fbpx

"คุณแม่เลอค่า" กับความสุขในการเลี้ยงลูก และพลังที่ไม่มีวันหมด

Writer : Mookky TCN
: 5 พฤษภาคม 2561

หลายคนคงเคยผ่านตากับเพจ “คุณแม่เลอค่า” ของคุณแม่ปาล์ม เลอค่า ทองสิมา ณ นครพนม กันมาบ้าง ซึ่งถ้าเข้าไปดูเราจะเห็นความน่ารักของ “น้องธัมดี” ลูกชายวัย 2 ขวบ และความเป็นครอบครัวอบอุ่นน่ารักที่เราสัมผัสได้ และเป็นคุณแม่อีกหนึ่งคนที่มีความสุขกับการได้แชร์เรื่องราวเกี่ยวกับการเลี้ยงลูกเชิงบวก อาหารการกิน สุขภาพ และพลังแบบเต็มเปี่ยมเพื่อลูก

จุดเริ่มต้นของการตั้งเพจ

คุณปาล์ม: ญาติทุกคนเห่อหลานชายมากๆ เนื่องจากเป็นหลานชายคนแรกของทั้งเราและสามี แล้วก็อยากเห็นพัฒนาการน้องเลยตั้งเพจขึ้นมาเพื่ออัปเดตกันในช่วงเเรก และเหมือนได้บันทึกความทรงจำไปด้วย พอทำแล้วก็มีคนมาเเชร์ต่อๆ กันเลยรู้สึกสนุกดี เหมือนได้แชร์ประสบการณ์เลี้ยงลูกเชิงบวก ไลฟ์สไตล์ แนวคิดวิธีการต่างๆ ของเรา ส่วนชื่อเพจ “คุณแม่เลอค่า” ชอบมีหลายคนถามว่าทำไมถึงตั้งชื่อนี้ (หัวเราะ) ความจริงชื่อเพจมาจากชื่อจริงของเรา เพราะมีพี่น้อง 3 คน ชื่อ ล้ำค่า เลอค่า และเลิศค่า จนมาถึงชื่อลูกที่ตั้งว่า “ธัมดี” กับ “คิดดี” เพราะอยากตั้งชื่อลูกให้ดูคล้องจองจำง่ายๆ และมีความเป็นไทยแบบบ้านเรา

ชีวิตใหม่หลังได้เป็นคุณแม่

คุณปาล์ม: ชีวิตเปลี่ยนไปเยอะมาก ก่อนหน้านี้เราคือ Working Women คนหนึ่งที่ทำงานตลอดเวลาและชอบพบปะผู้คน เช่น ก่อนมีลูกเรากับคุณพ่อก็จะไปดูหนัง ไปปาร์ตี้ ทำงาน แต่พอเรามีลูกก็ออกมาเป็นคุณแม่ฟูลไทม์ที่เลี้ยงลูกเต็มเวลาที่ต้องดูแลเด็กๆ ตลอด 24 ชม. ซึ่งช่วงแรกหลายๆ คนน่าจะเป็นกัน บางทีเราก็แอบเบื่อๆ นอยด์ๆ เหมือนอารมณ์ว่าชีวิตเรามันเปลี่ยนจากเดิมเยอะ

อีกอย่างที่เปลี่ยนไปคือ “การนอน” เพราะตอนยังไม่มีลูก เราได้นอนหลับยาว 8-10 ชั่วโมง จะนอนตอนไหนก็ได้ แต่มีลูกเเล้วต้องตื่นทุก 2-3 ชั่วโมง แต่เป็นเรื่องที่รู้สึกว่าคนเป็นแม่ทำได้อย่างไร (หัวเราะ) เพราะสุดท้ายเเล้ว คนเป็นแม่ทุกคนทำได้หมด แม้จะต้องนอนน้อยแค่ไหน แบบเวลาเห็นหน้าลูกยิ้ม หัวเราะ แล้วมีพลัง เหมือนความเหนื่อยหายไปหมด

ให้เวลาลูกแบบเต็มที่

คุณปาล์ม: เราตัดสินใจไม่จ้างพี่เลี้ยงตั้งแต่แรกอยู่แล้ว เพราะเราเป็นครอบครัวใหญ่ และคนเป็นพ่อแม่จะรู้ว่าเราควรเลี้ยงลูกวิธีไหนให้ไม่เอาแต่ใจตัวเองจนเกินไป วีนเหวี่ยงตามใจตัวเองเกินไป คิดว่าอยู่กับพี่เลี้ยงบางทีอาจตามใจมากเกินไป และไม่ได้มีจิตวิทยาและความเอาใจใส่ในการเลี้ยงดูเท่าๆ กับที่เราเลี้ยงเอง ซึ่งพี่เลี้ยงเก่งๆ ที่เข้าใจตรงนี้ค่อนข้างหายากหน่อย แต่ถ้าคุณพ่อคุณแม่บางคนเจอก็โชคดี

มองว่าลูกต้องการเวลาจากเราเยอะ อย่างตอนนี้ที่ท้องคนที่สองอยู่ (8 เดือน) แต่เราก็ยังคงดูแลลูกคนเเรกเอง อาบน้ำให้ลูก เอาลูกเข้านอน อ่านนิทานและร้องเพลงให้ฟัง ทุกๆ วัน โดยเราก็ไม่ได้เครียดอะไร แค่รู้สึกว่ามีบ้างบางอารมณ์ที่แบบฉันเหนื่อยจังเลย ฉันอยากนอนนะ แต่โชคดีที่คุณพ่อช่วยเราได้เยอะ เขาทำแทนเราได้ทุกอย่าง

มีคนเคยบอกว่าวัย 2 ขวบเป็น terrible twos ก็จะมีงอแง เรียกร้อง แต่พ่อเเม่จะรับมือกับลูกตัวเองได้ดีที่สุด เราก็จะมีวิธีการสอน การดูแล ปรับกันไปแบบรายวัน ดูตามพัฒนาการ เเละเราต้องเข้าใจเขามากๆ เหมือนเราเข้าใจว่าเป็นแบบนี้เพราะอะไร บางอย่างยอมไม่ได้ก็ต้องทำโทษ เหมือนน้องที่มีการเข้ามุม ซึ่งตอนแรกน้องก็ร้องไห้สำนึกผิด แต่เด็กๆ ปรับตัวได้ก็เริ่มจะเล่นกับมุม (หัวเราะ) แต่เราก็ไม่เคยตีลูก เพราะรู้สึกว่าเป็นการใช้ความรุนแรงและไม่ดีทั้งสองฝ่าย เน้นใช้โทนเสียงมากกกว่า เพราะพอเราเปลี่ยนเป็นโทนเสียงที่ดุขึ้น เขาก็เข้าใจและสงบลงเอง

พ่อแม่คือของเล่นที่ดีที่สุดของลูก

คุณปาล์ม: ที่บ้านไม่ให้ดูพวกอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เลยจนอายุได้ 2 ขวบ พอหลัง 2 ขวบก็ค่อยๆ ให้เขาเริ่มทีละหน่อยๆ ซึ่งของเล่นส่วนใหญ่คือเราเองเพราะ “พ่อแม่คือของเล่นที่ดีที่สุด” การเล่นเหมือนเป็นจุดเริ่มต้นพัฒนาการทุกอย่าง ส่วนของเล่นก็ซื้อพวกของเล่นเสริมพัฒนาการบ้างแต่ไม่เยอะ อย่างคุณพ่อเขาก็จะมีวิธีในการเล่นให้ลูกหัวเราะได้ตลอด แนะนำว่าพ่อแม่อาจจะต้องเล่นใหญ่นิดนึง อะไรก็ได้ที่เป็นธรรมชาติของแต่ละครอบครัวที่ต้องรู้เอง อย่างบางคนให้เล่นถุงพลาสติก หมอน อะไรแบบนี้เด็กก็ขำ ขึ้นอยู่กับเด็ก และคุณพ่อเองก็มีส่วนร่วมในการสนับสนุนหลายอย่าง ถ่ายรูป ถ่ายวิดีโอ ช่วยด้วยความเต็มใจตลอด เหมือนเขาตั้งใจอยากเมมโมรี่ลูกด้วยกัน เลยจะเห็นได้บ่อยครั้งในเพจ

อาหารจากฝีมือแม่

คุณปาล์ม: ตอนท้องเราไม่ได้ชอบทำอาหาร ส่วนใหญ่ก็ทานข้าวนอกบ้าน แต่พอเราท้องก็กลับมาชอบทำอาหารเฉยเลย แล้วก็ตั้งใจที่จะทำให้ลูกเอง เช่น ทำข้าวบด ผักปั่น ผักบด ต้ม ตุ๋น หรือนึ่ง แล้วก็โชคดีด้วยที่น้องธัมดีทานเก่ง ไม่ได้แพ้อาหารเลย เขาชอบทานผัก ผลไม้กรอบๆ มาก อย่างแครอท ถั่วลันเตาหวาน ที่ผ่านมามีคำถามจากคุณแม่เยอะมากว่าทำไมน้องทานเก่ง เราก็จะบอกตลอดว่าฝึกตั้งแต่แรกคือ 6 เดือนแรกที่ต้องหัดทานบนเก้าอี้ ทำให้เขารู้หน้าที่ตัวเองว่าต้องทานข้าวนะ ไม่เเนะนำให้เดินป้อน วิ่งป้อน จนตอนขวบต้นๆ ธัมดีก็ตักข้าวทานด้วยตัวเองได้แล้ว

ลูกๆ เป็นแรงบันดาลใจในการทำธุรกิจไหม

คุณปาล์ม: อย่างตอนแรกทางบ้านทำธุรกิจอยู่แล้วคือ โรงพยาบาลนครธน พาร์ควิลเลจ หมู่บ้านจัดสรร และก็กำลังจะเปิดโรงเรียนนานาชาติด้วยชื่อ โรงเรียนนานาชาติเบซิส (BASIS International School Bangkok) เป็นหลักสูตรจากอเมริกา ตั้งอยู่บนถนนพระราม 2 (กำหนดเปิดเดือนสิงหาคม 2562) แล้วน้องธัมดีก็น่าจะเรียนที่นี่ค่ะ เราศึกษามาเเล้วว่าเด็กๆ เรียนที่นี่จะมีความสุข ซึ่งทางครอบครัวก็เลยแพลนที่จะทำตัวนี้เอาไว้ แต่ก่อนเข้าที่ BASIS ปาล์มจะให้เข้าเรียนโรงเรียนวรรณสว่างจิตก่อน เป็นโรงเรียนทางเลือก ซึ่งเป็นของคุณย่าปาล์มเอง

ส่วนตัวเราพอมีลูกก็อยากทำอะไรที่เป็นธุรกิจของตัวเอง เหมือนลูกเป็นแรงบันดาลใจให้กับเรา เป็นผลิตภัณฑ์อาหารที่เป็นโจ๊กข้าวกล้องออร์แกนิคสำหรับเด็กแบบไม่มีผงชูรส ชื่อ “Happy Bear” ตอนนี้ขยายตลาดไปหลายประเทศแล้ว อย่างเวียดนาม มาเลเซีย ลาว มันเริ่มจากการที่เราทำอาหารเสริมให้ลูกเป็น “ข้าวบด” แล้วรู้สึกว่าพ่อแม่หลายคนอยากทำอาหารให้ลูกทาน แต่อาจจะไม่มีเวลา โดยตัวนี้ก็แค่ใส่น้ำร้อน คน 1 นาที ก็เสร็จ แล้วจะใส่อะไรก็ได้ที่เราเตรียมไว้ให้ลูกก็ได้ เช่น ไข่ ปลาหยอง ผัก

อยากให้แนะนำคุณแม่คนอื่นๆ เกี่ยวกับการเลี้ยงลูก

คุณปาล์ม: อยากให้แนะนำคุณแม่คนอื่นๆ เกี่ยวกับการเลี้ยงลูก คุณปาล์ม: อยากให้สนุกกับทั้งการท้องและการเลี้ยงลูก ให้มองว่าลูกคือสิ่งที่มาเต็มเติมความสุขให้ครอบครัว เพราะเหมือนปู่ย่าตายายก็รอคอยที่จะเห็นหน้าหลาน อย่าไปกังวลเยอะว่าจะอันตราย ไม่ปลอดภัย แต่ให้พยายามเดินทางสายกลาง เพราะบางคนเครียดมากไม่กล้าทำอะไรเลย ของเผ็ด ของดิบ ห้ามหมด อย่างตัวเราคุณหมอเคยบอกว่าถ้าเราทานอะไรแล้วอร่อยและมีประโยชน์ก็ให้ทานเลย (เพราะเราจะรู้ตัวอยู่แล้วว่าของไม่มีประโยชน์ก็จะไม่ทานทุกวัน) แค่พอหายอยาก ให้รู้สึกว่าชีวิตมันก็ต้องมีความสุข

หลังได้คุยกับคุณปาล์มเราพบว่า ความสุขในทุกๆ วันของเธอ คือการได้เห็นพัฒนาการลูกที่เติบโตขึ้นในทุกฝีเก้านั่นเอง

Writer Profile : Mookky TCN

  • Blog :
  • Social Media :

  • Official Sponsors :
  • Samitivej Hospital

Generic placeholder image

บทความที่เกี่ยวข้อง



เป็นพิเศษ
ชีวิตครอบครัว
Update
ไลฟ์สไตล์ ไลฟ์สไตล์
เคยกลับบ้านมาแล้วกรี๊ดลั่นบ้านเพราะเจ้าตัวแสบไปวิ่งเล่นเลอะเทอะกันไหมคะ ? หรือแต่งตัวลูกอย่างดีไปทานข้าวนอกบ้าน แต่คุณลูกก็ทำซอสหกใส่ ไอติมหล่นไปเป็นก้อน เละทั้งตัว วันนี้ ParentsOne มีเสื้อเด็กที่เจ๋งมากๆ จาก GQ : the good day lab™ มาลองรีวิวให้ได้ชมกันค่ะ 🛒 ช้อปเลยที่ -> https://gqsize.link/bZT7Sx แกะกล่อง GQ : the good day lab™ เสื้อเด็ก ฟีเจอร์เพียบ คุณภาพ GQ ขึ้นชื่อว่า GQ ก็มั่นใจได้เรื่องคุณภาพค่ะ ผ้านุ่ม เบาบาง เหมาะกับอากาศเมืองไทย ใส่วิ่งสบายๆ ที่แปลกตาคือเป็นเสื้อที่ไม่มีป้ายแท็กค่ะ ทั้งด้านหลังคอเสื้อ หรือข้างใน ไม่ต้องห่วงว่าจะเคืองหรือคันเลย กระดุมแข็งแรงเอามากๆ ใช้แรงผู้ใหญ่ดึงแรงๆ ก็ไม่มีปัญหาเลย ไฮไลท์สำคัญที่คุณแม่แทบกรี๊ด คือเป็นไม่เปื้อนค่าาาา เทน้ำ เทนมใส่เสื้อ ไม่เปียกเลย สะบัดสองที หายปกติ ซึ่งถ้าใครเคยเห็นโฆษณา GQ ที่เสื้อเชิ้ตขาวไปทำงานคุณพ่อ โดนกาแฟหกใส่ แต่ผ้าไม่เปื้อนเลย เทคโนโลยีผ้าสะท้อนน้ำ ตอนนี้มาอยู่ในเสื้อเด็กแล้ววววว ทีมงานทดสอบเทน้ำสีผสมอาหาร นม หรือแม้แต่ซอสมะเขือเทศลงบนเสื้อ ก็ไม่เปื้อนค่ะ ไม่น่าเชื่อมากๆ ข้อดีที่สุดของผ้าแบบนี้ คือทำให้ชีวิตคุณแม่สบายขึ้นมาก พาลูกไปเที่ยว วิ่งเล่นสนามหญ้า พาไปทานก๋วยเตี๋ยว หรือให้ทานอะไร ก็ไม่ต้องกลัวเสื้อสวยๆ เลอะ แถมประหยัดเวลาซักผ้าด้วย ไม่ต้องมาคอยแช่ผ้าให้คราบมันออกแบบสมัยก่อน สำหรับเสื้อเด็ก the good day lab™…
8 ธันวาคม 2566

anal porno zdarma culi nudi al mare free sex videos antalya escort

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save