fbpx

จำเป็นไหม ที่คุณแม่ต้องอยู่ไฟ?

Writer : OttChan
: 11 ธันวาคม 2563

ตามความเชื่อที่มีมาตั้งแต่สมัยอดีต หลังว่าที่คุณแม่ได้กลายเป็นคุณแม่เต็มตัวกันแล้ว ก็มักจะต้องถูกผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านที่ยังคงความเชื่อแบบสมัยก่อนรบเร้าว่า

” จะต้องอยู่ไฟนะเดี๋ยวสามีไม่หลงไม่รัก”

” ต้องอยู่ไฟ มดลูกจะได้เข้าอู่ไวๆ ”

” การอยู่ไฟจำเป็นมากๆ จะได้กลับมาแข็งแรง”

ซึ่งก็คงเป็นสิ่งที่เราสงสัยไม่มากก็น้อยใช่ไหมล่ะคะว่าการอยู่ไฟนั้นจะช่วยเรื่องพวกนี้ได้จริงหรือเปล่า หรือเป็นเพียงแค่ความเชื่อเท่านั้น หรือจริงๆ แล้วมีประโยชน์นะแต่ไม่ได้เกี่ยวกับแค่เรื่องคลอดลูก? เรามาหาคำตอบไปด้วยกันดีกว่าค่า

การอยู่ไฟคืออะไร?

เราได้ยินกันมานานแล้วใช่ไหมคะว่า การอยู่ไฟเป็นธรรมเนียมปฏิบัติกันมาตั้งแต่สมัยอดีต ว่าคุณแม่หลังคลอดจะต้องทำการอยู่ไฟกันซึ่งการอยู่ไฟตามความเชื่อคือการช่วยยกกระชับให้มดลูกเข้าที่เข้าทางหรือที่เราเรียกกันว่ามดลูกเข้าอู่ ช่วยคลายความอ่อนล้าของร่างกายคุณแม่หลังจากการอุ้มท้องมาตลอด 8-9 เดือนให้ร่างกายได้รับความผ่อนคลายซึ่งการอยู่ไฟนั้นมีอยู่หลากหลายวิธีโดยมีแนวทางปฏิบัติไปในทางเดียวกันคือให้ร่างกายอยู่กับความร้อนตลอดช่วงการพักฟื้นของคุณแม่มือใหม่ซึ่งกฏหลักของการอยู่ไฟนั้นมีดังนี้

  • ไม่ดื่มน้ำเย็น ให้จิบแต่น้ำอุ่นหรือน้ำร้อน
  • มีการนวดประคบด้วยสมุนไพรต่างๆ นับ 10 ชนิดเพื่อช่วยคลายเส้นต่างๆ ของร่างกาย
  • อยู่กับความร้อนในระยะเวลาที่กำหนด ไม่ควรออกไปพบเจออากาศเย็นเพราะจะทำให้ร่างกายปรับไม่ทัน
  • หากคลอดธรรมชาติให้รอ 1 อาทิตย์จึงอยู่ไฟ แต่หากผ่าคลอดต้องรอ 30-45 วันให้แผลปิดสนิทดีก่อนแล้วจึงค่อยเริ่มอยู่ไฟ

 

การอยู่ไฟแบบโบราณ, การอยู่ไฟแบบร่วมสมัย และการอยู่ไฟในยุคปัจจุบัน

แน่นอนค่ะว่าเมื่อยุคสมัยเปลี่ยนไป การอยู่ไฟเองก็ต้องพัฒนากันไปตามความเหมาะสมของยุคสมัยซึ่งก็มีจุดที่แตกต่างกันออกไปมากอยู่ในเรื่องของอุปกรณ์ ความสะดวกสบายซึ่งสามารถแบ่งออกได้ตามกระบวนการดังนี้

แบบโบราณ

  • ต้องนอนบนแคร่หรือแผ่นไม้
  • ก่อไฟอยู่ข้างๆ หรือใต้แคร่ให้ความร้อนของไฟกระจายทั่ว นำหม้อสมุนไพรไปตั้งไว้ให้เกิดการตลบของกลิ่น
  • ต้องอาบน้ำสมุนไพรเพื่อช่วยปรับสมดุลร่างกาย

แบบร่วมสมัย

  • อยู่ในกระโจมที่อบด้วยสมุนไพรต้มไว้ใต้ที่นั่ง
  • มีการนวดด้วยลูกประคบตามบริเวณเต้านมและหน้าท้อง ช่วยให้กล้ามเนื้อผ่อนคลายและแผลจากการคลอดหายเร็วขึ้น
  • ใช้หม้อดินเล็กใส่เกลือไปเผาให้อุ่นและประคบไปตามผิวเพื่อเปิดรูขุมขนให้ช่วยระบายเหงื่อออก

แบบยุคปัจจุบัน

  • ใช้ชุดคาดเอวอยู่ไฟ ช่วยให้ความร้อนแถวหน้าท้องพร้อมใส่สมุนไพรลงไปได้เพื่อให้สะดวกต่อการเคลื่อนไหว
  • ใช้กระเป๋าน้ำร้อนในการวางบนหน้าท้องแทน เพื่อช่วยบรรเทาความปวด แต่ควรพันผ้าไว้ก่อนจะนาบลงไปตรงหน้าท้อง
  • ทานยาบำรุงเข้าช่วยแทนไม่ต้องอยู่ไฟอย่างจริงจัง

 

การอยู่ไฟมีประโยชน์จริงหรือเป็นเพียงธรรมเนียมปฏิบัติ?

คุณแม่หลายคนเองก็คงสงสัยว่าแล้วหากปัจจุบันการอยู่ไฟสามารถทำได้โดยง่ายด้วยการใส่สายคาดเอวหรือใช้กระเป๋าน้ำร้อน แล้วแบบนี้การอยู่ไฟแต่ก่อนนั้นมีประโยชน์จริงหรือไม่ รึเป็นเพียงความเชื่อของผู้ใหญ่ที่ต้องทำตามต่อกันมา ซึ่งทาง Parents One เองก็ได้รวบรวมมาให้อ่านแล้วค่ะว่าการอยู่ไฟนั้นช่วยในเรื่องใดเป็นหลักบ้าง

  • กระตุ้นการไหลเวียนโลหิตของร่างกาย
  • ช่วยปรับสมดุลของร่างกายให้เข้าที่หลังการคลอด
  • ลดอาการปวดเมื่อยตามร่างกาย
  • ผิวพรรณสดใส, ได้รับการบำรุวจาดสมุนไพร
  • กระตุ้นให้น้ำนมไหลดียิ่งขึ้น, มดลูกเข้าอู่ไว
  • ช่วยกระชับหน้าท้องให้ไม่ย้วยหรือยานหลังคลอด
ประโยชน์ทางด้านจิตใจ
  • เป็นช่วงที่คุณแม่ได้พักผ่อนหลังต้องอุ้มครรภ์มานานจนสุขภาพย่ำแย่
  • รู้สึกได้รับการดูแลเป็นพิเศษ
  • มีเวลาให้ร่างกายได้ผ่อนคลายบ้างจากความเครียด

 

หากไม่ได้อยู่ไฟ จะเป็นอย่างไร?

ด้วยเทคโนโลยีที่มีในปัจจุบัน หลังการคลอด คุณแม่มือใหม่จะได้รับยาเพื่อช่วยกระชับมดลูกให้เข้าอู่และยังช่วยไม่ให้เกิดอาการตกเลือดหลังคลอดแต่ผู้ใหญ่มักกลัวว่าหากหลังคลอดแล้วไม่มีการอยู่ไฟจะทำให้ร่างกายไม่แข็งแรง, มดลูกไม่เข้าอู่จริงและอาจทำให้คุณแม่เกิดอาการหนาวสั่นในร่างกายหรือที่เรียกว่าหนาวเข้ากระดูกได้ และที่น่ากลัวที่สุดคือ ไม่มีน้ำนมให้ลูกดื่ม เลยต้องทำการกระตุ้นให้น้ำนมไหลด้วยการอยู่ไฟซึ่งในความเป็นจริงแล้วร่างกายของคุณแม่หลังคลอดนั้นคือสิ่งแสนอัศจรรย์ ใช้เวลาประมาณ 6 สัปดาห์หลังคลอด มดลูกก็จะกลับเข้าอู่ได้เอง ยิ่งได้รับการกระตุ้นด้วยการดูดนมจากลูกแล้วก็จะยิ่งช่วยทำให้ฮอร์โมนของร่างกายทำงาน ช่วยบีบรัดมดลูกเข้ามาอีก

เพราะฉะนั้นหากไม่ได้ทำการอยู่ไฟ ก็ไม่ใช่เรื่องเสียหายค่า

 

การอยู่ไฟเป็นสิ่งจำเป็นหรือไม่

จากข้อมูลคงทำให้เราได้รู้กันแล้วนะคะว่า การอยู่ไฟนั้นเป็นความเชื่อที่เข้ามาช่วยเรื่องเกี่ยวกับระบบร่างกายของคุณแม่แต่ไม่ได้มีผลทางไสยศาสตร์หรือความเชื่อใดๆ เรียกได้ว่า “ไม่ใช่สิ่งจำเป็นที่ขาดไม่ได้ แต่ทำไปก็ไม่เสียหาย” เพราะถือว่าเป็นการให้รางวัลตนเองหลังการตั้งครรภ์มาเนิ่นนาน เช่นนั้นแล้วการอยู่ไฟเองก็มีประโยชน์อยู่ในการช่วยดูแลหรือบำรุงคุณแม่มือใหม่แต่หากไม่สะดวกหรือรู้สึกว่าเพียงดูแลร่างกายตนเองให้แข็งแรงก็พอแล้ว ก็เป็นเรื่องที่ไม่จำเป็นต้องทำได้อีกเช่นกันเพราะการแบ่งเวลาในชีวิตของคุณแม่ทุกท่านไม่เท่ากันอยู่แล้ว เลือกการดูแลตัวเองให้เหมาะสมกับชีวิตประจำวันของเราจะดีที่สุดค่ะ

และที่สำคัญยิ่งกว่าคือ อย่าลืมให้ลูกได้ดื่มน้ำนมจากแม่และใช้เวลาอยู่กับลูกให้มากหลังคลอดนะคะ นั่นเป็นยาที่ทำให้คุณแม่ฟื้นตัวได้เร็วที่สุดแล้วล่ะค่ะ

ที่มา​​ : motherandchild , happymom, smpksr

Writer Profile : OttChan

  • Blog :
  • Social Media :

  • Official Sponsors :
  • Samitivej Hospital

Generic placeholder image

บทความที่เกี่ยวข้อง



CAR SEAT กับเด็กแต่ละช่วงอายุ
ข้อมูลทางแพทย์
ชีวิตครอบครัว ชีวิตครอบครัว
4 พฤศจิกายน 2563
Update
Banner Banner
Live Action เรื่องล่าสุดจาก Disney ที่หลายๆคนรอคอยไม่ว่าจะเป็นคุณพ่อคุณแม่ที่เคยรับชมการ์ตูนในวัยหวานหรือแม้แต่คุณน้องคุณหนูที่หลงรักโลกใต้ท้องทะเลก็ตาม ใช่แล้วล่ะค่ะ เรากำลังพูดถึง “The Little Mermaid” หรือ “เงือกน้อยผจญภัย” ที่หยิบยกกลับมาทำใหม่ในเวอร์ชันคนแสดงในปีนี้ โดยมีนักร้องสาว “ฮัลลี เบลลีย์” รับบทนางเงือกน้อย “แอเรียล” พร้อมเป็นตัวแทนส่งเสียงบอกกับเด็กหญิงชายทั่วโลกว่า “ใครก็เป็นเจ้าหญิงได้”  หยิบกลับมาทำใหม่ ตีความใหม่ในรูปแบบที่ไม่เคยมีมาก่อนแบบนี้ ใครๆ ก็ต้องตื่นเต้นอยู่แล้ว ซึ่งเรื่องราวจะเป็นอย่างไร มีจุดเด่นจุดด้อย ข้อดีข้อเสียอย่างไร เหมาะสำหรับเด็กๆ หรือไม่ ลองไปดูกันเลย! เรื่องราวของนางเงือกน้อยแสนซน “แอเรียล” ธิดาคนสุดท้องของราชาไตรตันเจ้าแห่งโลกใต้สมุทรเธอมีความหลงใหลในโลกมนุษย์และใฝ่ฝันว่าอยากจะเดินเหินอย่างผู้คนบนดินแม้พ่อจะพยายามกีดกันเธอเท่าไรก็ตาม วันหนึ่งเธอบังเอิญได้พบกับ “เจ้าชายอีริค” และตกหลุมรักเขาเข้าอย่างจัง เธอจึงได้ทำข้อตกลงกับแม่มดทะเล “เออซูลาร์” เพื่อแลกเสียงอันไพเราะกับขาอย่างมนุษย์โดยมีข้อแม้ว่าเธอจะต้องได้รับจุมพิตจากเจ้าชายไม่เช่นนั้นเธอจะกลับมาเป็นเงือกและกลายเป็นทาสของเออซูลาร์ตลอดไปการออกเดินทางทำตามเสียงเรียกร้องของหัวใจเพื่อใช้ชีวิตอย่างที่ฝันจึงได้เริ่มต้นขึ้น เติมเต็มหัวใจที่ยังเปี่ยมไปด้วยความทรงจำของวัยเยาว์ ส่งต่อความกล้าหาญให้หนูน้อยเชื่อมั่นในตัวเอง และสิ่งที่ฝัน จูงมือลูกรักไปดู “The Little Mermaid” ได้แล้ววันนี้ ในโรงภาพยนตร์! ชมตัวอย่าง : https://www.youtube.com/watch?v=AS0vop2rgFo การ์ตูนเรื่องนี้เหมาะกับเด็กอายุ 8 ขวบขึ้นไป แม้จะมีเค้าโครงเรื่องหลักๆ มาจากการ์ตูนเงือกน้อยแอเรียลแบบต้นฉบับทั้งหมด แต่พอมาอยู่ในโลกแห่งความเป็นจริงก็ทวีคูณความจริงจังให้มากยิ่งขึ้นไปกว่าเดิม นอกจากนี้ยังมีการเพิ่มเติมพื้นเพตัวละคร เสริมเนื้อเรื่องเพิ่มประเด็นให้มีความซับซ้อนยิ่งกว่าเดิม จึงบอกได้ว่าเป็นเวอร์ชันที่ไม่ค่อยเหมาะกับเด็กเล็กๆ เท่าไร ถึงอย่างนั้นเด็กๆก็ยังสามารถสนุกสนานกับกลิ่นอายของเทพนิยายชวนฝันเพลิดเพลินกับภาพบรรยากาศโลกใต้ท้องทะเลที่สวยงามสุดแสนจะแฟนตาซี รับประกันว่ากระตุ้นจินตนาการเรียกความตื่นตาตื่นใจจากเจ้าตัวน้อยแน่นอน เรื่องที่ต้องระวัง มีความรุนแรงและฉากน่ากลัว อย่างที่บอกไปว่า Live Action เวอร์ชันนี้ มีความดาร์ก ความสมจริงเพิ่มเข้ามา เรื่องความรุนแรงต่างๆ ฉากต่อสู้ ฉากปะทะ หรือหน้าตาของเหล่าสัตว์ร้ายใต้ทะเล อาจทำให้เด็กๆ ไม่สบายใจ หรือตื่นกลัวได้ แถมยังมีจังหวะตกใจ (Jump…
25 พฤษภาคม 2566

anal porno zdarma culi nudi al mare free sex videos antalya escort

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save