fbpx

ทริค พาลูก “ทำฟันครั้งแรก” ให้เจ้าตัวน้อยสนุก และไม่กลัวหมอฟัน!

Writer : chonrapraew
: 10 มิถุนายน 2565

คุณพ่อคุณแม่หลายๆ คนคงเคยเจอปัญหาที่เมื่อครบกำหนดวันที่ต้องพาเด็กๆ ไปทำฟัน แล้วเด็กๆ จะงอแงไม่ยอมไปกันใช่ไหมคะ

วันนี้ Parents One มีทริคดีๆ ที่จะทำให้การไปหาหมอฟันเป็นเรื่องง่าย แถมสนุกอีกด้วย!

ทำความคุ้นเคยกับคุณหมอ

หากเด็กๆ บ้านไหนไม่เคยไปพบคุณหมอฟันเลยสักครั้ง วิธีที่ดีที่สุดที่จะทำให้เด็กๆ ไม่กลัวการไปคลินิก คือ คุณพ่อคุณแม่ต้องมีการเตี๊ยมกับคุณหมอก่อน โดยอาจจะแกล้งๆ โทรไปคุยกับคุณหมอก่อน แล้วให้คุณหมอชวนเจ้าตัวเล็กคุยถึงเรื่องต่างๆ ในชีวิตประจำวันของลูก เช่น ชวนคุยถึงเพื่อนที่โรงเรียนอนุบาล อาหารหรือขนมที่ชอบ ตุ๊กตาตัวโปรด หรือแม้กระทั่งตัวการ์ตูนตัวโปรดการทำเช่นนี้จะทำให้เด็กที่ทำฟันรู้สึกผ่อนคลาย และสนุกไปกับคุณหมอ ไม่เกร็ง และลดความกังวล ไม่กลัวหมอฟันด้วยนั่นเองค่ะ

 

เช็กฟัน ก่อนทำจริง! 

หากในกรณีที่เด็กๆ ยังไม่ได้มีอาการปวดฟันมาก เราขอแนะนำให้คุณพ่อคุณแม่ลองพาเด็กๆ ไปเช็กสภาพฟันก่อนหนึ่งครั้ง เพื่อให้เมื่อครั้งต่อไปที่ต้องมาทำการรักษาจริงๆ เด็กๆ จะได้ไม่กลัว เพราะรู้อยู่แล้วว่า การมาคลินิกทำฟันไม่ได้เป็นเรื่องที่น่ากลัว และยังมีพี่คุณหมอที่ใจดี และชอบเล่าเรื่องต่างๆ ให้ฟังในระหว่างการทำฟันอีกด้วย 

นอกจากนี้ เมื่อเด็กๆ ทำฟันเสร็จแล้ว คุณพ่อคุณแม่ยังสามารถให้รางวัลเป็นการให้ทานขนมที่ชอบ หรือพาไปสถานที่ที่อยากไป เพื่อทำให้เด็กๆ รู้สึกว่า การมาคลินิกทำฟันเป็นเรื่องที่สนุกและยินดีที่จะมาในครั้งต่อๆ ไป

 

กรณีฉุกเฉินต้องมาหาคุณหมอด่วน!

หากกรณีที่บ้านไหนยังไม่เคยพาเด็กๆ ไปหาหมอฟันเลยสักครั้ง แล้วการไปหาครั้งแรกเป็นเพราะเด็กๆ ปวดฟันมากกกแบบทนไม่ไหว แล้วต้องรีบไปถอนออกทันที วิธีการที่จะทำให้เด็กๆ รู้สึกผ่อนคลาย และไม่กลัวกับการต้องมาหาคุณหมอในครั้งต่อๆไป คือ คุณพ่อคุณแม่ต้องมีการพูด เพื่อผ่อนคลายระหว่างการเดินทาง เช่น การบอกว่าพี่หมอฟันใจดีมาก หรืออาจจะมีการหลอกล่อด้วยการให้รางวัลเมื่อทำเสร็จ 

นอกจากนี้หากไปถึงคลินิกแล้วคุณพ่อคุณแม่สามารถรีบไปเตี๊ยมกับพี่พยาบาล หรือคุณหมอว่าในระหว่างทำอาจขอให้พี่พยาบาลช่วยเล่านิทานไปเรื่อยๆ เปรียมเสมือนการทำให้เด็กๆ รู้สึกเหมือนว่าตัวเองกำลังผจญภัยอยู่ ดังนั้นความจดจ่อของเด็กๆ จะไปอยู่ที่การฟังเรื่องราวที่พี่พยาบาลเล่าให้ฟังแทน ทำให้ไม่ได้โฟกัสอยู่ที่ขั้นตอนและกระบวนการทำฟันต่างๆ ที่คุณหมอกำลังจัดการกับฟันอยู่ 

และเมื่อทำเสร็จแล้ว ส่วนใหญ่หมอฟันเด็กจะสามารถดึงความรู้สึกของเด็กให้กลับมาเชิงบวกได้อีกครั้งค่ะ โดยเป็นการใช้หลักจิตวิทยาให้เด็กเรียนรู้ใหม่ว่าการทำฟันนั้นไม่ได้ยากและน่ากลัวอย่างที่คิดเลย แถมยังสามารถสนุกไปกับมันได้อีกด้วย!

 

การทำฟันไม่ใช่เรื่องที่น่ากลัวอย่าที่คิด ถ้าคุณพ่อคุณแม่มีการวางแผนมาก่อนก็สามารถทำให้เรื่องยากอย่างการพาเด็กๆ ไปทำฟันเป็นเรื่องง่ายได้ค่า ยังไงลองเอาทริคที่เราเสนอไปลองปรับใช้กันได้นะค้าาา ได้ผลกันยังไงสามารถมาคอมเม้นมาแบ่งปันกันได้เลยน้าา

 

ขอบคุณข้อมูลที่มาจาก

SmileDc คลินิกทันตกรรม

 

Writer Profile : chonrapraew

  • Blog :
  • Social Media :

  • Official Sponsors :
  • Samitivej Hospital

Generic placeholder image

บทความที่เกี่ยวข้อง



Update
Banner Banner
เมื่อคุณแม่หลายท่านเป็นกังวลกับเรื่องพัฒนาการสมองและภูมิคุ้มกันที่แตกต่างกันของลูกน้อยที่ผ่าคลอดกับเด็กคลอดธรรมชาติ กลัวว่าลูกน้อยจะมีโอกาสป่วยง่ายหรือมีพัฒนาการสมองช้ากว่าเพื่อนๆ ทำให้คุณแม่ต้องใส่ใจกับการดูแลลูกน้อยมากยิ่งขึ้น เสมือนการเร่งเสริมสร้างเกราะคุ้มกันให้ลูกน้อยเติบโตพร้อมปรับตัวกับโลกยุคใหม่ที่เต็มไปด้วยการเปลี่ยนแปลง วันนี้เราจะพาไปดูเคล็ดไม่ลับ ฉบับการดูแลพัฒนาการสมองของลูกน้อยและภูมิคุ้มกันของเด็กผ่าคลอดที่คุณแม่ไม่ควรมองข้าม ช่วยเติมเต็มในสิ่งที่ลูกผ่าคลอดต้องการได้ ไปดูกันเลย! เกราะคุ้มกันแรกที่หายไปของเด็กผ่าคลอด เด็กผ่าคลอดมักจะป่วยง่ายหรือมีปัญหาสุขภาพมากกว่าเด็กที่คลอดโดยธรรมชาติ เพราะสูญเสียโอกาสในการได้รับเชื้อจุลินทรีย์สุขภาพ ผ่านทางบริเวณช่องคลอดของคุณแม่ ทำให้เกราะคุ้มกันแรกเกิดของลูกน้อยผ่าคลอดหายไปส่งผลให้เด็กมีพัฒนาการทางระบบภูมิคุ้มกันตั้งต้นช้ากว่าเด็กที่คลอดตามธรรมชาติ บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) เป็นจุลินทรีย์ชนิดดีที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันตั้งต้น โดยเฉพาะระบบภูมิคุ้มกันในระบบทางเดินอาหาร คุณแม่จึงต้องเร่งเสริมสร้างเกราะคุ้มกันให้ลูกน้อยมีพื้นฐานที่ดีตั้งแต่เริ่มต้น เพื่อช่วยให้ลูกน้อยของเรามีมีระบบภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้น เสริมสร้างพัฒนาการด้านสมองของเด็กผ่าคลอดด้วย “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” คือสารอาหารที่พบมากในนมแม่ เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้การทำงานสมองของลูกน้อยมีประสิทธิภาพ สร้างสมองไวกว่าเดิม เชื่อมต่อเซลล์สมอง 1 แสนล้านเซล์ อัพเกรดเด็กเจนใหม่ โดยสร้างสารสื่อประสาทในสมอง และเพิ่มความเร็วการส่งสัญญาณประสาทแบบก้าวกระโดด “สฟิงโกไมอีลิน” คือ ไขมันกลุ่มฟอสโฟไลปิด พบได้มากในน้ำนมแม่ที่อุดมไปด้วยสารอาหารกว่า 200 ชนิด ซึ่ง “สฟิงโกไมอีลิน”เป็นองค์ประกอบในการสร้างปลอกไมอีลิน ซึ่งมีผลต่อการทำงานของสมองให้ส่งสัญญาณประสาทได้ไวและประมวลผลอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้เกิดการจดจำเร็ว เรียนรู้ไว สมองของเด็กผ่าคลอดและเด็กที่คลอดตามธรรมชาติ มีการสร้างไมอีลินในสมองแตกต่างกัน โดยเฉพาะที่ส่วนของสมอง ที่ทำหน้าที่เชื่อมโยงระหว่างสมองซีกซ้ายและซีกขวา คุณแม่จึงควรคำนึงถึงจุดเริ่มต้นที่แตกต่าง ของเด็กผ่าคลอดเจนใหม่ ด้วยการเตรียมสมองไวและภูมิคุ้มกันที่ดีด้วย “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” และ บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) จากนมแม่ให้ลูกน้อยยิ่งเริ่มเร็วก็ยิ่งดี เพราะพัฒนาการสมองที่ดีในวัยเด็ก ถือเป็นรากฐานสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการมองเห็น การได้ยิน หรือการเรียนรู้ภาษาสิ่งเหล่านี้ล้วนเกิดจากพัฒนาการของสมองเพราะสมองคือจุดเริ่มต้น ของทุกพัฒนาการของลูกน้อย เตรียมพร้อมเด็กผ่าคลอดให้มีสมองไวและภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้นได้ คุณแม่สามารถเติมเต็มในสิ่งที่ลูกน้อยผ่าคลอดต้องการได้ด้วยสารอาหารที่สำคัญอย่างเช่น “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” ที่ช่วยเพิ่มความเร็วในการส่งสัญญาณประสาทได้เร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น และโพรไบโอติก บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) ตัวช่วยที่ทำให้ลูกน้อยมีภูมิคุ้มกันสุขภาพที่ดี ดังนั้นคุณแม่ก็วางใจได้ หากเราเสริมสร้าง…
3 กันยายน 2568

anal porno zdarma culi nudi al mare free sex videos antalya escort

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save