ายังไงเขาก็คือคนที่หวังดีกับเราเสมอ ถึงแม้จะทะเลาะกันยังไงสุดท้ายก็วกกลับมาคือคนที่เราพึ่งได้ที่สุด ใจจริงๆ อยากมีลูกทั้งหมด 4 คน แต่ก็กลัวเลี้ยงไม่ไหว (หัวเราะ)
ทำอย่างไรให้พี่น้องรักกัน
คุณแม่น้ำหวาน: ตอนเด็กๆ บ้านเราจะเข้าใจว่าพ่อแม่รักตัวเองมากกว่าทุกคน ไม่รู้เหมือนกันว่าพ่อแม่เลี้ยงแบบไหนให้มีความมั่นใจขนาดนั้น (หัวเราะ) เลยมองว่าเป็นเรื่องของการแค่ให้ความรักลงไปเยอะๆ และมีความรักของพ่อกับแม่ต่อกันด้วย เขาก็จะเห็นว่ารารักกันดี ส่วนกับลูกก็เน้นไปที่การกระจายความรัก
อย่างครอบครัวที่มีน้องใหม่ต้องอย่าไปโฟกัสที่น้องคลอดออกมาใหม่ แต่ให้โฟกัสที่พี่ด้วยการให้ความรักกับเขาแบบเต็มๆ แล้วพอพีต้า(คนโต) เต็มมันจะล้นไปที่เพตัน(คนเล็ก) แต่ถ้าคุณทำให้สิ่งที่ลูกคนโตได้จนเต็มมันพร่องลงไป แล้วไปเติมให้คนเล็กก็จะพร่องทั้งคู่ แต่ถ้าคนโตได้ความรักเต็มมันจะทำให้เผื่อไปถึงน้องได้ด้วย
เลี้ยงลูกแบบยึดตำราไหม
คุณแม่น้ำหวาน: ไม่นะ เพราะธรรมชาติถึงเราจะจบเภสัช แต่ก็ไม่ใช่คนที่เป๊ะอยู่แล้ว ตั้งแต่ต้นคิดว่าตัวเองควรไปเรียนิเทศศาสตร์แทน (หัวเราะ) คือเรารู้สึกว่าชีวิตมันไม่มีอะไรที่ต้องเครียดเกินไป เพราะมันไม่เวิร์ก อย่างตำราเราก็ดูเอาไว้เป็นแนวนะ แต่การเลี้ยงลูกสมัยนี้มันต้องศึกษา เพราะเราลี้ยงลูกได้แบบไม่ศึกษาหาข้อมูลได้ และต่อให้มีข้อมูลแล้วก็ต้องเอามาปรับใช้ให้เข้ากับสไตล์ครอบครัว
อย่างเรื่อง iPad ที่เรารู้ว่ามันไม่ดี ซึ่งเราก็จะไม่ให้ลูกดูนะ แต่อาม่าก็จะนั่งคุยกับหลายแล้วเล่นไปด้วย ซึ่งแรกๆ ก็ซีเรียสมากเพราะไม่อยากให้ลูกดูเลย แต่หลังๆ เราเริ่มรู้สึกว่าอาม่าเขาอายุเยอะแล้ว ถ้าเราไม่ให้ตัวช่วยอะไรกับเขาเลยมันก็คงจะยากสำหรับเขา เพราะเขาก็อยากอยู่กับหลาน มันเลยเป็นการเเลก “ช่วงเวลาความสุขของเขากับหลาน” ที่เราแลกมันกับการได้ดูทีวีนิดหน่อยก็คงไม่เสียหายจนเกินไป
ทำไมถึงเริ่มมาทำเพจ
คุณแม่น้ำหวาน: เริ่มต้นจากการที่เราทำอาหารให้น้ลูกแล้วเรารู้สึกว่า “ชั้นทำอาหารได้สวยมากเหลือเกิน” (หัวเราะ) ซึ่งก็โพสต์ลง Facebook ตัวเองทุกวัน จนคิดว่าคนจะเบื่อเราไหมนะ แต่ก็อยากเก็บไว้ให้ทุกคนได้ดูเพราะมันสวยเหลือเกิน (หัวเราะ) ทำให้ตัดสินใจมาตั้งเพจ เพราะคนที่เลือกกด Like แล้วถือว่าเต็มใจเห็นโพสต์เรา (หัวเราะ)
คำถามเด็ดๆ จาก Inbox ในเพจ
คุณแม่น้ำหวาน: มีแม่ๆ มาถามเยอะมากกกก แบบปรึกษาปัญหาทุกเรื่อง (หัวเราะ) ทั้งเรื่องอาหาร ยา การตั้งท้อง ตลอดไปถึงเรื่องทำอย่างไรให้ได้ลูกชาย มันเยอะจริงๆ จนบางครั้งก็ไม่ได้ตอบ แต่ก็พยายามตอบคำถามที่จำเป็นและเร่งด่วนก่อน เพราะอยากให้แม่ทุกคนเป็นแม่ที่แฮปปี้ แต่ถ้าเจอคำถามซ้ำๆ อย่าง “ให้น้องเริ่มทานอาหารยังไง” เราก็จะก็อปบทความที่เคยเขียนไว้มาให้ เพราะตอบทุกคนก็คงไม่ไหว
คำแนะนำทิ้งท้ายสำหรับคุณพ่อคุณแม่
คุณแม่น้ำหวาน:
- อย่าไปเครียดกับทุกเรื่อง
เพราะเป็นแม่มันเหนื่อยแล้ว เราต้องอย่าไปเพอร์เฟ็คกับทุกสิ่งที่เราอ่านมา แล้วคิดว่าต้องทำให้ได้ตามนั้น เพราะมันจะยิ่งทำให้ทุกอย่างแย่ลง ให้ลองปล่อยไหลดูบ้าง เพราะสิ่งสำคัญที่สุดคือ “ความสุขมวลรวมของครอบครัว” - “สติ” เป็นสิ่งสำคัญที่สุด
เคยไปปฎิบัติธรรมด้วยเหตุผลว่าเขากำหนดไม่ให้กินอาหารเย็น เลยคิดว่าต้องผอมแน่ๆ (หัวเราะ) แต่ผลคือทำให้เราเปลี่ยนเป็นอีกคนไปเลย เพราะทำให้เราได้รู้จักกับคำว่า “สติ” ที่ทำให้รู้ทันอารมณ์ตลอดเวลา และสามารถกำหนคำพูดของเราให้ไม่ไปทำร้ายคนอื่นได้ - หาคนที่รับเราได้ในทุกมิติ
พ่อกับแม่ต้องรักกันมากพอ เพราะยิ่งรักมากเท่าไรความรักก็จะยิ่งล้นไปที่ลูกด้วย - ทำกิจกรรมเติมพลัง
จะชอบการ Shopping Online เพราะการซื้อเสื้อผ้าของเราเมื่อก่อนต้องตามเทรนด์ตลอด แต่พอมีลูกก็จะเอามาอัดลงที่ลูกแทน (หัวเราะ)
เพจ “Happy Mommy Dairy” ของคุณแม่น้ำหวาน เรียกได้ว่าเป็นเพจที่โพสต์ทุกเรื่องที่มีความสุขเกี่ยวกับลูก และให้สาระความรู้ในการเลี้ยงลูกไปพร้อมๆ กันด้วย โดยมีเป้าหมายให้คุณแม่ทุกคนมีความสุขในการเลี้ยงลูกไปด้วยกัน 😀