fbpx

NEWS: ช่วงนี้ต้องระวัง เด็กเล็กป่วยปอดบวม หากเป็นไข้หวัด 3 วันแล้วยังไม่ดีขึ้น

Writer : Lalimay
: 17 กันยายน 2564

นอกจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรสโควิด-19 แล้ว คุณพ่อคุณแม่ก็ยังต้องระวังโรคประจำฤดูต่างๆ อย่างไข้หวัดด้วย เพราะถ้าเกิดว่าลูกป่วย แล้วมีอการการเรื้อรัง อาจส่งผลให้เป็นโรคปอดบวมและเสี่ยงเสียชีวิตได้

จากการเฝ้าระวังสถานการณ์โรคปอดบวม ช่วงฤดูฝนปีนี้ ทั่วประเทศพบผู้ป่วย จำนวน 24,895 ราย เสียชีวิต 22 ราย ผู้ป่วยส่วนใหญ่เป็นกลุ่มผู้สูงอายุ และเด็กอายุต่ำกว่า 5 ขวบ

นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า ขณะนี้หลายพื้นที่ฝนตกชุกต่อเนื่อง ประชาชนมีโอกาสป่วยเป็นโรคระบบทางเดินหายใจมากขึ้น โดยเฉพาะไข้หวัด ซึ่งเกิดจากเชื้อไวรัสชนิดไม่รุนแรง เป็นได้ทุกวัย พบได้บ่อยในช่วงที่สภาพอากาศเปลี่ยนแปลง 

โดยทั่วไปไข้หวัดเป็นโรคติดต่อที่ไม่อันตราย เริ่มแรกมักมีอาการครั่นเนื้อครั่นตัว มีไข้ต่ำๆ ไอ มีน้ำมูก ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยตามร่างกาย อ่อนเพลีย อาการจะค่อยๆ ดีขึ้นเองหลังจากป่วยแล้วประมาณวันที่ 3 โดยไข้จะลดลง มักหายได้เองภายใน 1 สัปดาห์ อาจไอต่อไปได้อีก 1-2 สัปดาห์  แต่หากยังไม่ดีขึ้นและมีอาการอย่างใดอย่างหนึ่งต่อไปนี้คือมีไข้สูง ไอมาก หายใจหอบเร็ว น้ำมูกเปลี่ยนสีจากสีเหลืองอ่อนๆ เป็นสีเขียว ก็น่าเป็นห่วง

เพราะอาจมีโรคแทรกซ้อนที่ปอดที่สำคัญและเป็นอันตรายถึงชีวิตคือโรคปอดบวมหรือปอดอักเสบ (Pneumonia) ให้รีบไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลหรือสถานบริการธารณสุขที่อยู่ใกล้บ้านโดยเร็ว เพื่อรับการรักษาได้อย่างถูกต้องและทันท่วงที

สำหรับวิธีการป้องกันไม่ให้ลูกป่วยเป็นไข้หวัด นอกจากการดูแลตัวเองเหมือนป้องกันโควิด-19 แล้ว คุณพ่อคุณแม่ควรพยายามหากิจกรรมที่ทำให้ลูกได้ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ และให้ลูกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์โดยเฉพาะเพิ่มการกินผักและผลไม้ให้มากขึ้น ซึ่งในผักและผลไม้จะมีวิตามินซี ช่วยสร้างภูมิต้านทานโรคได้ 

อ้างอิงจาก

https://ddc.moph.go.th/brc/news.php?news=20614&deptcode=brc

 

Writer Profile : Lalimay

  • Blog :

  • Official Sponsors :
  • Samitivej Hospital

Generic placeholder image

บทความที่เกี่ยวข้อง



Update
Banner Banner
เมื่อคุณแม่หลายท่านเป็นกังวลกับเรื่องพัฒนาการสมองและภูมิคุ้มกันที่แตกต่างกันของลูกน้อยที่ผ่าคลอดกับเด็กคลอดธรรมชาติ กลัวว่าลูกน้อยจะมีโอกาสป่วยง่ายหรือมีพัฒนาการสมองช้ากว่าเพื่อนๆ ทำให้คุณแม่ต้องใส่ใจกับการดูแลลูกน้อยมากยิ่งขึ้น เสมือนการเร่งเสริมสร้างเกราะคุ้มกันให้ลูกน้อยเติบโตพร้อมปรับตัวกับโลกยุคใหม่ที่เต็มไปด้วยการเปลี่ยนแปลง วันนี้เราจะพาไปดูเคล็ดไม่ลับ ฉบับการดูแลพัฒนาการสมองของลูกน้อยและภูมิคุ้มกันของเด็กผ่าคลอดที่คุณแม่ไม่ควรมองข้าม ช่วยเติมเต็มในสิ่งที่ลูกผ่าคลอดต้องการได้ ไปดูกันเลย! เกราะคุ้มกันแรกที่หายไปของเด็กผ่าคลอด เด็กผ่าคลอดมักจะป่วยง่ายหรือมีปัญหาสุขภาพมากกว่าเด็กที่คลอดโดยธรรมชาติ เพราะสูญเสียโอกาสในการได้รับเชื้อจุลินทรีย์สุขภาพ ผ่านทางบริเวณช่องคลอดของคุณแม่ ทำให้เกราะคุ้มกันแรกเกิดของลูกน้อยผ่าคลอดหายไปส่งผลให้เด็กมีพัฒนาการทางระบบภูมิคุ้มกันตั้งต้นช้ากว่าเด็กที่คลอดตามธรรมชาติ บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) เป็นจุลินทรีย์ชนิดดีที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันตั้งต้น โดยเฉพาะระบบภูมิคุ้มกันในระบบทางเดินอาหาร คุณแม่จึงต้องเร่งเสริมสร้างเกราะคุ้มกันให้ลูกน้อยมีพื้นฐานที่ดีตั้งแต่เริ่มต้น เพื่อช่วยให้ลูกน้อยของเรามีมีระบบภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้น เสริมสร้างพัฒนาการด้านสมองของเด็กผ่าคลอดด้วย “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” คือสารอาหารที่พบมากในนมแม่ เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้การทำงานสมองของลูกน้อยมีประสิทธิภาพ สร้างสมองไวกว่าเดิม เชื่อมต่อเซลล์สมอง 1 แสนล้านเซล์ อัพเกรดเด็กเจนใหม่ โดยสร้างสารสื่อประสาทในสมอง และเพิ่มความเร็วการส่งสัญญาณประสาทแบบก้าวกระโดด “สฟิงโกไมอีลิน” คือ ไขมันกลุ่มฟอสโฟไลปิด พบได้มากในน้ำนมแม่ที่อุดมไปด้วยสารอาหารกว่า 200 ชนิด ซึ่ง “สฟิงโกไมอีลิน”เป็นองค์ประกอบในการสร้างปลอกไมอีลิน ซึ่งมีผลต่อการทำงานของสมองให้ส่งสัญญาณประสาทได้ไวและประมวลผลอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้เกิดการจดจำเร็ว เรียนรู้ไว สมองของเด็กผ่าคลอดและเด็กที่คลอดตามธรรมชาติ มีการสร้างไมอีลินในสมองแตกต่างกัน โดยเฉพาะที่ส่วนของสมอง ที่ทำหน้าที่เชื่อมโยงระหว่างสมองซีกซ้ายและซีกขวา คุณแม่จึงควรคำนึงถึงจุดเริ่มต้นที่แตกต่าง ของเด็กผ่าคลอดเจนใหม่ ด้วยการเตรียมสมองไวและภูมิคุ้มกันที่ดีด้วย “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” และ บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) จากนมแม่ให้ลูกน้อยยิ่งเริ่มเร็วก็ยิ่งดี เพราะพัฒนาการสมองที่ดีในวัยเด็ก ถือเป็นรากฐานสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการมองเห็น การได้ยิน หรือการเรียนรู้ภาษาสิ่งเหล่านี้ล้วนเกิดจากพัฒนาการของสมองเพราะสมองคือจุดเริ่มต้น ของทุกพัฒนาการของลูกน้อย เตรียมพร้อมเด็กผ่าคลอดให้มีสมองไวและภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้นได้ คุณแม่สามารถเติมเต็มในสิ่งที่ลูกน้อยผ่าคลอดต้องการได้ด้วยสารอาหารที่สำคัญอย่างเช่น “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” ที่ช่วยเพิ่มความเร็วในการส่งสัญญาณประสาทได้เร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น และโพรไบโอติก บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) ตัวช่วยที่ทำให้ลูกน้อยมีภูมิคุ้มกันสุขภาพที่ดี ดังนั้นคุณแม่ก็วางใจได้ หากเราเสริมสร้าง…
3 กันยายน 2568

anal porno zdarma culi nudi al mare free sex videos antalya escort

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save