fbpx

NEWS : ผู้ปกครองร้อง! เด็กโดนตีจนไม่กล้าไปโรงเรียน เผยครูใช้ไม้บรรทัดเหล็กตีเพราะเด็กเขียนหนังสือช้า

Writer : Jicko
: 21 เมษายน 2565

การสังเกตพฤติกรรมหรืออาการของลูกหลังเลิกเรียนเป็นสิ่งที่คุณพ่อคุณแม่จำเป็นต้องทำนะคะ เพราะเราจะได้รู้ว่า ลูกของเรานั้นไปโรงเรียนแต่ละวันเป็นยังไง มีเรื่องราวที่ทุกข์สุขแบบไหน อาจจะพูดคุยกับเขาบ่อยๆ เพราะหากเกิดสิ่งผิดปกติ เช่น ร้องไห้ ลูกไม่อยากไปโรงเรียนขึ้นมา เราจะได้สืบหาความจริงกันได้ยังไงล่ะคะ

อย่างกรณีครูตีเด็กนี้เกิดขึ้นหลังผู้ปกครองร้องสื่อ โดยที่หลายชายวัย 5 ขวบ ซึ่งกำลังเรียนชั้นอนุบาล 2 ของโรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่ง ถูกครูใช้ไม้บรรทัดฟุตเหล็กตีจนมือแดงบวมและตีเด็กบ่อยมากจนเด็กเกิดความกลัวไม่ยอมไปโรงเรียน

โดยเมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมาในช่วงเทอมที่ 2 หลังจากที่พ่อไปรับน้องแชมป์กลับจากโรงเรียน ก็มีอาการผิดปกติร้องไห้ พร้อมบ่นเจ็บมือ เมื่อนำมือมาดูพบว่าแดงบวม จึงพาไปหาหมอพบว่ามีรอยแดงบวม แต่ไม่มีบาดแผลและแพทย์ได้ให้ยามารับประทานที่บ้านและถามน้องแชมป์ว่าทำไมมือถึงแดงบวมโดยน้องแชมป์บอกว่าโดนครูใช้ไม้บรรทัดเหล็กตีว่าเขียนหนังสือช้า

แต่ปัญหาคือหลังจากถูกตีเด็กที่เคยร่าเริงกลับกลายเป็นเด็กซึมเงียบไม่พูดคุยและกลายเป็นเด็กก้าวร้าวและปัญหาใหญ่คือ ไม่ยอมไปโรงเรียนอีกเลย ได้ยินคำว่าครูก็จะร้องไห้และเมื่อลองพาขี่รถผ่านหน้าโรงเรียนมีอาการหวาดกลัวขึ้นมาทันที

โดยตอนนี้ตนเองยังไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรให้น้องแชมป์ไปเรียนหนังสือได้ แก้ปัญหาด้วยการให้ไปเรียนกับครูอีกรายที่เปิดบ้านสอนแต่ก็ต้องหลอกว่าให้พี่ช่วยสอนและได้เล่นกับเพื่อนๆ และขอให้ครูผู้สอนอย่าใช้สรรพนามตัวเองว่าครูแต่ให้ใช้พี่แทนซึ่งตนเองยังไม่รู้ว่าในอนาคตที่เปิดเทอมใหม่จะทำอย่างไรให้น้องแชมป์ไปเรียนที่โรงเรียนได้

โดยตนเองได้พยามเจรจากับโรงเรียนเอกชนเพื่อให้โรงเรียนช่วยดูแลเพราะต้องย้ายและพาน้องแชมป์ไปเรียนที่ใหม่และยังไม่รู้ว่าจะต้องเริ่มต้นเรียนในระดับอนุบาลใหม่หรือไม่ รวมถึงต้องเริ่มต้นซื้ออุปกรณ์การเรียนทั้งเสื้อผ้าหนังสือกระเป๋านักเรียนของโรงเรียนใหม่ทั้งหมดเพราะน้องไม่ยอมไปโรงเรียนเก่า ตอนนี้ไปแจ้งความไว้ที่สถานีตำรวจภูธรเมืองพิจิตรแล้วระยะเวลาผ่านไป 2 เดือน ยังไม่มีอะไรคืบหน้า

อ้างอิงจาก : https://news.ch7.com/detail/564370

Writer Profile : Jicko

  • Social Media :

  • Official Sponsors :
  • Samitivej Hospital

Generic placeholder image

บทความที่เกี่ยวข้อง



Update
Banner Banner
เมื่อคุณแม่หลายท่านเป็นกังวลกับเรื่องพัฒนาการสมองและภูมิคุ้มกันที่แตกต่างกันของลูกน้อยที่ผ่าคลอดกับเด็กคลอดธรรมชาติ กลัวว่าลูกน้อยจะมีโอกาสป่วยง่ายหรือมีพัฒนาการสมองช้ากว่าเพื่อนๆ ทำให้คุณแม่ต้องใส่ใจกับการดูแลลูกน้อยมากยิ่งขึ้น เสมือนการเร่งเสริมสร้างเกราะคุ้มกันให้ลูกน้อยเติบโตพร้อมปรับตัวกับโลกยุคใหม่ที่เต็มไปด้วยการเปลี่ยนแปลง วันนี้เราจะพาไปดูเคล็ดไม่ลับ ฉบับการดูแลพัฒนาการสมองของลูกน้อยและภูมิคุ้มกันของเด็กผ่าคลอดที่คุณแม่ไม่ควรมองข้าม ช่วยเติมเต็มในสิ่งที่ลูกผ่าคลอดต้องการได้ ไปดูกันเลย! เกราะคุ้มกันแรกที่หายไปของเด็กผ่าคลอด เด็กผ่าคลอดมักจะป่วยง่ายหรือมีปัญหาสุขภาพมากกว่าเด็กที่คลอดโดยธรรมชาติ เพราะสูญเสียโอกาสในการได้รับเชื้อจุลินทรีย์สุขภาพ ผ่านทางบริเวณช่องคลอดของคุณแม่ ทำให้เกราะคุ้มกันแรกเกิดของลูกน้อยผ่าคลอดหายไปส่งผลให้เด็กมีพัฒนาการทางระบบภูมิคุ้มกันตั้งต้นช้ากว่าเด็กที่คลอดตามธรรมชาติ บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) เป็นจุลินทรีย์ชนิดดีที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันตั้งต้น โดยเฉพาะระบบภูมิคุ้มกันในระบบทางเดินอาหาร คุณแม่จึงต้องเร่งเสริมสร้างเกราะคุ้มกันให้ลูกน้อยมีพื้นฐานที่ดีตั้งแต่เริ่มต้น เพื่อช่วยให้ลูกน้อยของเรามีมีระบบภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้น เสริมสร้างพัฒนาการด้านสมองของเด็กผ่าคลอดด้วย “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” คือสารอาหารที่พบมากในนมแม่ เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้การทำงานสมองของลูกน้อยมีประสิทธิภาพ สร้างสมองไวกว่าเดิม เชื่อมต่อเซลล์สมอง 1 แสนล้านเซล์ อัพเกรดเด็กเจนใหม่ โดยสร้างสารสื่อประสาทในสมอง และเพิ่มความเร็วการส่งสัญญาณประสาทแบบก้าวกระโดด “สฟิงโกไมอีลิน” คือ ไขมันกลุ่มฟอสโฟไลปิด พบได้มากในน้ำนมแม่ที่อุดมไปด้วยสารอาหารกว่า 200 ชนิด ซึ่ง “สฟิงโกไมอีลิน”เป็นองค์ประกอบในการสร้างปลอกไมอีลิน ซึ่งมีผลต่อการทำงานของสมองให้ส่งสัญญาณประสาทได้ไวและประมวลผลอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้เกิดการจดจำเร็ว เรียนรู้ไว สมองของเด็กผ่าคลอดและเด็กที่คลอดตามธรรมชาติ มีการสร้างไมอีลินในสมองแตกต่างกัน โดยเฉพาะที่ส่วนของสมอง ที่ทำหน้าที่เชื่อมโยงระหว่างสมองซีกซ้ายและซีกขวา คุณแม่จึงควรคำนึงถึงจุดเริ่มต้นที่แตกต่าง ของเด็กผ่าคลอดเจนใหม่ ด้วยการเตรียมสมองไวและภูมิคุ้มกันที่ดีด้วย “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” และ บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) จากนมแม่ให้ลูกน้อยยิ่งเริ่มเร็วก็ยิ่งดี เพราะพัฒนาการสมองที่ดีในวัยเด็ก ถือเป็นรากฐานสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการมองเห็น การได้ยิน หรือการเรียนรู้ภาษาสิ่งเหล่านี้ล้วนเกิดจากพัฒนาการของสมองเพราะสมองคือจุดเริ่มต้น ของทุกพัฒนาการของลูกน้อย เตรียมพร้อมเด็กผ่าคลอดให้มีสมองไวและภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้นได้ คุณแม่สามารถเติมเต็มในสิ่งที่ลูกน้อยผ่าคลอดต้องการได้ด้วยสารอาหารที่สำคัญอย่างเช่น “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” ที่ช่วยเพิ่มความเร็วในการส่งสัญญาณประสาทได้เร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น และโพรไบโอติก บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) ตัวช่วยที่ทำให้ลูกน้อยมีภูมิคุ้มกันสุขภาพที่ดี ดังนั้นคุณแม่ก็วางใจได้ หากเราเสริมสร้าง…
3 กันยายน 2568

anal porno zdarma culi nudi al mare free sex videos antalya escort

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save