fbpx

แม่จ๋าหนูคันก้น! รู้จักพยาธิเข็มหมุด วายร้ายที่ทำให้ลูกคันก้น

Writer : Lalimay
: 29 เมษายน 2564

มีเด็กๆ บ้านไหนชอบร้องว่าคันก้นตอนกลางคืนกันบ้างไหมคะ อาการคันก้นของลูกไม่ใช่เรื่องปกติ และสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ลูกคันก้นอาจมาจาก “พยาธิเข็มหมุด” นั่นเอง คุณพ่อคุณแม่อาจเคยได้ยินข่าวที่เด็กมีพยาธิไชก้น ติดมาจากการนั่งเก้าอี้ ซึ่งนั่นเป็นเรื่องจริงนะคะ วันนี้เราจะพาทุกคนมารู้จักกับพยาธิชนิดนี้ให้มากขึ้น รวมไปถึงวิธีป้องกันไม่ให้พยาธิมาไชก้นของลูกอีกต่อไปค่ะ

พยาธิเข็มหมุดคืออะไร ?

พยาธิเข็มหมุด หรือที่รู้จักในอีกชื่อหนึ่งคือ พยาธิเส้นด้าย เป็นพยาธิตัวกลมลักษณะคล้ายเข็มหมุดหรือเส้นด้าย มีขนาดเล็กประมาณ 2-10 มิลลิเมตร สีซีดขาว อาศัยในทางเดินอาหาร โดยเฉพาะทางเดินอาหารส่วนล่าง และจะมาแย่งอาหารของคนในทางเดินอาหาร โดยไข่ของพยาธิคือตัวการสำคัญที่ทำให้เกิดการติดต่อ ซึ่งไข่ของพยาธิเข็มหมุดนี้เมื่ออยู่ในสภาวะที่เหมาะสมจะสามารถมีชีวิตอยู่บนพื้นผิวต่างๆ รอบตัวเราได้ ราวๆ 2-3 สัปดาห์เลยทีเดียว

อาการเมื่อลูกอาจมีพยาธิ

สำหรับอาการที่พบบ่อยและเห็นได้ชัดคือ คันบริเวณรูก้นโดยเฉพาะในเวลากลางคืน ซึ่งจะทำให้ลูกนอนหลับไม่สนิท กระสับกระส่าย ร้องไห้งอแง อยู่ไม่สุข และบางครั้งเมื่อเกามากก็จะทำให้เกิดแผลถลอกและเป็นสาเหตุให้มีการติดเชื้อแบคทีเรียแทรกซ้อนได้

ทำไมลูกถึงคันก้น ?

พยาธิเข็มหมุดตัวเมียจะเคลื่นที่ออกมาจากปลายลำไส้ใหญ่และวางไข่ประมาณ 11,000 – 15,000 ฟองรอบๆ รูก้นรวมไปถึงบริเวณใกล้เคียงในตอนกลางคืนถือเป็นสิ่งแปลกปลอมที่ทำให้รู้ก้นมีการระคายเคือง นั่นจึงเป็นสาเหตุที่ทำให้เด็กที่มีพยาธิเข็มหมุดมักจะคันก้นในช่วงเวลากลางคืนค่ะ

พยาธิเข็มหมุดติดต่อจากอะไร ?

ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่า พยาธิเข็มหมุดนี้จะพบมากในเด็กวัยเรียนอายุประมาณ 5-8 ปี ซึ่งเป็นช่วงวัยที่กำลังซน ชอบวิ่งเล่น นั่งกับพื้นและเอามือเข้าปาก โดยสิ่งที่ทำให้พยาธิเข็มหมุดติดต่อกันได้ก็คือ “ไข่พยาธิ” คือเมื่อเด็กเกาก้นที่เป็นแหล่งวางไข่ของพยาธิ ก็จะทำให้ไข้พยาธิมีการฟุ้งกระจาย และติดไปตามซอกเล็บ หรือนิ้วมือของเด็กได้ ดังนั้นช่องทางที่ทำให้เกิดการต่อต่อของพยาธิเข็มหมุดขึ้นคือ

  • จากการเอามือเข้าปาก ไม่ว่าจะเป็นการกัดเล็บ หรือการหยิบอาหารด้วยมือ ก็อาจปนเปื้อนไข่พยาธิได้เพราะซอกเล็บอาจมีไข่พยาธิปนอยู่
  • จากการหายใจ โดยสูดเอาไข่พยาธิที่ฟุ้งในอากาศเข้าไป เพราะเมื่อลูกเกาก้นไข้พยาธิจะฟุ้งและมาเกาะตามวัตถุต่างๆ ที่พบบ่อยจะเป็นตามที่นอน ผ้าห่ม และหมอน และมีโอกาสที่จะติดตามเก้าอี้ได้ด้วย
  • ติดเชื้อย้อนกลับทางทวาร เมื่อไข่พยาธิฟักตัวที่รูก้นเสร็จแล้วพยาธิเข็มหมุดก็จะไชกลับเข้าไปในรูก้นเพื่อไปอาศัยในลำไส้ตามเดิม

วิธีป้องกัน

สิ่งสำคัญคือรักษาความสะอาดทั้งร่างกายและของใช้ของลูกให้ดี

  • ตัดเล็บลูกให้สั้น : จะช่วยให้ไข่พยาธิไม่สามารถเกาะติดตามซอกเล็บที่ยาวๆ ได้
  • ล้างมือบ่อยๆ : ทั้งก่อนและหลังรับประทานอาหาร รวมถึงหลังไปเล่นดินทรายด้วย ในช่วงนี้การล้างมือบ่อยๆ ถือเป็นเรื่องดี เพราะนอกจากจะช่วยป้องกันไวรัสแล้วยังช่วยป้องกันพยาธิได้ด้วย
  • ซักเครื่องนอนด้วยน้ำร้อน : ไข่พยาธิจะตายเมื่อถูกน้ำร้อน ดังนั้นซักผ้าปูที่นอน หมอน ผ้าห่ม ให้สะอาดอยู่เสมอ
  • อาบน้ำตอนเช้า : เพื่อลดการสัมผัสไข่พยาธิ
  • ห้ามเการูก้น : พยายามอย่าให้ลูกเการูก้น เพื่อลดการฟุ้งกระจายของไข่พยาธิ

เป็นยังไงบ้างคะกับสิ่งที่เรานำมาฝากในวันนี้ หากคุณพ่อคุณแม่พบว่าลูกมีความเสี่ยงที่จะมีพยาธิ มีการเกาก้น ร้องไห้งอแง นอนไม่หลับก็ควรพาไปปรึกษาคุณหมอเพื่อได้รับการรักษาที่ถูกต้องนะคะ

ขอบคุณข้อมูลอ้างอิงจาก

Writer Profile : Lalimay

  • Blog :

  • Official Sponsors :
  • Samitivej Hospital

Generic placeholder image

บทความที่เกี่ยวข้อง



ลูกชอบพูดแทรก จะแก้อย่างไร
ชีวิตครอบครัว
แม่จ๋า! น้ำร้อนลวกหนู ทำอย่างไรดี
ข้อมูลทางแพทย์
Update
Banner Banner
เมื่อคุณแม่หลายท่านเป็นกังวลกับเรื่องพัฒนาการสมองและภูมิคุ้มกันที่แตกต่างกันของลูกน้อยที่ผ่าคลอดกับเด็กคลอดธรรมชาติ กลัวว่าลูกน้อยจะมีโอกาสป่วยง่ายหรือมีพัฒนาการสมองช้ากว่าเพื่อนๆ ทำให้คุณแม่ต้องใส่ใจกับการดูแลลูกน้อยมากยิ่งขึ้น เสมือนการเร่งเสริมสร้างเกราะคุ้มกันให้ลูกน้อยเติบโตพร้อมปรับตัวกับโลกยุคใหม่ที่เต็มไปด้วยการเปลี่ยนแปลง วันนี้เราจะพาไปดูเคล็ดไม่ลับ ฉบับการดูแลพัฒนาการสมองของลูกน้อยและภูมิคุ้มกันของเด็กผ่าคลอดที่คุณแม่ไม่ควรมองข้าม ช่วยเติมเต็มในสิ่งที่ลูกผ่าคลอดต้องการได้ ไปดูกันเลย! เกราะคุ้มกันแรกที่หายไปของเด็กผ่าคลอด เด็กผ่าคลอดมักจะป่วยง่ายหรือมีปัญหาสุขภาพมากกว่าเด็กที่คลอดโดยธรรมชาติ เพราะสูญเสียโอกาสในการได้รับเชื้อจุลินทรีย์สุขภาพ ผ่านทางบริเวณช่องคลอดของคุณแม่ ทำให้เกราะคุ้มกันแรกเกิดของลูกน้อยผ่าคลอดหายไปส่งผลให้เด็กมีพัฒนาการทางระบบภูมิคุ้มกันตั้งต้นช้ากว่าเด็กที่คลอดตามธรรมชาติ บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) เป็นจุลินทรีย์ชนิดดีที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันตั้งต้น โดยเฉพาะระบบภูมิคุ้มกันในระบบทางเดินอาหาร คุณแม่จึงต้องเร่งเสริมสร้างเกราะคุ้มกันให้ลูกน้อยมีพื้นฐานที่ดีตั้งแต่เริ่มต้น เพื่อช่วยให้ลูกน้อยของเรามีมีระบบภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้น เสริมสร้างพัฒนาการด้านสมองของเด็กผ่าคลอดด้วย “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” คือสารอาหารที่พบมากในนมแม่ เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้การทำงานสมองของลูกน้อยมีประสิทธิภาพ สร้างสมองไวกว่าเดิม เชื่อมต่อเซลล์สมอง 1 แสนล้านเซล์ อัพเกรดเด็กเจนใหม่ โดยสร้างสารสื่อประสาทในสมอง และเพิ่มความเร็วการส่งสัญญาณประสาทแบบก้าวกระโดด “สฟิงโกไมอีลิน” คือ ไขมันกลุ่มฟอสโฟไลปิด พบได้มากในน้ำนมแม่ที่อุดมไปด้วยสารอาหารกว่า 200 ชนิด ซึ่ง “สฟิงโกไมอีลิน”เป็นองค์ประกอบในการสร้างปลอกไมอีลิน ซึ่งมีผลต่อการทำงานของสมองให้ส่งสัญญาณประสาทได้ไวและประมวลผลอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้เกิดการจดจำเร็ว เรียนรู้ไว สมองของเด็กผ่าคลอดและเด็กที่คลอดตามธรรมชาติ มีการสร้างไมอีลินในสมองแตกต่างกัน โดยเฉพาะที่ส่วนของสมอง ที่ทำหน้าที่เชื่อมโยงระหว่างสมองซีกซ้ายและซีกขวา คุณแม่จึงควรคำนึงถึงจุดเริ่มต้นที่แตกต่าง ของเด็กผ่าคลอดเจนใหม่ ด้วยการเตรียมสมองไวและภูมิคุ้มกันที่ดีด้วย “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” และ บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) จากนมแม่ให้ลูกน้อยยิ่งเริ่มเร็วก็ยิ่งดี เพราะพัฒนาการสมองที่ดีในวัยเด็ก ถือเป็นรากฐานสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการมองเห็น การได้ยิน หรือการเรียนรู้ภาษาสิ่งเหล่านี้ล้วนเกิดจากพัฒนาการของสมองเพราะสมองคือจุดเริ่มต้น ของทุกพัฒนาการของลูกน้อย เตรียมพร้อมเด็กผ่าคลอดให้มีสมองไวและภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้นได้ คุณแม่สามารถเติมเต็มในสิ่งที่ลูกน้อยผ่าคลอดต้องการได้ด้วยสารอาหารที่สำคัญอย่างเช่น “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” ที่ช่วยเพิ่มความเร็วในการส่งสัญญาณประสาทได้เร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น และโพรไบโอติก บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) ตัวช่วยที่ทำให้ลูกน้อยมีภูมิคุ้มกันสุขภาพที่ดี ดังนั้นคุณแม่ก็วางใจได้ หากเราเสริมสร้าง…
3 กันยายน 2568

anal porno zdarma culi nudi al mare free sex videos antalya escort

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save