fbpx

มาพัฒนา EF หรือทักษะทางสมองให้ลูกกันเถอะ

Writer : Mookky TCN
: 6 ธันวาคม 2560

EF คือ Executive Function หรือทักษะทางสมองที่ควบคุมความคิด การกระทำ และอารมณ์ ให้ไปถึงเป้าหมาย การพัฒนาทักษะ EF จึงเป็นเรื่องสำคัญมากๆ ที่ควรฝึกฝนในเด็ก เพราะสิ่งสำคัญไม่ใช่เเค่การมี IQ ที่ดี เเต่ต้องโตมาแบบมีอารมณ์ กระบวนการคิดที่ดีควบคู่กันด้วย ถึงจะทำให้ลูกโตขึ้นมาเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพ มาดูกันค่ะว่ามีกิจกรรมไหนที่ช่วยพัฒนาให้ลูกมีทักษะ EF ที่ดีบ้างนะ

ทำไมต้องพัฒนา EF ?

เพราะ EF ไม่ใช่ทักษะที่อยู่ๆ ก็เกิดขึ้นมาเอง เเต่ต้องมีการฝึกฝนแบบต่อเนื่องยาวนานเเละเป็นลำดับ ผ่านกระบวนการเเก้ปัญหาที่ให้เด็กเรียนรู้ซ้ำๆ ตั้งเเต่อายุประมาณ 3 ขวบ จนถึง 20-25 ปี (25 ปี เป็นจุดที่สมองส่วนหน้าพัฒนาอย่างเต็มที่) หรือคือถ้าเต็กได้มีการฝึกฝนก็จะมีพัฒนาการทางสมองที่ดี สามารถคิดได้อย่างมีเหตุผล เเละตัดสินใจได้ถูกต้อง ต่างจากเด็กที่ขาด EF ที่เมื่อเผชิญกับปัญหาจะไม่สามารถแก้ปัญหาได้ เเละวางแผนในการทำงาน การใช้ชีวิตไม่เป็น

กิจกรรมช่วยสร้าง EF

  • เล่นดินเล่นทราย
  • เจอเพื่อนใหม่ พูดคุย เข้าสังคมใหม่ๆ
  • วาดภาพระบายสี
  • ปั้นดินน้ำมัน เล่นแป้งโดว์
  • ตัด ฉีก แปะ กระดาษ
  • วิ่งเล่น
  • เล่นแสดงละคร(บทบาทสมมุติ)
  • เล่นดนตรี
  • ปีนป่าย
  • ให้ลูกช่วยทำงานบ้าน
  • ต่อเลโก้ ตัวต่อ จิ๊กซอว์
  • เล่นหมากรุก หมากฮอส โกะ
  • เล่นยิมนาสติก
  • เล่นบอร์ดเกมส์
  • ปลูกต้นไม้

กิจกรรมด้านบนส่วนใหญ่ต้องใช้ร่างกาย เเละสายตา ให้ประสานกันเพื่อปีนไปให้ถึงเป้าหมาย ซึ่งช่วยในการพัฒนา EF ได้เป็นอย่างดี พร้อมทั้งให้ความสนุกสนานด้วยสิ่งสำคัญที่สุดในการฝึกให้มี EF คือต้องไม่มีความเครียด เพราะถ้าเกิดความเครียดจะไปปิดกันการเรียนรู้ของเด็กๆ

สำหรับกิจกรรมที่ควรหลีกเลี่ยงคือ ดูโทรทัศน์ เล่น smartphone, แทปเล็ต มากจนเกินไป เพราะทำให้เด็กไม่ได้ฝึกฝนการคิด เเละอาจทำให้เกิดภาวะ “ออทิสติกเทียม” ได้

การฝึก EF เป็นกระบวนการทางจิตวิทยา ซึ่งไม่ได้ฝึกฝนยากจนเกินไป เเต่คุณพ่อคุณเเม่ต้องอาศัยความอดทน เเละให้เวลากับลูกค่ะ อย่าลืมนะคะว่าช่วงในวัยเด็ก เป็นช่วงเวลาทองในการสร้างเด็กให้มีทักษะที่ดี เเละติดตัวลูกมาจนถึงวัยผู้ใหญ่ในอนาคต

 

ขอบคุณข้อมูล

นายแพทย์ประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์

โรงเรียนเพลินพัฒนา

Writer Profile : Mookky TCN

  • Blog :
  • Social Media :

  • Official Sponsors :
  • Samitivej Hospital

Generic placeholder image

บทความที่เกี่ยวข้อง



CAR SEAT กับเด็กแต่ละช่วงอายุ
ข้อมูลทางแพทย์
7 ข้อคิดจากการดูการ์ตูน Finding Nemo
ชีวิตครอบครัว
7 กิจกรรม ทำร่วมกันได้ในครอบครัว
กิจกรรมของครอบครัว
Update
Banner Banner
เมื่อคุณแม่หลายท่านเป็นกังวลกับเรื่องพัฒนาการสมองและภูมิคุ้มกันที่แตกต่างกันของลูกน้อยที่ผ่าคลอดกับเด็กคลอดธรรมชาติ กลัวว่าลูกน้อยจะมีโอกาสป่วยง่ายหรือมีพัฒนาการสมองช้ากว่าเพื่อนๆ ทำให้คุณแม่ต้องใส่ใจกับการดูแลลูกน้อยมากยิ่งขึ้น เสมือนการเร่งเสริมสร้างเกราะคุ้มกันให้ลูกน้อยเติบโตพร้อมปรับตัวกับโลกยุคใหม่ที่เต็มไปด้วยการเปลี่ยนแปลง วันนี้เราจะพาไปดูเคล็ดไม่ลับ ฉบับการดูแลพัฒนาการสมองของลูกน้อยและภูมิคุ้มกันของเด็กผ่าคลอดที่คุณแม่ไม่ควรมองข้าม ช่วยเติมเต็มในสิ่งที่ลูกผ่าคลอดต้องการได้ ไปดูกันเลย! เกราะคุ้มกันแรกที่หายไปของเด็กผ่าคลอด เด็กผ่าคลอดมักจะป่วยง่ายหรือมีปัญหาสุขภาพมากกว่าเด็กที่คลอดโดยธรรมชาติ เพราะสูญเสียโอกาสในการได้รับเชื้อจุลินทรีย์สุขภาพ ผ่านทางบริเวณช่องคลอดของคุณแม่ ทำให้เกราะคุ้มกันแรกเกิดของลูกน้อยผ่าคลอดหายไปส่งผลให้เด็กมีพัฒนาการทางระบบภูมิคุ้มกันตั้งต้นช้ากว่าเด็กที่คลอดตามธรรมชาติ บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) เป็นจุลินทรีย์ชนิดดีที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันตั้งต้น โดยเฉพาะระบบภูมิคุ้มกันในระบบทางเดินอาหาร คุณแม่จึงต้องเร่งเสริมสร้างเกราะคุ้มกันให้ลูกน้อยมีพื้นฐานที่ดีตั้งแต่เริ่มต้น เพื่อช่วยให้ลูกน้อยของเรามีมีระบบภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้น เสริมสร้างพัฒนาการด้านสมองของเด็กผ่าคลอดด้วย “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” คือสารอาหารที่พบมากในนมแม่ เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้การทำงานสมองของลูกน้อยมีประสิทธิภาพ สร้างสมองไวกว่าเดิม เชื่อมต่อเซลล์สมอง 1 แสนล้านเซล์ อัพเกรดเด็กเจนใหม่ โดยสร้างสารสื่อประสาทในสมอง และเพิ่มความเร็วการส่งสัญญาณประสาทแบบก้าวกระโดด “สฟิงโกไมอีลิน” คือ ไขมันกลุ่มฟอสโฟไลปิด พบได้มากในน้ำนมแม่ที่อุดมไปด้วยสารอาหารกว่า 200 ชนิด ซึ่ง “สฟิงโกไมอีลิน”เป็นองค์ประกอบในการสร้างปลอกไมอีลิน ซึ่งมีผลต่อการทำงานของสมองให้ส่งสัญญาณประสาทได้ไวและประมวลผลอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้เกิดการจดจำเร็ว เรียนรู้ไว สมองของเด็กผ่าคลอดและเด็กที่คลอดตามธรรมชาติ มีการสร้างไมอีลินในสมองแตกต่างกัน โดยเฉพาะที่ส่วนของสมอง ที่ทำหน้าที่เชื่อมโยงระหว่างสมองซีกซ้ายและซีกขวา คุณแม่จึงควรคำนึงถึงจุดเริ่มต้นที่แตกต่าง ของเด็กผ่าคลอดเจนใหม่ ด้วยการเตรียมสมองไวและภูมิคุ้มกันที่ดีด้วย “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” และ บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) จากนมแม่ให้ลูกน้อยยิ่งเริ่มเร็วก็ยิ่งดี เพราะพัฒนาการสมองที่ดีในวัยเด็ก ถือเป็นรากฐานสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการมองเห็น การได้ยิน หรือการเรียนรู้ภาษาสิ่งเหล่านี้ล้วนเกิดจากพัฒนาการของสมองเพราะสมองคือจุดเริ่มต้น ของทุกพัฒนาการของลูกน้อย เตรียมพร้อมเด็กผ่าคลอดให้มีสมองไวและภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้นได้ คุณแม่สามารถเติมเต็มในสิ่งที่ลูกน้อยผ่าคลอดต้องการได้ด้วยสารอาหารที่สำคัญอย่างเช่น “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” ที่ช่วยเพิ่มความเร็วในการส่งสัญญาณประสาทได้เร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น และโพรไบโอติก บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) ตัวช่วยที่ทำให้ลูกน้อยมีภูมิคุ้มกันสุขภาพที่ดี ดังนั้นคุณแม่ก็วางใจได้ หากเราเสริมสร้าง…
3 กันยายน 2568

anal porno zdarma culi nudi al mare free sex videos antalya escort

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save